ทำเนียบฯ 21 ต.ค.- รัฐบาลแจง 4 เหตุผล เลื่อนงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค แจงรายละเอียดการซ้อมย่อย ซ้อมใหญ่ประชาชนเข้าชมได้ แต่ขอให้สวมใส่เสื้อเหลือง และเตรียมหารือสายการบิน บริษัทเดินรถอำนวยความสะดวกเปลี่ยนตั๋วโดยสารให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ 2/2562 โดยมี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 104 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
ภายหลังการประชุม นายวิษณุ แถลงว่า การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ซึ่งเลื่อนกำหนดการจากวันที่ 24 ต.ค.2562 เป็นวันที่ 12 ธ.ค.2562 เวลา 15.30 น.นั้น ริ้วขบวนเรือจะยังใช้เรือ 52 ลำ ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร และยังเป็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่สวยงานอย่างเดิม โดยจะเสด็จพระราชดำเนินจากท่าวาสุกรี เป็นระยะทาง 3.4 กิโลเมตร ไปยังท่าราชวรดิฐ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที จากการที่กองทัพเรือคำนวณกระแสน้ำต่อวินาทีแล้ว ก่อนจะเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำความกราบบังคมทูล ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัยลงมาให้เลื่อนกำหนดการไปเป็นวันที่ 12 ธ.ค.2562
นายวิษณุ กล่าวว่า เหตุผลสำคัญ 4 ประการที่ทำให้ต้องเลื่อนพระราชพิธี คือ 1.ทำอย่างไรให้เกิดความสง่างามสวยงาม 2.การดูแลเรื่องความปลอดภัย ทั้งเรือและผู้ที่เกี่ยวข้อง 3.ทำให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย 4.ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนโดยเฉพาะการปล่อยน้ำ ซึ่งเมื่อทบทวนดูแล้วหากจะใช้วันเดิมอาจไม่เกิดผลดีเท่าที่ควร และพระราชพิธีในครั้งนี้ จะใช้เทคโนโลยีโดยนำเลเซอร์มาควบคุมระยะห่างระหว่างเรือแต่ละลำ ดังนั้นหากเลื่อนไปยังวันที่ 12 ธันวาคม จะเหมาะสมทุกอย่างและเป็นไปตามแบบแผนด้วย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อมีการเลื่อนวันก็จะมีการซ้อมย่อยเพิ่มอีก 4 ครั้ง คือวันที่ 12 ,19 ,26 พฤศจิกายน และวันที่ 3 ธันวาคม ส่วนการซ้อมใหญ่ จะซ้อมเพิ่มอีก 1 ครั้งในวันที่ 9 ธันวาคม เป็นการซ้อมเสมือนจริง โดยประชาชนสามารถเข้าชมได้ตลอดการซ้อม ตามพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ และวัด ริมแม่น้ำ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แจ้งว่า สามารถใช้อุปกรณ์บดบังแสงแดดได้ทั้งหมวกและร่ม ส่วนการแต่งกายขอความร่วมมือชุดสุภาพ และสวมใส่เสื้อสีเหลือง และไม่มีข้อจำกัดเรื่องการใช้กล้องและเลนส์
พล.ร.ท.ไชยวุฒิ นาวิกาญจนะ เจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ กล่าวว่า กรมอุทกศาสตร์ มีหน้าที่ตรวจวัดกระแสน้ำและระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อ่าวไทย พบว่ากระแสน้ำในช่วงเวลาเดิม ไม่สามารถคาดเดาได้ ถึงแม้ว่าจะตรวจวัดอยู่อย่างสม่ำเสมอ ที่บริเวณหน้ากองทัพเรือ ซึ่งสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ที่ได้มีการซักซ้อมย่อยนั้น พบว่ามีอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับอ่าวไทยมีอิทธิพลความกดอากาศ ทำให้น้ำที่ดันเข้ามา มีระดับน้ำสูงมาก อีกทั้ง ความเร็วกระแสน้ำจะสูงมากขึ้นเกือบ 40 เมตรต่อนาที จึงมีผลกระทบต่อเรือในขบวนพยุหยาตรา เนื่องจากเป็นเรือไม้ ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ และเมื่อเวลาพายท่านกบิน แล้วทำให้แทนที่เราจะสามารถเดินหน้าไปหนึ่ง แต่กลับถอยหลังไปสอง ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องมีการขอเลื่อนออกไป
ด้าน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่จะเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธี ว่า ได้ประสานไปยัง กระทรวงคมนาคม เพื่อให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สายการบิน รถบัสโดยสาร เลื่อนตั๋วให้ประชาชนที่ได้จองตั๋วไว้แล้ว ซึ่งจะหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) ส่วนสถานที่ที่จะเสด็จผ่านทางชลมารค ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว และจนกว่าจะถึงพระราชพิธี จะมีกิจกรรมบิ๊กคลีน นิ่ง อีกครั้งวันที่ 5 ธันวาคม จะทำให้เกิดความสวยงาม สมพระเกียรติที่สุด สวนเรื่องการประชาสัมพันธ์ จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ถึงสาเหตุการเลื่อนครั้งนี้
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงการจัดแสดงนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับเรือพระราชพิธี ว่าจะจัดขึ้นตามเดิม บริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม – 11 พฤศจิกายน 2562 โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ ในวันที่ 24 ตุลาคม เวลา 18.30 น. สำหรับ ประชาชนสามารถเข้าชมนิทรรศการ ได้ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.ทุกวัน เข้าชมฟรี และต้องพกบัตรประชาชน เพื่อผ่านจุดคัดกรอง ส่วนที่จะมาเป็นหมู่คณะ สามารถโทรติดต่อ ได้ที่สายด่วน 1675 .-สำนักข่าวไทย