“ปิยบุตร” ชี้ ผบ.ทบ.อย่าจุดชนวนสร้างความแตกแยก

พรรคอนาคตใหม่ 12 ต.ค.-“ปิยบุตร” บรรยายพิเศษ “แผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย : บทบาทของประชาชน ในการสร้างชาติ” โต้ ผบ.ทบ.สร้างความแตกแยก ย้ำฝ่ายค้านแตะแก้ รธน.หมวด 1-หมวด 2 ระบุคนฉีกคือคณะรัฐประหาร  ขออย่ากังวลพรรคอนาคตใหม่ ไม่เคยคิดแบ่งแยกรุ่น ยอมรับเป็นพวกซ้ายจัดดัดจริตศึกษาเรื่องปฏิวัติ แต่ต้องปฏิรูปประเทศไทย


นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดเวทีบรรยายพิเศษ หัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย  : บทบาทของประชาชน ในการสร้างชาติ” ว่า การจัดบรรยายวันนี้ (12 ต.ค.) เนื้อหาต้องการแก้ไขความเข้าใจที่ผิดพลาดของ พล.อ.อภิรัต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในการจัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองฝ่ายความมั่นคง” เมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) ซึ่งมองว่าเนื้อหาดังกล่าวที่จะนำไปสู่การสร้างความแตกแยก และวันนี้ต้องการตอบโต้ พล.อ.อภิรัชต์ ถึงแม้การบรรยายเมื่อวานนี้ จะไม่เอ่ยถึงชื่อนักการเมืองหรือพรรคการเมือง แต่เชื่อว่าหมายถึงพรรคอนาคตใหม่และแกนนำในพรรค เชื่อว่าการบรรยายเมื่อวานนี้เป็นการสะท้อนวิธีคิดของผู้บัญชาการทหารบกและกองทัพไทย ที่จะทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ

นายปิยบุตร กล่าวถึงการสร้างชาติ ว่า การสร้างชาติได้ต้องสร้างจากปัจจุบันด้วย ต้องถอดองค์อำนาจออกจากตัวบุคคลมาให้ประชาชนเป็นผู้นำสูงสุด และให้ประชาชนสร้างชาติ จึงจะเกิดจิตสำนึก เคารพซึ่งกันและกัน เพราะถ้าไม่มีประชาชน ก็ไม่มีชาติ พร้อมขอให้คนไทยทุกคนที่แม้จะมีความเห็นแตกต่างกัน มาร่วมกัน สร้างชาติ ด้วยการเคารพความเป็นคนของผู้อื่น ยึดมั่นสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค และเคารพความแตกต่างหลากหลายของผู้อื่น


“แม้เราจะเคยโกรธ เคยเกลียด เคยเห็นต่าง แต่เราคือคนไทย จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนเคารพความแตกต่าง หลากหลายของบุคคลอื่น” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า การที่ผู้บัญชาการทหารบกพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าเรื่องใดแก้ได้ แก้ไม่ได้ อยากให้หยิบรัฐธรรมนูญขึ้นมาดู อย่าใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน ให้หยิบรัฐธรรมนูญมาดูว่าเรื่องใดแก้ได้ แก้ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 255 เขียนว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐจะกระทำไม่ได้ นี่คือข้อจำกัดในการแก้รัฐธรรมนูญ ประเทศไทยจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็แก้ไขได้แต่ต้องไม่แก้ไขอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือเปลี่ยนรูปแบบของรัฐในการเป็นราชอาณาจักรหรือเปลี่ยนรูปของรัฐจากความเป็นรัฐเดี่ยว ซึ่ง 3 เรื่องนี้ห้ามแก้ไขเป็นอันขาด และหากถามว่ามาตรา  1 แก้ไขได้หรือไม่ หากลองไปเปิดรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 256 (8) เขียนไว้ว่า หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดที่ 1 หมวดที่ 2 และหมวดที่ 15 ต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชนก่อน ดังนั้นเมื่ออ่านรัฐธรรมนูญแล้วสามารถแก้ได้ แต่เมื่อแก้แล้วห้ามมีผลเปลี่ยนแปลงการปกครองในรูปแบบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ห้ามเปลี่ยนรูปแบบการปกครองของรัฐจากราชอาณาจักรเป็นรูปแบบอื่น และห้ามเปลี่ยนรูปแบบรัฐจากรัฐเดี่ยวไปเป็นสหพันธ์นี่คือข้อจำกัด แต่หากมีการแก้ประเทศไทยก็ได้ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่ามีการแก้ไขใดที่กระทบกับ 3 เงื่อนไขนี้หรือไม่

“ดังนั้นสิ่งที่ผู้บัญชาการทหารบกบรรยาย เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นความเข้าใจผิดทั้งหมดเป็นการนำความเห็นของนักวิชาการคนหนึ่งยกขึ้นมาทำลายความชอบธรรมในการขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคฝ่ายค้าน โดยพยายามยึดโยงว่าการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งพรรคฝ่ายค้านยืนยันแล้วว่าไม่จริง และเคยยืนยันแล้วว่าการแก้ไขจะไม่เข้าไปแตะหมวด 1 และหมวด 2 โดยพรรคการเมืองฝ่ายค้านเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญตามระบบ ตรงกันข้าม เวลาคณะรัฐประหารเข้ามาก็ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งทั้งฉบับ เท่ากับข้อห้ามในการแก้ไขไม่มีอีกต่อไปแล้ว รัฐธรรมนูญกลับไปเป็นปีศูนย์ ไม่มีอะไรเป็นกรอบเป็นเกณฑ์ ดังนั้นการฉีดรัฐธรรมนูญโดยรัฐประหารหรือไม่ที่จะเป็นการเปลี่ยน อยากให้คิดให้ดีว่า คนที่มีปากกา คนที่มีมือ คนที่มีความคิด กับคนทีมีอาวุธ ใครกันแน่ที่ละเมิดมาตรา 1 ได้มากกว่ากัน” นายปิยบุตร กล่าว


นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ทหารและกองทัพในสมัยใหม่ จะออกมาจากการเมืองและทำหน้าที่รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร จะไม่เข้ามาเล่นการเมือง  ในต่างประเทศ ไม่เคยเห็นผู้บัญชาการทหารบกออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แค่จุดเล็ก ๆ จุดนี้แสดงให้เห็นว่าประชาธิปไตยสมัยใหม่ในต่างประเทศไม่ให้เอากองทัพมายุ่งกับการเมือง ตรงกันข้ามกับประเทศไทย

นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ขอตั้งคำถามไปยังผู้บัญชาการทหารบก ที่กล่าวว่าประเทศมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย หากปัญหาใหญ่จะฝากความหวังไว้ที่กองทัพที่ไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตย แทรกแซงการเมืองได้เสมอ พร้อมรัฐประหารทุกเวลา และยังติดอยู่ในยุคของสงครามเย็น รวมถึงจะฝากไว้กับสื่อยุยงปลุกปั่นที่เรียกว่าดาวสยาม 4.0 ได้หรือไม่ จึงอยากเชิญชวนผู้บัญชาการทหารบกและกองทัพ มาร่วมพูดคุย อย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ต้องเลิกวิธีการสร้างศัตรูภายในใจ ต้องบอกว่าความเห็นที่แตกต่างกันนั้นสามารถอยู่อาศัยร่วมกัน ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าปรากฏการณ์ของพรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นแล้ว มีประชาชนคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่ตื่นรู้ และหากแก้ปัญหาโดยการมองว่าคนเหล่านี้ถูกปลุกปั่น ก็จะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด จะแก้ไขปัญหาด้วยการกำจัดคนเหล่านี้ให้ออกไปจากประเทศไทยหรือ หรือจะตีกรอบให้ไม่มีเสรีภาพ จะเอาไปปรับทัศนคติอย่างนั้นหรือ

“ขอเรียนท่านผู้บัญชาการทหารบกว่าอย่ากังวลใจกับผม อย่ากังวลใจกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่ากังวลใจกับพรรคอนาคตใหม่ อย่ากังวลใจกับคนที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ท่านอาจจะคิดว่าผมเป็นพวกซ้ายจัดดัดจริต คนพวกนี้ชอบแต่จะศึกษาเรื่องราวปฏิวัติ เรื่องนี้ผมไม่เถียง ผมศึกษาเรื่องการปฏิวัติทั่วโลก เพื่อเป็นบทเรียนและพิจารณาร่วมกันว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยไม่ต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ การเปลี่ยนแปลงบนโลกนี้เกิดขึ้นได้สองรูปแบบ คือ การปฏิวัติและการปฏิรูป ดังนั้นการที่ผมศึกษาเรื่องการปฏิวัติ แต่ผมสนับสนุนและอยากให้ประเทศไทยเกิดปฏิรูป ให้คนในชาติได้อยู่อาศัยร่วมกัน  เพราะ 13 ปีที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้งขึ้นในประเทศ ที่ผ่านมาผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงผม ก็เคยเป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้ง แต่วันนี้ถึงเวลาแล้ว ที่วันนี้เรามีแต่ความปรารถนาดีที่พร้อมจะปฏิรูปประเทศไปด้วยกัน” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า การที่ผู้บัญชาการทหารบกบรรยายเมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) ไม่ได้ส่งผลดี ไม่ได้ช่วยแก้ไข ตรงกันข้ามกลับตอกลิ่มสร้างความแตกแยก แบ่งแยก สร้างความเกลียดชัง สิ่งที่ผู้บัญชาการทหารบกพูด กำลังไปกระตุ้นในสิ่งที่ไม่อยากให้เกิด และการทำพรรคอนาคตใหม่ของตนร่วมกับนายธนาธร ยอมรับว่ามีเสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ และมีคนรุ่นผู้ปกครอง รุ่นพ่อรุ่นแม่ที่ให้การสนับสนุนพรรค การก่อตั้งพรรค ไม่เคยมีความคิดที่จะแบ่งแยกรุ่นของคนในชาติ มีแต่จะชี้ให้เห็นปัญหาของคนทุกคนว่าต้องการที่จะใฝ่ฝันถึงสังคมใหม่ ไม่อยากติดลมความขัดแย้ง 13 ปีที่ผ่านมา แทนที่ผู้บัญชาการทหารบกจะสร้างความเข้าใจ แต่กลับไปตอกลิ่มซ้ำลงไปในอนาคตอาจเกิดความแตกแยกทางรุ่นขึ้นได้ เราจะบริหารประเทศอย่างไรหากผู้บัญชาการทหารบกออกมาพูดลักษณะนี้ ขออย่าดูถูกมันสมองของวัยรุ่นว่าตามยุคสมัยไม่ทัน หากใช้วิธีนี้แก้ไขปัญหา นานเข้าเกิดความฝังลึกลงไป ทางที่ดีผู้บัญชาการทหารบกควรทำความเข้าใจกับคนรุ่นใหม่ในลักษณะเปิดกว้างว่าคนรุ่นใหม่ต้องการเห็นอะไร เห็นประเทศไทยเป็นแบบไหน ขอวิงวอนอย่าใช้วิธีการแบบนี้เพื่อจะแก้ไขปัญหาร่วมกัน และการบรรยายของผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวานนี้ทำให้เห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิรูปกองทัพพร้อมกับประชาธิปไตย และต้องสนับสนุนหลักการรัฐบาลพลเรือนขึ้นมาอยู่เหนือกองทัพให้ได้ และสาเหตุที่ตนจำเป็นต้องออกมาบรรยายพิเศษในวันนี้ เพราะมีความกังวลใจว่าการบรรยายของผู้บัญชาการทหารบกจะสร้างปัญหาลุกลามบานปลายไปมากกว่าเดิม จะสร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติไปมากกว่าเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายปิยบุตร บรรยายพิเศษ หัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย : บทบาทของประชาชน ในการสร้างชาติ” ประมาณ 40 นาที มีชายคนหนึ่งที่มาร่วมรับฟังการบรรยาย  พยายามถามแทรกนายปิยบุตรเป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะช่วงที่นายปิยบุตร อธิบายถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชนวนความขัดแย้ง และบทบาทกองทัพ จนทำให้ผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ที่มาร่วมรับฟังได้ตะโกนขอให้ชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่บรรยาย แต่นายปิยบุตร ได้กล่าวขอให้ชายคนดังกล่าวใจเย็น ๆ และรอฟังการบรรยายให้จบแล้วจะตอบข้อสงสัยทั้งหมด พร้อมขอให้ผู้สนับสนุนเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้รับฟังการบรรยายโดยไม่ปิดกั้น เพราะพื้นที่พรรคอนาคตใหม่เป็นพื้นที่เสรีภาพ ทำให้บรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย  การบรรยายจึงดำเนินต่อไป

ภายหลังการเสร็จสิ้นการบรรยาย นายปิยบุตร ได้เปิดโอกาสให้ชายคนดังกล่าวซักถามข้อสงสัย จนจบ และเมื่อนายปิยบุตร ตอบคำถามจบ ชายคนดังกล่าวได้เข้ามาจับมือและขอบคุณนายปิยบุตรที่เปิดโอกาสให้ได้แสดงความคิดเห็น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]