ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันไม่ลดลงแม้โควิดระบาดรอบ 2

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันจะไม่ลดลงแรง แม้จะมีการระบาดรอบ 2 ของโควิด-19 ใช้แผนปรับประสิทธิภาพ เชื่อมั่นแข่งขันได้ไม่ว่าธุรกิจจะผันผวน ชี้ลดราคาหน้าโรงกลั่น กระทบไม่มากนัก พร้อมศึกษาแผนต่อยอด CFP เสร็จสิ้นต้นปีหน้า พร้อมร่วมทุนทุกกลุ่มทุน และเล็งขยายธุรกิจไฟฟ้าด้วยตนเอง 


นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)  คาดว่า ราคาน้ำมันจนถึงสิ้นปีจะอยู่ในระดับประมาณ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากที่เคยต่ำสุดเพียงกว่า 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงทั่วโลกล็อกดาวน์จากการป้องกันโควิด-19 ส่วนการที่พบการระบาดระลอกที่ 2 หลายประเทศ ก็เชื่อมั่นจะไม่ทำให้ราคาน้ำมันตกต่ำเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ความต้องการใช้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ประกอบกับกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน เช่น โอเปกพลัส ก็ยังคงจับมือในการลดกำลังผลิตเพื่อดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมัน โดยปรับลดกำลังการผลิตที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคูเวตยังอาสาที่จะลดกำลังผลิตที่ระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน, 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 0.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ ในเดือนมิถุนายน 2563 นอกเหนือจากข้อตกลงที่ให้ไว้

ในส่วนของไทยออยล์ นับเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสามารถปรับระบบการการกลั่นการจำหน่าย จึงเชื่อมั่นว่าจะดำเนินการไปได้ด้วยดีไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด โดยใช้แนวคิด LAST MAN STANDING ทั้งปรับโรงกลั่นให้ยืดหยุ่น ปรับการตลาด เพิ่มประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุนและบริหารความเสี่ยง ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงวิกฤติขอความต้องการใช้โรงกลั่นได้ลดกำลังกลั่นเพียงเล็กน้อยเหลือร้อยละ 95 คาดว่าทั้งปีกำลั่งกลั่นเฉลี่ยจะประมาณร้อยละ 100 


ส่วนกรณีกระทรวงพลังงานให้ลดราคาหน้าโรงกลั่น 50 สตางค์ต่อลิตรนั้น ก็กระทบบ้าง แต่เนื่องจากตลาดน้ำมันเป็นกลไกเสรี แต่ละโรงกลั่นจะมีวิธิการบริหารและการขายที่แตกต่างกัน ราคาหน้าโรงกลั่นก็จะแตกต่างกัน  ผลกระทบก็จะไม่มากนัก  

ทั้งนี้ จากที่ไทยออยล์ออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ก็จะเห็นได้ว่า เกิดจากนักลงทุนทั่วโลกมั่นใจในไทยออยล์ โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่นำไปใช้ในโครงการพลังงานสะอาด (CFP ) และเมื่อรวมกับวงเงินที่มีอยู่เดิมประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ปัจจุบันมีวงเงินรวม 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพียงพอที่จะใช้ลงทุนถึงปี 2564 ทำให้ปีนี้ไม่มีแผนที่จะออกหุ้นกู้เพื่อรองรับการลงทุน แต่อาจจะพิจารณาเรื่องการรีไฟแนนซ์ หรือซื้อหุ้นกู้คืนหากเห็นว่าตลาดมีความเหมาะสม โดยการออกหุ้นกู้รอบล่าสุดครั้งนี้ส่งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ประมาณร้อยละ4

สำหรับโครงการ CFP มูลค่าลงทุน 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายกำลังการกลั่น  400,000 บาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบัน 275,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะเสร็จปี 2566 และขณะนี้กำลังศึกษาโครงการต่อยอดเพื่อนำวัตถุดิบไปผลิตปิโตรเคมีร่วมกับกลุ่ม ปตท. เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต ซึ่งจะศึกษาเสร็จต้นปี 2564 


“หลังจาก CFP โรงกลั่นฯ จะใหญ่ขึ้นอีกร้อยละ 40 จึงร่วมกับกลุ่ม ปตท. เพื่อศึกษาเรื่องลงทุนปิโตรเคมีให้มี Value Chain ที่ยาวขึ้นในลักณะเป็น world scale เช่น สายโอเลฟินส์ กำลังผลิต PE 1.2 ล้านตัน/ปี สายอะโรเมติกส์ กำลังผลิต PX 1.5 ล้านปี แต่ต้องยอบรับว่าวัตถุดิบของไทยออยล์จะไม่เพียงพอ เราก็ต้องหาพันธมิตรมาร่วมลงทุนด้วย ซึ่งเป็นไปได้ที่จะเป็นกลุ่ม ปตท. หรือกลุ่มอื่น ๆ” นายวิรัตน์ กล่าว  

ส่วนระยะยาวไทยออยล์ตั้งเป้าหมาย 10 ปี (2563-2573) บริษัทกำหนดเป้าหมายตามแผนเดิมที่จะมีกำไรสุทธิแตะระดับ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้โครงการ CFP ที่แล้วเสร็จ กระจายพอร์ตรายได้และกำไรให้หลากหลายขึ้นเป็นธุรกิจปิโตรเลียม ร้อยละ 40, ปิโตรเคมี ร้อยละ40, ไฟฟ้า ร้อยละ 15 และอื่น ๆ ร้อยละ 5 เมื่อเทียบปัจจุบันที่มีสัดส่วนกำไร จากธุรกิจกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ร้อยละ 70-80% ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจอะโรเมติกส์และโรงไฟฟ้า โดยพอร์ตธุรกิจไฟฟ้าส่วนใหญ่ในปัจจุบันมาจากการถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมใน บมจ.โกลบอลเพาเวอร์ซินเนอร์ยี (GPSC) ประมาณร้อยละ 25 แต่ในอนาคตเห็นว่า GPSC อาจจะเติบโตเร็วมากกว่าปัจจุบันไม่ได้มากนัก  ทำให้ในกลุ่ม ปตท.ร่วมกันพิจารณาที่จะช่วยกันดำเนินการเพื่อร่วมกันขยายพอร์ตธุรกิจไฟฟ้าให้เติบโต

สำหรับแนวทางที่ทำให้ไทยออยล์ปรับตัวได้ทุกการเปลี่ยนแปลง หรือ Last Man Standing  มาจาก 5 ด้าน ได้แก่ 1. Competitive Configuration ปรับปรุงหน่วยกลั่นให้มี complexity สูง เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 2. Operation & Commercial optimization & Flexibility ปรับเปลี่ยนการผลิตและการซื้อขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดและพร้อมรับมือความผันผวนของตลาด เพื่อการทำกำไรสูงสุด 3. Productivity improvement เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ บริการ การซื้อขาย และรูปแบบการทำธุรกิจ รวมถึงการนำเทคโนโลยีหรือความรู้ใหม่ ๆ มาปรับใช้อย่างเหมาะสม

4. Cost control ควบคุมต้นทุน เพื่อคงความสามารถในการแข่งขัน โดยตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายบริษัทให้ต่ำกว่าแผนร้อยละ 20-30  และ 5. Risk management บริหารความเสี่ยง  เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นให้อยู่ในระดับที่รับได้

ส่วนแนวโน้มภาพรวมธุรกิจของบริษัทไตรมาส 2/2563 มีทิศทางที่ดีกว่าไตรมาสแรกที่มีผลขาดทุนสุทธิ 13,800 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากการขาดทุนจากสตอกน้ำมัน 10,800 ล้านบาท แต่จากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปัจจุบัน จากประมาณ 33 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในสิ้นไตรมาส 1/2563 จะส่งผลให้มีกำไรจากสตกอกไตรมาส 2 นอกจากนี้ กำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของบริษัทลูก และในส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]