คมนาคมจัดระบบขนส่งรับ Moto GP 2019

บุรีรัมย์ 4 ต.ค. – พร้อมแล้ว!! คมนาคมยืนยันความพร้อมรองรับการเดินทางเข้าชมการแข่งขันโมโตจีพี 2019 บุรีรัมย์ เพิ่มเที่ยวบิน รถไฟ รถโดยสาร รองรับนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานกว่า 2 แสนคน


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมแผนรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมการแข่งขัน  Moto GP 2019 ระหว่างวันที่  4 – 6 ตุลาคม สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศเดินทางมาเข้าชมการแข่งขัน ไม่น้อยกว่า  200,000  คน โดยได้ถอดบทเรียนจากงานปีที่ผ่านมา และบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวกให้แก่นักแข่งจักรยานยนต์ในการเดินทางและขนส่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแข่งขัน รวมถึงผู้เข้าชมการแข่งขันให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัย

สำหรับการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกการเดินทางนั้น กรมทาอากาศยาน (ทย.) ได้เตรียมแผนรองรับเที่ยวบินพิเศษ ( Extra flight) เพิ่มขึ้น ทำแผนผังพื้นที่เช็กอิน จัดพื้นที่พักคอยของผู้โดยสาร เส้นทางเข้า – ออก อาคาร กำหนดพื้นที่รับ – ส่งผู้โดยสาร จุดจอดรถเช่า พร้อมตรวจสอบเครื่องมือและอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานให้พร้อมใช้งานและเพียงพอตามมาตรการรักษาความปลอดภัยและแผนฉุกเฉินของท่าอากาศยาน ขณะเดียวกันได้ทำงานร่วมกับกรมศุลกากรด้าน CIQ (ผู้โดยสารขาออกที่ผ่านพิธีการศุลกากร (Custom) การตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) และผ่านด่านตรวจกักกันพืชและสัตว์ (Quarantine) เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย


ขณะที่ทางราง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพิ่มเที่ยวรถไฟพิเศษจากสถานีหัวลำโพงไปยังสถานีบุรีรัมย์ เพิ่มรถไฟ Sprinter จากจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงมายัง จ.บุรีรัมย์ และจากสถานีรถไฟบุรีรัมย์ไปยังสนามแข่งโดยตรง ซึ้งปัจจุบัน มีเที่ยวรถไปยัง จ.บุรีรัมย์ 58 ขบวน (รองรับผู้โดยสารได้ถึง 21,500 คน/วัน) และสามารถพ่วงตู้โดยสารได้จนเต็มหน่วยลากจูงเพื่อรองรับผู้โดยสารได้อีก 5,000 คน/วัน อำนวยความสะดวกการจองบัตรโดยสารผ่าน Application และการจ่ายค่าโดยสารด้วยระบบ QR code นอกจากนี้ สถานีรถไฟบุรีรัมย์เตรียมพื้นที่จอดรถ การปรับปรุงอาคารและบริเวณรอบสถานี โทรศัพท์สาธารณะ ป้ายบอกทาง ห้องน้ำ การปรับปรุงภูมิทัศน์ การจัดพื้นที่บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุและผู้พิการ เพิ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายการบริการ จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด

ส่วนกรมทางหลวง (ทล.) ก่อสร้างขยายช่องจราจรเส้นทางสายบุรีรัมย์-นางรอง ตอน บ.สระสี่เหลี่ยม – บ.โคกสีพัฒนาเป็น4ช่องจราจร และเส้นทางทล. 2445 บุรีรัมย์ – แสลงโทน เป็น 6 ช่องจราจร พร้อมบูรณะผิวทางเดิม เช่น ตอนถนนวงแหวนรอบเมืองบุรีรัมย์ ขณะที่กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ปรับปรุงบริเวณคอขวดไหล่ทาง สาย บร.3048 แยก ทล. 226 บ.สง่างาม อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งติดตั้งป้ายบอกทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางรอง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรติดขัดในเส้นทางหลัก 

สำหรับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพิ่มเที่ยวรถโดยสารให้เพียงพอกับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางกรุงเทพ – บุรีรัมย์ เพิ่มเที่ยวรถทั้งไป-กลับอีก 16 เที่ยว/วัน จากเดิม 44 เที่ยว/วัน รวมเป็น 60 เที่ยว/วัน ประกอบดัวยรถ บขส. 20 เที่ยว และรถร่วมบริการ 40 เที่ยว


ทั้งนี้ หากรถโดยสารไม่เพียงพอต่อการให้บริการจะนำรถโดยสาร ไม่ประจำทางมาวิ่งรับ – ส่งด้วย ส่วนเส้นทางนครราชสีมา – บุรีรัมย์จะมีเที่ยวรถให้บริการ ไป – กลับ รวมบริการ 120 เที่ยว/วัน แบ่งเป็นรถ บขส. 18 เที่ยว และรถตู้ 102 เที่ยว สำหรับรถโดยสารประจำทางหมวด 3 ที่มีเส้นทางผ่าน จ.บุรีรัมย์ อีก 10 เส้นทาง เช่น สาย 275 ร้อยเอ็ด – บุรีรัมย์, สาย 281 ขอนแก่น – สุรินทร์, สาย 522 บุรีรัมย์ – จันทบุรี, สาย 587อุบลราชธานี – เชียงใหม่,สาย 588 ระยอง – อุบลราชธานี  สาย 589 พัทยา – อุบลราชธานี, สาย 832 ภูเก็ต – อุบลราชธานี  โดยได้เน้นย้ำให้ตรวจสภาพรถให้มีความพร้อมใช้งาน รวมทั้งตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถก่อนปฏิบัติหน้าที่  นอกจากนี้ ยังมีจัดเตรียมรถ Shuttle Bus รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว เพื่อเชื่อมโยงจากท่าอากาศยาน สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ โรงแรมหลัก ๆ และจุดสำคัญภายใน จ.บุรีรัมย์ ไปยังสถานที่จัดงาน

กรมการขนส่งทางบกร่วมกับจังหวัดอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่จะเข้าชมการแข่งขัน โดยจัดเตรียมรถ shuttle bus การจัดรถโดยสาร 4 เส้นทางไปยังสนามแข่งขัน ได้แก่ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ,สถานีรถไฟบุรีรัมย์, สถานีขนส่งบุรีรัมย์ และ อบจ.บุรีรัมย์ และเส้นทาง Loop 3 เส้นทาง ได้แก่ วงเวียน ร.1 – สนามช้างฯ / เรือนจำ – แยกภัทร / และแยกภัทร – แยกกระสัง 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ย้ำว่า การจัดงาน Moto GP 2019 ซึ่งเป็นกีฬาแข่งขันความเร็วระดับโลก นอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ และเยาวชนที่รักกีฬาความเร็ว เรียนรู้การแข่งขันที่ถูกต้องในสนาม  ไม่ไปใช้ความเร็วบนท้องถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุและความไม่ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]