“ปิยบุตร” ชี้ ผบ.ทบ.อย่าจุดชนวนสร้างความแตกแยก

พรรคอนาคตใหม่ 12 ต.ค.-“ปิยบุตร” บรรยายพิเศษ “แผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย : บทบาทของประชาชน ในการสร้างชาติ” โต้ ผบ.ทบ.สร้างความแตกแยก ย้ำฝ่ายค้านแตะแก้ รธน.หมวด 1-หมวด 2 ระบุคนฉีกคือคณะรัฐประหาร  ขออย่ากังวลพรรคอนาคตใหม่ ไม่เคยคิดแบ่งแยกรุ่น ยอมรับเป็นพวกซ้ายจัดดัดจริตศึกษาเรื่องปฏิวัติ แต่ต้องปฏิรูปประเทศไทย


นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดเวทีบรรยายพิเศษ หัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย  : บทบาทของประชาชน ในการสร้างชาติ” ว่า การจัดบรรยายวันนี้ (12 ต.ค.) เนื้อหาต้องการแก้ไขความเข้าใจที่ผิดพลาดของ พล.อ.อภิรัต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในการจัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองฝ่ายความมั่นคง” เมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) ซึ่งมองว่าเนื้อหาดังกล่าวที่จะนำไปสู่การสร้างความแตกแยก และวันนี้ต้องการตอบโต้ พล.อ.อภิรัชต์ ถึงแม้การบรรยายเมื่อวานนี้ จะไม่เอ่ยถึงชื่อนักการเมืองหรือพรรคการเมือง แต่เชื่อว่าหมายถึงพรรคอนาคตใหม่และแกนนำในพรรค เชื่อว่าการบรรยายเมื่อวานนี้เป็นการสะท้อนวิธีคิดของผู้บัญชาการทหารบกและกองทัพไทย ที่จะทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ

นายปิยบุตร กล่าวถึงการสร้างชาติ ว่า การสร้างชาติได้ต้องสร้างจากปัจจุบันด้วย ต้องถอดองค์อำนาจออกจากตัวบุคคลมาให้ประชาชนเป็นผู้นำสูงสุด และให้ประชาชนสร้างชาติ จึงจะเกิดจิตสำนึก เคารพซึ่งกันและกัน เพราะถ้าไม่มีประชาชน ก็ไม่มีชาติ พร้อมขอให้คนไทยทุกคนที่แม้จะมีความเห็นแตกต่างกัน มาร่วมกัน สร้างชาติ ด้วยการเคารพความเป็นคนของผู้อื่น ยึดมั่นสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค และเคารพความแตกต่างหลากหลายของผู้อื่น


“แม้เราจะเคยโกรธ เคยเกลียด เคยเห็นต่าง แต่เราคือคนไทย จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนเคารพความแตกต่าง หลากหลายของบุคคลอื่น” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า การที่ผู้บัญชาการทหารบกพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าเรื่องใดแก้ได้ แก้ไม่ได้ อยากให้หยิบรัฐธรรมนูญขึ้นมาดู อย่าใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน ให้หยิบรัฐธรรมนูญมาดูว่าเรื่องใดแก้ได้ แก้ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 255 เขียนว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐจะกระทำไม่ได้ นี่คือข้อจำกัดในการแก้รัฐธรรมนูญ ประเทศไทยจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็แก้ไขได้แต่ต้องไม่แก้ไขอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือเปลี่ยนรูปแบบของรัฐในการเป็นราชอาณาจักรหรือเปลี่ยนรูปของรัฐจากความเป็นรัฐเดี่ยว ซึ่ง 3 เรื่องนี้ห้ามแก้ไขเป็นอันขาด และหากถามว่ามาตรา  1 แก้ไขได้หรือไม่ หากลองไปเปิดรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 256 (8) เขียนไว้ว่า หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดที่ 1 หมวดที่ 2 และหมวดที่ 15 ต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชนก่อน ดังนั้นเมื่ออ่านรัฐธรรมนูญแล้วสามารถแก้ได้ แต่เมื่อแก้แล้วห้ามมีผลเปลี่ยนแปลงการปกครองในรูปแบบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ห้ามเปลี่ยนรูปแบบการปกครองของรัฐจากราชอาณาจักรเป็นรูปแบบอื่น และห้ามเปลี่ยนรูปแบบรัฐจากรัฐเดี่ยวไปเป็นสหพันธ์นี่คือข้อจำกัด แต่หากมีการแก้ประเทศไทยก็ได้ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่ามีการแก้ไขใดที่กระทบกับ 3 เงื่อนไขนี้หรือไม่

“ดังนั้นสิ่งที่ผู้บัญชาการทหารบกบรรยาย เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นความเข้าใจผิดทั้งหมดเป็นการนำความเห็นของนักวิชาการคนหนึ่งยกขึ้นมาทำลายความชอบธรรมในการขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคฝ่ายค้าน โดยพยายามยึดโยงว่าการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งพรรคฝ่ายค้านยืนยันแล้วว่าไม่จริง และเคยยืนยันแล้วว่าการแก้ไขจะไม่เข้าไปแตะหมวด 1 และหมวด 2 โดยพรรคการเมืองฝ่ายค้านเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญตามระบบ ตรงกันข้าม เวลาคณะรัฐประหารเข้ามาก็ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งทั้งฉบับ เท่ากับข้อห้ามในการแก้ไขไม่มีอีกต่อไปแล้ว รัฐธรรมนูญกลับไปเป็นปีศูนย์ ไม่มีอะไรเป็นกรอบเป็นเกณฑ์ ดังนั้นการฉีดรัฐธรรมนูญโดยรัฐประหารหรือไม่ที่จะเป็นการเปลี่ยน อยากให้คิดให้ดีว่า คนที่มีปากกา คนที่มีมือ คนที่มีความคิด กับคนทีมีอาวุธ ใครกันแน่ที่ละเมิดมาตรา 1 ได้มากกว่ากัน” นายปิยบุตร กล่าว


นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ทหารและกองทัพในสมัยใหม่ จะออกมาจากการเมืองและทำหน้าที่รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร จะไม่เข้ามาเล่นการเมือง  ในต่างประเทศ ไม่เคยเห็นผู้บัญชาการทหารบกออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แค่จุดเล็ก ๆ จุดนี้แสดงให้เห็นว่าประชาธิปไตยสมัยใหม่ในต่างประเทศไม่ให้เอากองทัพมายุ่งกับการเมือง ตรงกันข้ามกับประเทศไทย

นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ขอตั้งคำถามไปยังผู้บัญชาการทหารบก ที่กล่าวว่าประเทศมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย หากปัญหาใหญ่จะฝากความหวังไว้ที่กองทัพที่ไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตย แทรกแซงการเมืองได้เสมอ พร้อมรัฐประหารทุกเวลา และยังติดอยู่ในยุคของสงครามเย็น รวมถึงจะฝากไว้กับสื่อยุยงปลุกปั่นที่เรียกว่าดาวสยาม 4.0 ได้หรือไม่ จึงอยากเชิญชวนผู้บัญชาการทหารบกและกองทัพ มาร่วมพูดคุย อย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ต้องเลิกวิธีการสร้างศัตรูภายในใจ ต้องบอกว่าความเห็นที่แตกต่างกันนั้นสามารถอยู่อาศัยร่วมกัน ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าปรากฏการณ์ของพรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นแล้ว มีประชาชนคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่ตื่นรู้ และหากแก้ปัญหาโดยการมองว่าคนเหล่านี้ถูกปลุกปั่น ก็จะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด จะแก้ไขปัญหาด้วยการกำจัดคนเหล่านี้ให้ออกไปจากประเทศไทยหรือ หรือจะตีกรอบให้ไม่มีเสรีภาพ จะเอาไปปรับทัศนคติอย่างนั้นหรือ

“ขอเรียนท่านผู้บัญชาการทหารบกว่าอย่ากังวลใจกับผม อย่ากังวลใจกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่ากังวลใจกับพรรคอนาคตใหม่ อย่ากังวลใจกับคนที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ท่านอาจจะคิดว่าผมเป็นพวกซ้ายจัดดัดจริต คนพวกนี้ชอบแต่จะศึกษาเรื่องราวปฏิวัติ เรื่องนี้ผมไม่เถียง ผมศึกษาเรื่องการปฏิวัติทั่วโลก เพื่อเป็นบทเรียนและพิจารณาร่วมกันว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยไม่ต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ การเปลี่ยนแปลงบนโลกนี้เกิดขึ้นได้สองรูปแบบ คือ การปฏิวัติและการปฏิรูป ดังนั้นการที่ผมศึกษาเรื่องการปฏิวัติ แต่ผมสนับสนุนและอยากให้ประเทศไทยเกิดปฏิรูป ให้คนในชาติได้อยู่อาศัยร่วมกัน  เพราะ 13 ปีที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้งขึ้นในประเทศ ที่ผ่านมาผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงผม ก็เคยเป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้ง แต่วันนี้ถึงเวลาแล้ว ที่วันนี้เรามีแต่ความปรารถนาดีที่พร้อมจะปฏิรูปประเทศไปด้วยกัน” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า การที่ผู้บัญชาการทหารบกบรรยายเมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) ไม่ได้ส่งผลดี ไม่ได้ช่วยแก้ไข ตรงกันข้ามกลับตอกลิ่มสร้างความแตกแยก แบ่งแยก สร้างความเกลียดชัง สิ่งที่ผู้บัญชาการทหารบกพูด กำลังไปกระตุ้นในสิ่งที่ไม่อยากให้เกิด และการทำพรรคอนาคตใหม่ของตนร่วมกับนายธนาธร ยอมรับว่ามีเสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ และมีคนรุ่นผู้ปกครอง รุ่นพ่อรุ่นแม่ที่ให้การสนับสนุนพรรค การก่อตั้งพรรค ไม่เคยมีความคิดที่จะแบ่งแยกรุ่นของคนในชาติ มีแต่จะชี้ให้เห็นปัญหาของคนทุกคนว่าต้องการที่จะใฝ่ฝันถึงสังคมใหม่ ไม่อยากติดลมความขัดแย้ง 13 ปีที่ผ่านมา แทนที่ผู้บัญชาการทหารบกจะสร้างความเข้าใจ แต่กลับไปตอกลิ่มซ้ำลงไปในอนาคตอาจเกิดความแตกแยกทางรุ่นขึ้นได้ เราจะบริหารประเทศอย่างไรหากผู้บัญชาการทหารบกออกมาพูดลักษณะนี้ ขออย่าดูถูกมันสมองของวัยรุ่นว่าตามยุคสมัยไม่ทัน หากใช้วิธีนี้แก้ไขปัญหา นานเข้าเกิดความฝังลึกลงไป ทางที่ดีผู้บัญชาการทหารบกควรทำความเข้าใจกับคนรุ่นใหม่ในลักษณะเปิดกว้างว่าคนรุ่นใหม่ต้องการเห็นอะไร เห็นประเทศไทยเป็นแบบไหน ขอวิงวอนอย่าใช้วิธีการแบบนี้เพื่อจะแก้ไขปัญหาร่วมกัน และการบรรยายของผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวานนี้ทำให้เห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิรูปกองทัพพร้อมกับประชาธิปไตย และต้องสนับสนุนหลักการรัฐบาลพลเรือนขึ้นมาอยู่เหนือกองทัพให้ได้ และสาเหตุที่ตนจำเป็นต้องออกมาบรรยายพิเศษในวันนี้ เพราะมีความกังวลใจว่าการบรรยายของผู้บัญชาการทหารบกจะสร้างปัญหาลุกลามบานปลายไปมากกว่าเดิม จะสร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติไปมากกว่าเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายปิยบุตร บรรยายพิเศษ หัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย : บทบาทของประชาชน ในการสร้างชาติ” ประมาณ 40 นาที มีชายคนหนึ่งที่มาร่วมรับฟังการบรรยาย  พยายามถามแทรกนายปิยบุตรเป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะช่วงที่นายปิยบุตร อธิบายถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชนวนความขัดแย้ง และบทบาทกองทัพ จนทำให้ผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ที่มาร่วมรับฟังได้ตะโกนขอให้ชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่บรรยาย แต่นายปิยบุตร ได้กล่าวขอให้ชายคนดังกล่าวใจเย็น ๆ และรอฟังการบรรยายให้จบแล้วจะตอบข้อสงสัยทั้งหมด พร้อมขอให้ผู้สนับสนุนเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้รับฟังการบรรยายโดยไม่ปิดกั้น เพราะพื้นที่พรรคอนาคตใหม่เป็นพื้นที่เสรีภาพ ทำให้บรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย  การบรรยายจึงดำเนินต่อไป

ภายหลังการเสร็จสิ้นการบรรยาย นายปิยบุตร ได้เปิดโอกาสให้ชายคนดังกล่าวซักถามข้อสงสัย จนจบ และเมื่อนายปิยบุตร ตอบคำถามจบ ชายคนดังกล่าวได้เข้ามาจับมือและขอบคุณนายปิยบุตรที่เปิดโอกาสให้ได้แสดงความคิดเห็น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]

“อนุทิน” ยันอุบลฯ ไม่โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน

อุบลราชธานี 8 มิ.ย.- “อนุทิน” ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน ขณะที่ชาวบ้านยอมรับหวาดกลัว แต่อุ่นใจมีทหารคอยดูแลความปลอดภัย นายอนุทิน​ ชาญ​วีระกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นำคณะปฏิบัติราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี จุดแรกที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ หมู่ที่ 17 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน เพื่อมอบสิ่งของให้ทหาร​ ชรบ.​อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จากนั้นไปดูหลุมหลบภัย 2 จุด คือหลุมหลบภัย โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทินเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์​จากอุบลราชธานี มาพื้นที่ชายแดน​พร้อมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครอง​ก่อนวันพุธที่ 11 มิถุนายน​ จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 7 จังหวัดมาประชุมร่วมกันที่อุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ​ ถึงแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายอนุทิน แนะนำผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ 7 จังหวัด รวมถึงสส. ทั้งของพรรคภูมิใจไทยและต่างพรรคที่มาเป็นกำลังใจให้ทุกคนโดยเฉพาะทหารที่เป็นกำลังสำคัญ​ และรับรองได้ว่าจะไม่ให้ใครรุกรานเข้ามาแม้แต่มิลลิเมตรเดียว​ พร้อมยืนยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว คนไทยทุกคนพร้อมที่จะคอยตรึงแนวหลัง ให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มารอต้อนรับคณะของนายอนุทิน ยอมรับว่าหวาดกลัวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะเคยประสบเหตุ เหยียบกับระเบิด […]