กรุงเทพฯ 22 ต.ค. – ไทยออยล์ตั้งงบ 1,000 ล้านบาท ลุยนวัตกรรม-สตาร์ทอัพ ปี 2562-2564 ตั้งเป้า 3 กลุ่มหลัก รองรับ Disruption
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์ เปิดเผยว่า ไทยออยล์ตั้งงบประมาณ เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือกองทุนร่วมลงทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นโอกาสการดำเนินธุรกิจเพื่ออนาคต รองรับทิศทางของโลกที่ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยตั้งงบฯ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท ลงทุนในปี 2562-2564 ซึ่งขณะนี้ลงทุนกองทุนร่วมลงทุนในสหรัฐไปบางส่วนแล้ว และกำลังพิจารณาร่วมลงทุนผู้ประกอบการในประเทศอิสราเอล เพราะเป็นประเทศที่มีงานวิจัยด้านวัตกรรมจำนวนมาก มีสตาร์ทอัพมากกว่า 8,000 ราย จนถูกเรียกว่าเป็น Startup Nation หรือชาติแห่งสตาร์ทอัพ โดยมีเทคโนโลยีหลายประเภทที่ไทยออยล์สามารถนำมาต่อยอดร่วมกันได้
“ไทยออยล์เป็นโรงกลั่นฯ นับว่าเป็นพื้นที่ที่พร้อมเป็นสถานที่ทดสอบนวัตกรรมใหม่ เช่น กองทุนที่ร่วมทุนในสหรัฐก็จะเข้ามาทดสอบนวัตกรรมลดการสั่นสะเทือนของเครื่องจักร หากประสบความสำเร็จก็จะช่วยลดต้นทุนการซ่อมบำรุงของเครื่องจักรโรงงานต่าง ๆ ได้ ก็นับเป็นโอกาสทางธุรกิจของไทยออยล์ อย่างไรก็ตาม การร่วมลงทุนฯ รูปแบบนี้ ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป ดังนั้น เงินร่วมทุนจึงไม่ได้ตั้งไว้สูง” นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมปิโตรเลียมนับเป็นอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว DISRUPT จากกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ว่าจะมีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก รวมถึงการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มประสิทธิการใช้พลลังงาน ทำให้เกิดผลกระทบทางธุรกิจ ทางไทยออยล์จึงวางแผนกลยุทธ์ ซึ่งนอกจากการเพิ่มจุดแข็งทางธุรกิจการกลั่นน้ำมันและไฟฟ้า ด้วยโครงการ CFP การขยายห่วงโซ่ธุรกิจด้านเคมีแล้ว ก็ยังมุ่งหวังการเดินหน้าธุรกิจนวัตกรรม (SEED THE OPIONS ) โดยงบประมาณ 1, 000 ล้านบาทดังกล่าวก็เป็นงบด้านนวัตกรรม
สำหรับโครงการด้านนวัตกรรม ทางไทยออยล์ เป็นการดำเนินการเข้าสู่ธุรกิจใหม่ด้านวิจัยและพัฒนา การร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพในธุรกิจ 3 ด้าน ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการผลิต (MNUFACTURING TECHNOLOGY ) เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม และพัฒนาคุณภาพชีวิต (GREEN&HUMAN TECHNOLOGY ) และเทคโนโลยีเปลี่ยนธุรกิจปิโตรเลียม (HYDROCARBON DISRUPTION TECHNOLOGY ).-สำนักข่าวไทย