ศาลรัฐธรรมนูญ 20 พ.ย. – ศาล รธน. เริ่มประชุมลงมติคดีสมาชิกภาพ “ธนาธร” ขณะที่บรรยากาศศาล รธน. คึกคัก กลุ่มผู้สนับสนุนอนาคตใหม่ ปักหลักให้กำลังใจ มีตัวแทน 4 สถานทูตขอเข้าฟัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญจะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ( 6) ประกอบมาตรา 98 ( 3) หรือไม่ จากเหตุถือครองหุ้นสื่อบริษัท วี- ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง
บรรยากาศที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ จาก สน.ทุ่งสองห้องและ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เข้าประจำตามจุดต่างๆ ทั่วอาคาร เอ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และบริเวณโดยรอบ และได้มีการจัดเตรียมสถานที่ และวางมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยกำหนดพื้นที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องแยกเป็นสัดส่วน เพื่อการดูแลความปลอดภัย ทั้งบริเวณภายในศาลรัฐธรรมนูญ และบริเวณลานห้องโถง ที่จัดไว้ให้กลุ่มผู้สนับสนุนและผู้ที่จะมาให้กำลังใจ
โดยบรรดาผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ทยอยเดินทางมารอให้กำลังใจนายธนาธร ที่จะเดินทางมาฟังคำวินิจฉัย ในเวลา 13.00 น. ส่วนบรรดาสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศ ก็เดินทางมาปักหลักรอรายงานข่าว โดยคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้เริ่มประชุมเพื่อแถลงคำวินิจฉัยส่วนตน ในเวลา 10.00 น. และยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยสหภาพยุโรป สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน ประจำประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูต สหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย ได้ติดต่อขอส่งตัวแทนเข้ารับฟังการอ่านคำวินิจฉัย
ทั้งนี้ ผู้ที่เข้ามายังพื้นที่เขตอำนาจของศาล ต้องปฏิบัติตามระเบียบศาลรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล ตั้งแต่ห้ามส่งเสียงดังรบกวน หรือกระทำการอื่นใดอันก่อความไม่สงบเรียบร้อย และศาลถือเป็นเขตปลอดอาวุธ เว้นแต่ได้รับอนุญาติจากศาล รวมถึงต้องพึงระวังการวิพากวิจารณ์คำสั่ง คำวินิจฉัย หรือการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ หรือ หากมีการกระทำเกินเลย ถึงขั้นดูหมิ่นข่มขู่คุกคามศาล ผู้กระทำอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา และหากผู้ใดฝ่าฝืนละเมิดอำนาศาลยังมีอัตรโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน และปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการพิจารณาดีของศาลมาตรา 39 วรรค 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ กกต. ได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย และสั่งให้นายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม ซึ่งในกระบวนการพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ศาลได้เรียกพยานเข้าไต่สวนจำนวน 10 ปาก ทั้งนายธนาธร ผู้ถูกฟ้องคดี นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา
โดย นายธนาธร ยืนยันว่า มีการเซ็นโอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด จำนวน 675,000 หุ้น ให้กับนางสมพร มารดา ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ดังนั้น ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ จึงเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด
อย่างไรก็ตาม หากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ มีมติว่า นายธนาธร มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็จะมีผลให้นายธนาธรต้องพ้นจากการเป็นส.ส.ทันที และหลังจากนั้น กกต.ก็จะมีการดำเนินการในคดีอาญาตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กรณีที่นายธนาธรรู้อยู่แล้วว่า ตัวเองเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แต่ยังคงใช้สิทธิลงสมัคร ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี . – สำนักข่าวไทย