ร้อง รมว.ยธ.รับ ‘แชร์ฟอเรกซ์’ เป็นคดีพิเศษ

ก.ยุติธรรม 7 พ.ย.-กลุ่มผู้เสียหายร้อง รมว.ยุติธรรม สั่งดีเอสไอรับ ‘แชร์ฟอเรกซ์ ทรีดี’ เป็นคดีพิเศษ หลังพบบริษัทฯ ไม่เคยขออนุญาตลงทุนเทรดหุ้น-เทรดเงิน ขณะที่นักแสดงสาวโผล่ร้องลงทุนสูญ 2 ล้าน เผยซีอีโอบริษัทฯล่องหน ขายลัมโบกินี- ทยอยคืนเงินปิดปากดาราดัง



นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนผู้เสียหายแชร์ฟอเรกซ์ ทรีดี(Forex 3D)เพื่อขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากขณะนี้มีตัวเลขผู้เสียหายที่ลงทะเบียนผ่านระบบคิวอาร์โค้ดกว่า 2,080ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 411 ล้านบาท

นายสมศักดิ์  กล่าวว่า  แชร์ฟอเรกซ์มีความแตกต่างจากแชร์แม่มณี และแชร์อื่นๆ โดยมีการโฆษณาในหลายช่องทางให้เห็นถึงลักษณะการลงทุนที่ซับซ้อนใน 5 แพคเกจ คือบรอนซ์ ซิลเวอร์ โกลด์ แพลทตินัม และไดมอนด์ โดยการลงทุนต่ำสุดในแพคเกจบรอนซ์ได้รับความนิยมสูงสุด  คือ ลงทุน 2,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 60,000 บาท 20 วันได้รับปันผล 164% โดยผลกำไรทั้งหมด จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ให้นักลงทุน 60%  และอีก 40% แบ่งให้แม่ข่ายหรือบริษัทฟอเรกซ์ 


ส่วนแพคเกจไดมอนด์ ลงทุน 4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ ได้ผลตอบแทน 4,308 % ต่อปี  ซึ่งเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติ เป็นไปไม่ได้ที่การประกอบการค้าขายปกติจะได้ผลกำไรถึง 4,000%  อีกทั้งกฎหมายยังกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เกิน 6.5% ต่อปี การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายความผิดฐานการกู้ยืมเงืนอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือแชร์ลูกโซ่ ขณะนี้ดีเอสไอขอเวลาอีก 2 วัน เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า แชร์ฟอเรกซ์จะมียี่ปั๊ว ซาปั๊ว และซีปั๊ว ทำหน้าที่หาลูกค้ามาลงทุน โดยยี่ปั๊วได้ผลประโยชน์ตอบแทน 5% ของผลกำไร ซาปั๊วได้ 3% ส่วนซีปั๊วได้ 2% หลังจากนี้จะประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อยึดอายัดทรัพย์อย่างเร่งด่วน  เบื้องต้นได้ตรวจสอบไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า บริษัทฟอเรกซ์ ทรีดี ไม่เคยขออนุญาตลงทุนเทรดหุ้นหรือเทรดเงิน ซึ่งดีเอสไอจะตรวจสอบไปยังต่างประเทศเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่า มีการยื่นจดทะเบียนลงทุนเทรดเงินในต่างประเทศบ้างหรือไม่ และขอฝากเตือนไปยังคนรุ่นใหม่ที่อาจไม่เคยมีประสบการณ์ เกิดไม่ทันยุคแชร์แม่ชม้อยเมื่อ 27 ปี ที่ผ่านมา จึงขอให้ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน หากสื่อมวลชนช่วยกันตีแผ่ข่าวและแจ้งเตือนแชร์ต่างๆ ก็จะไม่สามารถหลอกลวงประชาชนได้โดยง่าย 

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า แชร์ลูกโซ่มีรูปแบบเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นแชร์แม่ชม้อย แชร์ก๋วยเตี๋ยว หรือแชร์น้ำมัน คือเสนอจ่ายปันผลมากกว่าปกติ ไม่มีสินค้าและบริการ  แม้จะอ้างการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จึงต้องสอบสวนว่ามีการลงทุนซื้อขายในต่างประเทศจริงแล้วขาดทุน หรือไม่เคยมีการนำเงินไปลงทุนเทรดเงินเลย แต่เป็นการชักชวนสมาชกแล้วนำเงินจากสมาชิก รายใหม่ไปจ่ายให้รายเก่าเป็นทอดๆไป ซึ่งในวันนี้พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำตัวแทนผู้เสียหายให้แล้วเสร็จ

ขณะที่ น.ส.วราไพรินทร์ ธนวริสพร หรืออาย ดารานักแสดงและอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาตไทยพัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย  เปิดเผยว่า ลงทุนแชร์ฟอร์เร็กซ์ ในวงเงินประมาณ 2 ล้านบาท โดยการชักชวนของเพื่อนที่ทำงานอยู่ในบริษัทฟอเร็กซ์ ทรีดี และเป็นเพื่อนกับผู้บริหารด้วย  โดยให้ร่วมลงทุนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราแบบออนไลน์ มีเอกสารหลักฐานต่างๆ และนำไปดูการทำงานในบริษัทเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นตนจึงลงทะเบียนในระบบที่มีรายละเอียดส่วนตัวทั้งข้อมูลบัตรประชาชนและอื่นๆที่สำคัญ และสามารถคลิกเข้าไปตรวจสอบการลงทุนได้ จึงทำให้มั่นใจ แต่หลังจากทราบข่าวว่ามีปัญหาการร้องเรียนจึงติดต่อที่เพื่อนที่ชักชวนและก็ไม่สามารถติดต่อได้ และได้ข้อมูลว่าตัวซีโอโอไม่ได้อยู่ในประเทศแล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อ2เดือนก่อน ได้ตัดสินใจจะเข้าแจ้งความแต่ถูกยับยั้ง โดยบริษัทฯได้โพสต์แจ้งลูกค้าว่าจะมีการคืนเงิน แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินในโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อต้องการทราบว่ามีใครตกเป็นผู้เสียหายบ้าง หลังจากโพสต์ก็มีผู้แจ้งข้อมูลเข้ามาจำนวนมาก  รวมทั้งเพื่อนดารานักแสดงนับ 10 รายที่ได้สอบถามเข้ามา จึงได้ส่งสิงค์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้ลงทะเบียนผ่านระบบคิวอาร์โค้ดแจ้งความเสียหายที่เกิดขึ้น

“ขณะนี้ตอบไม่ได้ว่า จะมีนักแสดงรายใดกล้าเปิดตัวว่าเป็นผู้เสียหายในคดีแชร์ฟอเรกซ์ หรือไม่ คงต้องให้เขาเต็มใจที่จะออกมาเอง เพราะเมื่อเปิดตัวแล้วอาจถูกคุกคามเหมือนตัวเองที่ถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปประจานในกลุ่มไลน์ของบริษัทที่ทำขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้มีนักแสดงหลายคนตั้งใจที่จะออกมาแสดงตัวว่าเป็นผู้เสียหาย แต่บริษัทฯได้ติดต่อนักแสดงเหล่านี้เพื่อขอคืนเงินให้ จึงทำให้ไม่มีใครออกมาอีกเลย “น.ส.วราไพรินทร์ กล่าว

น.ส.วราไพรินทร์ กล่าวอีกว่า การที่ตนออกมาในครั้งนี้ต้องการให้ผู้บริหารของบริษัทฯออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้ผู้ลงทุนได้รับทราบว่า สถานการณ์เป็นอย่างไร เพราะขณะนี้มีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และบริษัทก็ยังเปิดทำการอยู่และได้มีการขยายฐานกลุ่มผู้ลงทุนเทรดเงินต่างประเทศไปอีกหลาย ๆ จังหวัด ทั้งๆ ที่มีข้อมูลว่า ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯได้ทยอยขายทรัพย์สินที่มีอยู่ รวมทั้งรถหรูลัมโบกินี และไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว

ส่วนผู้เสียหาย“แชร์แม่มณี” ที่ลงทะเบียนผ่านระบบคิวอาร์โค้ดของดีเอสไอ ล่าสุดมี จำนวนผู้เสียหาย 4,545 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,419,980,629.81 บาท .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง

26 ก.ค.- เหตุปะทะชายแดนตราด ทหารนาวิกโยธิน ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ส่วนประชาชนอพยพไปที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ค.69 รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด ทหารกัมพูชา ได้วางกำลังรุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุดเปิดฉากยิงทหารไทย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยกำลังทหารนาวิกโยธิน ได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี1” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผลักดันกำลังทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนประชาชนพื้นที่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ในอำเภอเมืองตราด ประมาณ 75 เปอร์เซนต์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 -สำนักข่าวไทย