คุม “เสี่ยท็อป” ส่งศาลคดีเช็ค อารมณ์ดี ไม่เครียด

กรุงเทพฯ 18 ต.ค.- ตำรวจคุม “เสี่ยท็อป” ส่งศาลคดีเช็ค เจ้าตัวไม่เครียด ด้านแม่เป็นห่วงลูกชาย ฝากยาเบาหวานมาให้ พร้อมแนะนำขอให้ตั้งสติใจเย็นๆ     


เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยวคุมตัวนายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร หรือ “เสี่ยท็อป” อายุ 49 ปี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ข้อหากระทำความผิดฐานพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ไปส่งศาลแขวงพระนครเหนือ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากติดตามทำข่าวและพยายามสอบถาม แต่นายธนณัฏฐ์ได้แต่ยิ้มและปฏิเสธที่จะให้คำตอบ ก่อนเดินขึ้นรถตำรวจท่องเที่ยว

ด้านนางพัชรธัญวิสิฐ ทองเมือง อายุ 64 ปี หรือน้าน้อย ผู้ที่เลี้ยงนายธนณัฏฐ์มาตั้งแต่ 6 ขวบ เปิดเผยว่า ทางมารดาของนายธนณัฏฐ์ให้มาดูว่านายธนณัฏฐ์ต้องการจะกินหรือเอาอะไรบ้าง และฝากบอกให้ใจเย็นๆ ให้ตั้งสติ พร้อมนำยาเบาหวานมาให้ น้าน้อยยังบอกว่านายธนณัฏฐ์ไม่ได้เครียด เพราะเขายังมีแม่อยู่ แม่คงไม่ทิ้งเขาหรอก แต่แม่มีอาการเครียด เพราะเป็นห่วงลูก ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับการประสานเรื่องการประกันตัวจากทางญาติแต่อย่างใด


เมื่อตำรวจคุมตัวมาถึงหน้าศาลแขวงพระนครเหนือ นายธนณัฏฐ์ยังมีสีหน้าปกติยิ้มแย้ม พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ไม่ได้ฉ้อโกงผู้เสียหายในคดีเช็ค โดยที่ผ่ามาได้คืนเงินให้ผู้เสียหายในคดีเช็คนี้หมดแล้ว แต่ผู้เสียหายไม่ได้ถอนแจ้งความ จึงทำให้ถูกจับกุม 

ด้านนายสุรพล สินธุนาวา ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการเตรียมหลักทรัพย์ 3 แสนบาท เพื่อใช้ในการประกันตัว ส่วนขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างรอศาลพิจารณาคดี

สำหรับพฤติการณ์คดีนี้ ในวันที่ 29 พ.ค. 2557 นางสาวสุภาพรณ์ อัมภาพันธุ์กิจ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ในคดี ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น โดยนางสาวสุภาพรณ์ฯได้รับการติดต่อจาก นาย ธนณัฏฐ์ สิริปิยพร เพื่อที่จะขอซื้อคลีนิคเสริมความงามชื่อไอซิสคลีนิคซึ่งนางสาวสุภาพรณ์ฯ เป็นเจ้าของ โดยพูดสร้างความน่าเชื่อถือ พูดจาหว่านล้อมต่าง ๆ จนทำให้นางสาวสุภาพรณ์ฯ ตัดสินใจขายคลีนิคให้กับนายธนณัฏฐ์ฯ ในราคา 8 ล้าน 5 แสนบาท โดยที่นายธนณัฏฐ์ฯ ได้สั่งจ่ายเช็คให้กับนางสาวสุภาพรณ์ฯ ในราคา 8 ล้าน 5 แสนบาท แต่หลังจากที่นางสาวสุภาพรณ์ฯ นำเช็คไปขึ้นเงิน ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน และหลังจากนั้นนายธนณัฏฐ์ฯ ได้นำชื่อคลีนิคไปใช้ในการแอบอ้าง หลอกลวงผู้อื่นในทางเสีย ๆ หาย ๆ จนทำให้คลีนิคของนางสาวสุภาพรณ์ฯ เสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก นางสาวสุภาพรณ์ฯจึงแจ้งดำเนินคดีนายธนณัฏฐ์ฯให้ถึงที่สุดเพื่อให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว หลังจากที่ศาลได้นัดฟังคำพิพากษานายธนณัฏฐ์ฯ ได้หลบหนีไม่มาขึ้นศาล ศาลแขวงพระนครเหนือจึงออกหมายจับลงวันที่ 14 พ.ย. 2559 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง