แจ้ง 3 ข้อหาหนัก “หลวงปู่ฤาษี” ข่มขืนลูกสาวจนท้อง

บึงกาฬ 7 พ.ย.-ตำรวจนำหมายศาลจังหวัดบึงกาฬเข้าจับกุมพระไพบูล วิปุโล อายุ 45 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำปู่ฤาษีภูสิงห์มิ่งมิตร ข่มขืนลูกสาวจนท้องและเป็นกามโรค แจ้ง 3 ข้อหาหนัก

ตำรวจนำหมายศาลจังหวัดบึงกาฬเข้าจับกุมพระไพบูล วิปุโล หรือนามสกุลจูมศรีสิงห์ อายุ 45 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำปู่ฤาษีภูสิงห์มิ่งมิตร บ้านโนนสง่า หมู่ 12 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เพื่อดำเนินคดีข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำชำเราผู้อื่นโดยผู้ถูกกระทำนั้นเป็นผู้สืบสันดานของตนเอง ซึ่งการเข้าจับกุมในครั้งนี้ พระไพบูล หรือปู่ฤาษีไพบูล ยินยอมให้ตำรวจเข้าควบคุมตัวโดยดี ไม่มีการขัดขืน หรือขัดขวางการจับกุม ก่อนนำตัวไปที่ สภ.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เพื่อสอบปากคำที่ห้องสอบสวนที่จัดไว้พิเศษที่ชั้น 2 ของโรงพัก โดยไม่อนุญาตให้ญาติโยมหรือลูกศิษย์เข้าเยี่ยม หรือแม้แต่สื่อมวลชนก็ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบันทึกภาพทำข่าว


นางดาลัด หิรัญไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดบึงกาฬ ได้นำสำเนาใบสุทธิของพระไพบูล วิปุโล ผู้ต้องหาข่มขืนลูกสาวของตัวเอง ไปตรวจสอบบัญชีพระบวชใหม่อย่างละเอียด กับพระพุทธิสารมุนี หรือหลวงปู่น้ำ รองเจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ และเจ้าอาวาสวัดบุพพราชสโมสร หรือวัดกลางบึงกาฬ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ที่เคยบวชให้นายไพบูล จูมศรีสิงห์ หรือปู่ฤาษีไพบูล ที่มาบรรพชาอุปสมบทในพระอุโบสถวัดแห่งนี้เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2547 โดยได้ใบสุทธิเลขที่ 70/2547 จึงเป็นพระจริง หลังสอบปากคำเสร็จ ถูกควบคุมตัวไปคุมขัง โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ทั้งที่ลูกศิษย์ได้เตรียมหลักฐานไว้พร้อมแล้ว โดยพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวไปศาลเพื่อฝากขัง และไม่คัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล

ด้านพระพุทธิสารมุนี หรือหลวงปู่น้ำ รองเจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ ฝ่ายมหานิกาย ได้กล่าวเตือนพระภิกษุ สามเณร ในพระพุทธศาสนาว่าให้ระมัดระวังเรื่องการปฏิบัติตัวครองตนในสมณเพศ ให้ยึดถือปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะให้ระมัดระวัง 3 ส. ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อเพศบรรพชิตอย่างยิ่ง คือ ส.1 สตรี ส.ที่ 2 สตางค์ และ ส.ที่ 3 คือสุรา โดยเฉพาะเครื่องดื่มยี่ห้อพญานาค ซึ่งพระมักอ้างว่าดื่มเป็นยาชูกำลัง แท้ที่จริงแล้วก็เป็นของมึนเมา เมื่อดื่มไปแล้วก็ขาดสติ ครองตนไม่ได้ ครองเพศบรรพชิตไม่อยู่ จึงล่วงละเมิดพระวินัย ทำให้มีการกระทำผิด จะเห็นได้ที่ตกเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ จึงขอฝากให้เพศบรรพชิตได้ระมัดระวังด้วย

ก่อนหน้านี้ป้าน้อย ป้าของเด็กหญิงวัย 15 ปี ที่อยู่ในคลิป เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว โดยนำไดอารี่ของหลานสาวมาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยเป็นไดอารี่ที่หลานสาวเขียนบันทึกเรื่องราวในชีวิตตั้งแต่เล็กจนปัจจุบันจำนวน 4 แผ่น ทั้งการเรียนหนังสือได้เกรด 4.00 เป็นที่ 1 ของห้องมาโดยตลอดจนจบชั้น ป.6 พอขึ้นมัธยมก็รักษาเกรดตัวเองอย่างดี ไม่เคยด้อยลงเลย ทำกิจกรรมของโรงเรียน เป็นหัวหน้าการงาน เรียนเก่งมาก และหลานสาวยังระบุในไดอารี่อีกว่า “หลานสาวถูกปู่ (เรียกพ่อว่าปู่ คือปู่ฤาษี) ข่มขืนจนเป็นกามโรค และตอนนี้ก็เป็นรอบที่ 3 แล้ว แต่ปู่จะทำร้ายร่างกายหากไปบอกคนอื่น ต้องกลายเป็นคนโกหก ปลิ้นปล้อน”  


ป้าน้อยกล่าวว่า อ่านบันทึกจากไดอารี่ของหลานสาวแล้วรู้สึกว่าหลานสาวถูกคนเป็นพ่อทำร้ายมาตลอด จนกลายเป็นคนโกหก และยังถูกล่วงละเมิดทางเพศจนกลายเป็นเรื่องในทุกวันนี้ เพราะการกระทำของคนเป็นพ่อ ซึ่งบวชเป็นพระ และชอบแต่งกายเป็นฤาษี อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นอกจากนี้ยังมีสองสามีภรรยาชาว อ.ชุมแพ ซึ่งเป็นน้องสาวของฤาษี ที่ชื่อบัติ ที่มาลักพาตัวหลานสาวตัวเองไปให้ฤาษีจนเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ซึ่งสามีภรรยาคู่นี้อ้างว่าจะพาไปหาพ่อที่บวชเป็นพระ และป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายใกล้ตาย แต่ครอบครัวไม่ยินยอมให้นำตัวไป จนสองสามีภรรยาคู่นี้กลับไปเช่ารถตู้และพาหลานสาวตัวเองไปส่งให้ฤาษี เชื่อว่าจะเป็นการนำตัวหลานสาวของตัวเองไปแลกกับลูกสาวของนางบัติให้ได้รับอิสรภาพแทน เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวนางบัติไปอยู่กับฤาษีและก็ไม่เห็นกลับมาอีก กระทั่งมาลักพาตัวหลานสาวของตนไปให้ฤาษี ลูกสาวของนางบัติกลับมา พอตนเองไปสอบถามบ่ายเบี่ยงบอกไม่รู้ไม่เห็นอย่างเดียว ทำให้เชื่อได้ว่าจะร่วมมือกับฤาษี ทำให้เกิดเรื่องราวมาจนถึงตอนนี้

ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวได้มีการแจ้งความกับตำรวจ สภ.ชุมแพ เรียบร้อย ยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหาหรือใส่ร้ายใคร เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นจริง เมื่อเรื่องราวมันกลายเป็นเรื่องเลวร้ายกับครอบครัวขนาดนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะสองสามีภรรยาชาวชุมแพที่มาลักพาตัวหลานสาวไปหาพ่อที่บวชเป็นฤาษี ที่ อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ จนหลานสาวถูกทำ เพียงเพราะต้องการเอาตัวหลานสาวไปแลกเอาตัวลูกสาวของตัวเองออกมา และถ้าสอบสวนแล้วพบว่ามีความผิดก็อยากให้จับกุมตัวดำเนินการตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
 หลวงปู่ฤาษีปัดทำลูกสาวท้อง พร้อมตรวจ

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถก ครม. ยังไม่คุยผู้นำกัมพูชา หลังเริ่มบานปลาย

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ นำประชุม ครม. จ่อถกสถานการณ์ไทย-กัมพูชา บอกยังไม่คุย “ฮุน มาเน็ต” หลังสถานการณ์บานปลาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุมระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินมาพร้อมกับรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามนายกรัฐมนตรีว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้นำกัมพูชาหรือไม่ หลังเคยมีการเจรจาจากกรณีที่มีการปะทะกันที่บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ชายแดนไทย-กัมพูชา จนสถานการณ์บานปลาย กัมพูชาเตรียมยื่นศาลโลกตัดสิน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ถามกลับว่าพูดคุยเพิ่มเติมจากรอบไหน ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่ารอบแรกที่นายกรัฐมนตรี เคยระบุว่าได้พูดคุยแล้ว โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ยังค่ะ” .-315 -สำนักข่าวไทย

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย