ผู้ถือหุ้นห่วงผลพวงโควิด-19 กระทบรายได้ไทยออยล์

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – ผู้ถือหุ้น บมจ.ไทยออยล์ หวั่นผลโควิด-19 กระทบผลดำเนินงานอนาคต หลังไตรมาส 1/63 ขาดทุน 1.4 หมื่นล้านบาท ด้านผู้บริหารแจงราคาน้ำมันโลกขยับขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ ทำให้ผลดำเนินงานดีขึ้นประกอบกับหลังโครงการ CFP เสร็จปี 66 จะลดความเสี่ยงรายได้จากธุรกิจการกลั่นจะลดลง มุ่งปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 


 

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไทยออยล์ (TOP ) ชี้แจงต่อผู้ถือหุ้นที่มีการสอบถามถึงคาดผลดำเนินงานปี 2563 หลังจากไตรมาส 1/2563 ขาดทุนสุทธิ 14,000 ล้านบาท ว่า คาดว่าผลดำเนินงานไตรมาสที่เหลือของปีนี้จะดีขึ้น เนื่องจากไตรมาส 1 นั้น การขาดทุนส่วนใหญ่มาจากการขาดทุนสตอกน้ำมันถึง 10,777 ล้านบาท เป็นผลกระทบจากสงครามราคาน้ำมันและความต้องการใช้ที่ลดลงจากการระบาดของโควิด-19 แต่หลังจากที่ ขณะนี้มีการคลายล็อกดาวน์ความต้องการใช้น้ำมันขยับดีขึ้นและราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นมาสูงกว่า 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ความเสี่ยงจากการขาดทุนสตอกคาดจะไม่เกิดขึ้น ขณะที่บริษัทได้ปรับตัวทั้งชะลอโครงการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น บริหารจัดงานลดค่าใช้จ่ายดำเนินการ จัดหาราคาน้ำมันดิบที่ทำให้ต้นทุนต่ำสุด ลดกำลังกลั่นร้อยละ 15-20 โดยขณะนี้กลั่นประมาณร้อยละ 95 จากกำลังกลั่น 275,000 บาร์เรล/วัน รวมทั้งลดการผลิตน้ำมันเครื่องบินที่มีสัดส่วนร้อยละ 20 ของกำลังกลั่น โดยเหลือเป็นผลิตน้ำมันเครื่องบินเหลือร้อยละ 7-10 และที่เหลือนำไปผลิตเป็นวัตถุดิบปิโตรเคมี น้ำมันดีเซลและเบนซิน 


ส่วนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โครงการลงทุนพลังงานสะอาด( CLEAN FUEL PROJECT ;CFP ) 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็เดินหน้าตามแผนขณะนี้มีความคืบหน้าแล้วร้อยละ 39 โครงการจะเสร็จสิ้นปี 2566 เพิ่มกำลังผลิตน้ำมันเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน โดยน้ำมันส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มดีเซลและน้ำมันเครื่องบิน ลดการผลิตน้ำมันเตาที่มีราคาต่ำ โดยคาดว่าปีดังกล่าวน้ำมันเครื่องบินจะมีความต้องการสูง โดยประเมินว่าหลังจากนี้ 2 ปี การบินจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากที่ช่วงเมษายน-พฤษภาคม 2563 หยุดชะงักจากการล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 ที่ตลาดประเมินเช่นนี้ เพราะมีการดำเนินการพัฒนาวัคซีนและร่วมมือกันป้องกันโรคในรูปแบบที่หลากหลาย 

ขณะเดียวกันไทยออยล์ยังวางแผนจะต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยโครงการ Beyond CFP โดยนำแนฟทาจากโรงกลั่นฯ ไปผลิตเป็นปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์ อะโรเมติกส์ ทำให้สัดส่วนรายได้ในอนาคตจะมาจากปิโตรเคมีร้อยละ 40 ธุรกิจไฟฟ้าร้อยละ 15 ธุรกิจใหม่ด้านนวัตกรรมร้อยละ 5 และลดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจการกลั่นที่ผันผวนหนักจากปัจจุบันมีสัดส่วนร้อยละ 60-70 เหลือร้อยละ 40 

นายวิรัตน์ กล่าวด้วยว่า  บริษัทวางเป้าหมายการใช้เงินสำหรับแผนการลงทุนและแผนการชำระคืนเงินกู้ในช่วง 5 ปี (ปี 63-67) รวม 4,695 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็น เงินลงทุน 3,486 ล้านเหรียญสหรัฐ และชำระคืนเงินกู้ 1,209 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเม็ดเงินดังกล่าวจะมาจากเงินสดดำเนินงานประมาณ 2,634 ล้านเหรียญสหรัฐ และการออกหุ้นกู้ที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุม ในวันนี้ประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ  โดยจะออกภายในปี 2568 โดยงบลงทุนส่วนใหญ่จะถูกใช้ในโครงการ CFP ซึ่งมีมูลค่าประมาณ  4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

คุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ในพื้นที่หาดใหญ่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบประวัติสุดแสบ ปล้นฆ่าที่มาเลเซียตั้งแต่อายุ 17 ยังหนีมาก่อเหตุซ้ำที่ไทยอีกหลายครั้ง

นายกฯ ขึ้น ฮ. ดูสภาพจราจรเดินทางสงกรานต์

นายกฯ ขึ้น ฮ. บินดูสภาพจราจร ถ.มิตรภาพ-เส้นทางขึ้นเหนือ-ลงใต้ เตรียมพร้อมประชาชนเดินทางกลับบ้านสงกรานต์ พร้อมตรวจคืบหน้าก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 มั่นใจเปิดใช้เต็มรูปแบบ ปลายปี 68 ขณะ “สุริยะ” ยันปลอดภัย ไม่มีของตกหล่น สั่งหยุดก่อสร้างตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้แทน สตง.แจงยิบสร้างตึก สตง. ยันเหล็ก-ปูนมีมาตรฐาน

กมธ.ติดตามงบฯ ถกโครงการสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ ด้าน ‘ผู้แทน สตง.’ แจงยิบปรับสัญญาถึง 14 มิ.ย.นี้ ทั้งที่การสร้างต้องเสร็จ 31 ธ.ค.66 ยัน เหล็ก-ปูนมีมาตรฐาน ลั่นเดินหน้าสร้างต่อ แต่ปรับรูปแบบไม่สูง-ทับที่ตึกเก่า ใช้งบที่เหลือสร้าง