คมนาคมกางแผนพัฒนาระบบราง

กรุงเทพฯ 15 พ.ย. – คมนาคมลุยพัฒนาอุตสาหกรรมระบบราง สนองนโยบายรัฐบาลหลังอัดงบลงทุนทางรางมหาศาล พร้องกางแผน 4 ระยะ ตั้งโมเดลระบุในทีโออาร์ปี 66 ต้องผลิตภายในประเทศเท่านั้น สั่ง ขร. จัด Market Sounding ระดมกึ๋นรัฐ-เอกชน ก่อนทำแผนชัดเจน


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบราง ว่า กระทรวงคมนาคมได้หารือร่วมกับกรมการขนส่งทางราง (ขร.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อร่วมส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางและอุตสาหกรรมอื่น ๆ เกี่ยวเนื่อง พร้อมทั้งเพื่อความยั่งยืนระบบรางของประเทศ ให้เป็นไปตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้มอบนโยบาย Thai First หรือไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน 

นอกจากนี้ ได้มีข้อสั่งการให้ ขร.พิจารณาปรับระยะเวลาดำเนินการตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางฯ ให้เร็วขึ้นสอดคล้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของรัฐบาลจำนวนมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าว เป็นรูปแบบเฉพาะเช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมทางอากาศ ขณะเดียวกันมอบหมายให้ ขร.ไปจัดสำรวจความสนใจ (Market Sounding) จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนภายในปีนี้ก่อนที่จะมีการจัดทำแผนรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ ยังให้การบ้านบีโอไอพิจารณาข้อกฎหมายต่าง ๆ รองรับการลงทุนจากนักลงทุนภายในและจากต่างประเทศ


ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้กำหนดแนวคิด พร้อมตั้งเป้าหมายแผนดังกล่าว โดยจะแบ่งเป็น 4 ระยะ ประกอบด้วย 1.ภายในปี 2563 การจัดซื้อจัดจ้างและเปิดประมูลโครงการระบบรางทั้งหมด จะกำหนดให้มีการซื้อตู้รถไฟและตู้รถไฟฟ้าจากผู้ผลิตภายในประเทศ หรือผู้ผลิตที่มีแผนจะลงทุนผลิตในประเทศเท่านั้นโดยเขียนระบุเป็นเงื่อนไขไว้ในร่างขอบเขตเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์)  2.ภายในปี 2564 กำหนดให้การส่งมอบตู้รถไฟและตู้รถไฟฟ้าในโครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐทั้งหมด จะต้องประกอบชิ้นสุดท้ายในโรงงานภายในประเทศ 3.ภายในปี 2565 กำหนดให้การส่งมอบตู้รถไฟและตู้รถไฟฟ้าในโครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐทั้งหมด จะต้องใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ โดยราคาของมูลค่าชิ้นส่วน (Local Content) จะต้องไม่น้อยกว่า 40% และ 4.ภายในปี 2566 เป็นต้นไป กำหนดให้การส่งมอบตู้รถไฟและตู้รถไฟฟ้า การซ่อมบำรุง รวมถึงระบบอาณัติสัญญาณ ในโครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐทั้งหมด จะต้องผลิตภายในประเทศทั้งหมด และต้องมีการผลิตชิ้นส่วนหลัก ที่เป็นสาระสำคัญ อาทิ ตัวรถ ตู้โดยสาร ห้องควบคุม ระบบช่วงล่าง โบกี้ ระบบห้ามล้อ ระบบเชื่อมต่อ ระบบไฟฟ้า เป็นต้น

สำหรับการขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวนั้น เพื่อให้เกิดพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องคำนึงถึงมาตรฐานเทคโนโลยี กลไกภาครัฐ และสิ่งสำคัญที่สุด คือ การพัฒนาบุคลากรระบบราง เนื่องจากตามแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายรถไฟ ระยะ 20 ปี (M-Map) ตั้งแต่ปี 2561 – 2580 และแผนการจัดหารถจักรของ รฟท.ปี 2562 มีการประมาณการณ์ความต้องการจำนวนตู้รถไฟในประเทศไทยภายใน 20 ปีข้างหน้ารวมประมาณ 12,000 ตู้ จากปัจจุบัน 3,729 ตู้ โดยต้องวางแผนร่วมกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลิตบุคลากร รวมทั้งพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมระบบรางฯ ต่อไปในอนาคต รวมถึงเพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านด้วย อย่างไรก็ตาม ด้านการส่งเสริมการลงทุนของ บีโอไอนั้น จะให้สิทธิพิเศษด้านการยกเว้นภาษีการจัดตั้งโรงงานและสิทธิพิเศษด้านอื่น ๆ ให้กับผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาก่อตั้งโรงงานใน 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา และขอนแก่น และได้เสนอให้พิจารณาพื้นที่ในจังหวัดสระบุรี รวมถึงจังหวัดตามแนวเส้นทางระบบรางด้วย

“หลังจากนี้ ขร.จะต้องไปสำรวจความเห็นของภาครัฐและเอกชนว่าทำได้ไหม และให้สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนมาดำเนินการ ซึ่งแผนทั้ง 4 ระยะนั้น เป็นตุ๊กตาที่ตั้งไว้เท่านั้น ยังไม่ได้มีการสรุป หลังจากสำรวจความเห็นถึงจะทราบว่าแผนจะเป็นอย่างไร จะต้องเอาตัวเลขความต้องการ 12,000 ตู้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนว่าคือสิ่งที่อยากจะมี เพื่อให้เอกชนเข้ามาลงทุน” นายชัยวัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย