วินจักรยานยนต์ ขอให้ กทม.ลงโทษเท่าเทียมกรณีขี่บนทางเท้า

กรุงเทพฯ 23 ต.ค.- กทม.เตรียมจะลงดาบ คนขับวินจักรยานยนต์ ทั่วเมืองกรุง หากพบเห็นแอบฝ่าฝืนขึ้นมาขี่บนทางเท้า พร้อมจะยึดเสื้อวิน ไม่ให้ทำมาหากินได้ 3 ปี ด้านวินจักรยานยนต์ ย้ำยอมรับ แต่ขอให้ลงโทษเท่าเทียมอย่าจ้องจับผิดคนกลุ่มเดียว


หลังจากที่เมื่อวานนี้(22 ต.ค.) ในที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้มีการหารือถึงแนวทางการจัดระเบียบผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะ หรือ วินจักรยานยนต์รับจ้าง  โดยในที่ประชุมเตรียมมาตรการลงโทษวินจักรยานยนต์ที่ขับขี่รถบนทางเท้า โดยการยึดเสื้อวินเป็นเวลา 3 ปี ระหว่างนี้ก็จะไม่สามารถขับวินจักรยานยนต์รับจ้างได้ 


ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร  กล่าวถึงในเรื่องนี้ว่า  ขั้นตอนหลังจากนี้ กทม.จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ ซึ่งมีกรมการขนส่งทางบกเป็นประธาน และ กทม.เป็นอนุกรรมการ ที่จะมีการประชุมในเร็วๆนี้  โดยที่จะแยกประเด็นที่จยย.วินวิ่งบนทางเท้า วินจักรยานยนต์ที่ตั้งอยู่บนทางเท้าขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้ย้ายวินลงจากทางเท้า

ปัจจุบัน กทม.มีวินจักรยานยนต์รับจ้าง ที่ตั้งอยู่บนทางเท้าประมาณ 475 วิน กทม.พยามยามหาวิธีที่จัดระเบียบ และหาแนวทางนำวินลงจากทางเท้า เพื่อให้ประชาชนที่สัญจรบนทางเท้าเดินได้อย่างสะดวก 


หลังมีข่าวออกมา ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้ลงพื้นที่ไปสอบถามความเห็นจากพี่ๆวินจักรยานยนต์รับจ้าง  หลายจุด โดยส่วนใหญ่บอกว่าเห็นด้วยหากจะมีการจัดระเบียบไม่ให้วิ่งบนทางเท้า แต่เหตุใดทำไมต้องเจาะจงว่าทำเฉพาะกับมอเตอร์ไซต์วิน   โดยหัวหน้าวินจักรยานยนต์รับจ้าง  ในพื้นที่เขตดินแดง แสดงความเห็น ว่าไม่เข้าในว่าทำไม กทม.ต้องเน้นมาที่วินมอเตอร์ไซต์ หรือเพราะกลุ่มนี้มีตัวตนเลยจับต้อง จ้องเอาผิดได้ ยอมรับว่าปัจจุบันก็ยังมีวินมอเตอร์บางรายที่ยังฝ่าฝืนวิ่งบนทางเท้าอยู่บ้าง แต่ถ้าเอาผิดก็ต้องเป็นรายบุคคลอย่าเหมารวม แต่ที่ผ่านมาเมื่อมีใครทำผิด และถูกนำเสนอข่าวก็จะถูกด่าเหมารวม อยากให้ กทม.พิจารณาด้วยว่า ถ้าจะเอาผิดไม่ใช่แค่ วินมอเตอร์ไซต์ รับจ้าง รถรับส่งเอกสาร รถแกร๊บไบค์ หรือแม้แต่รถบ้านทั่วไป ก็มีการทำผิด คนกลุ่มนี้จะไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำ ไม่ต้องรับผิดเลยหรือ  คนที่ออกกฏ ไม่ทราบว่าเคยลงมาคลุกคลีกับคนที่ต้องใช้ชีวิตบนท้องถนนหรือไม่ ถ้าจะทำ จะลงโทษขอให้เท่าเทียมเท่ากัน อย่าทำตัวหลายมาตรฐาน

ขณะที่ประชาชนหลายคนที่ใช้ชีวิตเดินสัญจรบนทางเท้า ระบุชัดว่าเห็น ด้วยเพราะ ควรเคารพสิทธิคนอื่นด้วย แต่หากยึดเสื้อเลยก็อาจจะรุนแรงเกินไป   โดยสุภาพสตรีท่านหนึ่งให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวระบุว่า เคยเจอมอเตอร์ไซต์วิ่งบนทางเท้าหลายครั้ง โดยเฉพาะแถวราชเทวี ในช่วงเวลาเช้าและเย็น เมื่อก่อนจะโดนบีบแตรไล่ประจำ แต่หลังจาก กทม.เริ่มมีบทลงโทษมากขึ้น ก็ยังพบคนขี่มอเตอร์ไซต์ขึ้นทางเท้าอยู่ แต่ไม่มีมาบีบแตรไล่แล้ว แต่จะขอดีๆ เช่น “ขอทางหน่อยคร้าบ” หรือ บางทีหันไปมอง เขาก็จะรอ หรือไม่ก็หนีไปเลย  ส่วนตัวก็อยากให้ กทม.มีบทลงโทษที่เข้มข้น ชัดเจนต่อเนื่อง เนื่องจากที่ผ่านมาพอเป็นข่าวก็จะทำๆ แต่พอกระแสซาไปเรื่องก็เงียบทุกอย่างก็เหมือนเดิม  ส่วนบทลงโทษยึดเสื้อวินเป็นเวลา 3 ปี รู้ว่าก็รุนแรงเหมาะสม แต่หากทำผิดครั้งแรก อยากให้ตักเตือนก่อน และหากทำผิดซ้ำค่อยลงโทษขั้นรุนแรงต่อไป เพราะส่วนตัวก็เห็นใจคนทำงานหาเช้ากินค่ำ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน