ดีเอสไอ 7 ต.ค.-ดีเอสไอ เตรียมลงพื้นที่อุทยานฯ แก่งกระจาน บินสำรวจจุดเกิดเหตุฆาตกรรม ‘บิลลี่’ 10 ต.ค.นี้ พร้อมสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 20 ปาก หลังรับสำนวนประกอบคดีฆาตกรรมบิลลี่จาก ป.ป.ช.
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกรอย ว่า ดีเอสไอได้รับสำนวนการสอบสวนคดีกรณีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกับพวกกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ไม่เปรียบเทียบปรับและไม่นำตัวนายบิลลี่ ซึ่งกระทำความ ผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ พร้อมของกลางน้ำผึ้งป่าให้ตำรวจ สภ.แก่งกระจานดำเนินคดี
ซึ่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)ได้ส่งไปให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช) และ ป.ป.ช.ได้ส่งมาให้ดีเอสไอแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนช่วยกันกันตรวจดูสำนวนอย่างละเอียดแล้วในช่วง 5-6 ต.ค. ซึ่งพบว่าสำนวนการสอบสวนของ ป.ป.ท.ค่อนข้างละเอียดและมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องมากพอสมควร ในส่วนนี้ดีเอสไอจะนำไปประกอบกับสำนวนเพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบสวนต่อไป โดยดีเอสไอจะต้องเรียกสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 20 ปาก จำนวนนี้บางรายเคยมีการสอบปากคำไปแล้ว และบางรายก็ยังไม่ได้สอบ และยังต้องมีการติดตามส่วนที่เหลือมาสอบปากคำเพิ่มเติมคาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจำนวนนี้ไม่ได้รวมเจ้าหน้าที่อุทยานฯอีก 5 คนที่เกี่ยวข้องในคดี
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีนี้มีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 80 แล้ว ขณะเดียวกันก็จัดชุดปฎิบัติการกระจายลงพื้นที่ในหลายจุดเพื่อหาหลักฐาน วัตถุพยาน หรือสิ่งของของนายพอละจีที่ยังหาไม่พบ อย่างไรก็ตามในวันพฤหัสบดีที่ 10 ต.ค.นี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอและตนจะลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินดูสภาพพื้นที่โดยรวมและจุดเกิดเหตุจากมุมสูงรวมทั้งเส้นทางที่คาดว่าจะมีการนำตัวนายบิลลี่ออกไป โดยเฉพาะเส้นทางเข้า-ออก เพื่อให้เห็นสภาพพื้นที่จริง เพื่อนำไปประกอบกับข้อมูลพื้นราบ ซึ่งมีค่อนข้างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว .-สำนักข่าวไทย