สธ.1 ต.ค.-สธ.ลงพื้นที่เขตภาษีเจริญ แนะประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นเล็ก พร้อมย้ำให้ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศจากเฟซบุ๊กเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศPM2.5” ของกระทรวงสาธารณสุข
วันนี้ (1 ต.ค.) นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังนำทีมสาธารณสุขลงพื้นที่เขตภาษีเจริญ ให้ความรู้และคำแนะนำแก่ประชาชนเพื่อป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข มีความห่วงใยสุขภาพประชาชนในช่วงนี้ที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5สูงเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่กรุงเทพฯ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันตนเองที่ถูกต้อง ด้วยการติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศจากเฟซบุ๊กเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” ของกระทรวงสาธารณสุข
โดยให้สังเกตที่สีเป็นหลัก หากเป็นสีส้มและสีแดงซึ่งเป็นค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และควรประเมินตนเองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ อาทิ มีอาชีพอยู่กลางแจ้งต้องสัมผัสฝุ่นเป็นเวลานาน หรืออาศัยในพื้นที่เสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด หากพบว่าเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงให้หลีกเลี่ยง การสัมผัสฝุ่น ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท งดกิจกรรมหรือออกกำลังกายอย่างหนักกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงฝุ่นสูงให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากาก N95 แต่ต้องใส่ให้ถูกวิธีด้วย และที่สำคัญห้ามสวมใส่หน้ากากทุกชนิดขณะที่ออกกำลังกายอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ร่างกายต้องหายใจแรง เร็วขึ้น ส่งผลให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานหนักมากขึ้นและอาจเป็นอันตรายได้
“ฝุ่นละอองขนาดเล็กมีแหล่งกำเนิดจากหลายแหล่ง เช่น การจราจร การขนส่งวัสดุ การผลิตไฟฟ้า การเผาไหม้ และการจุดธูป เป็นต้น ซึ่งวิธีการลดปริมาณฝุ่นละอองที่ดีที่สุดคือ ประชาชนต้องมีจิตสำนึกร่วมกันเพื่อลดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของฝุ่นละออง เช่น ลดการจุดธูป ลดการเผาขยะ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณฝุ่นเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มจากการลดใช้ถุง พลาสติกหันมาใช้ถุงผ้าในการจับจ่ายสินค้าแทน ก็จะช่วยลดปริมาณขยะที่จะกำจัดด้วยวิธีการเผาให้น้อยลง ทำความสะอาดบ้านบ่อย ๆ โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ แทนการกวาด เพื่อเป็นการลดฝุ่นละออง และป้องกันตนเองโดยการ สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองที่เหมาะสม ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม ถ้าที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงฝุ่นละอองให้ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด คอยติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศ และประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการหรือสื่อต่างๆ”ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ด้าน นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเสริมว่า พ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารตามแผงลอยบนบาทวิถีนั้น นับเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้ จึงควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน หากอยู่ในพื้นที่การจราจรหนาแน่น ส่วนการจำหน่ายอาหารบนบาทวิถีบางจุดเป็นสถานที่ที่มีควันรถ ฝุ่นละอองจากถนน การเตรียมปรุงประกอบอาหารไม่มีที่กำบังเพียงพอ ทำให้อาหารในร้านเสี่ยงต่อการปนเปื้อนฝุ่นหรือควันจากท่อไอเสียรถยนต์ โดยเฉพาะร้านที่เปิดโล่ง ไม่มีการป้องกันฝุ่นควันที่ตกลงไปปนเปื้อนในอาหาร ดังนั้น นอกจากการปรุงประกอบอาหารที่ถูกสุขลักษณะแล้ว ภาชนะอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ จาน ชาม ช้อน ควรล้างให้สะอาดและมีการปกปิดอย่างมิดชิด
ส่วนผู้บริโภคควรเลือกซื้อจากแผงลอยที่มีการปกปิดอาหาร เช่น ใส่ตู้กระจก หม้อที่มีฝาปิด เป็นต้น ที่สำคัญประชาชนผู้บริโภคควรล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัสฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกายผ่านการหยิบจับอาหาร
สำหรับตำรวจจราจร พนักงานทำความสะอาดถนน คนขับรถรับจ้างประเภทรถตุ๊กๆ และจักรยานยนต์ เป็นผู้สัมผัสฝุ่นละอองตลอดเวลา จึงต้องรู้จักป้องกันตนเองให้มากขึ้นในช่วงนี้ โดยสวมหน้ากากอนามัยที่เหมาะสมและหลังจากปฏิบัติงานเสร็จแล้วต้องอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายและซักเสื้อผ้าที่สวมใส่ตอนปฏิบัติงานเพื่อสุขอนามัยที่ดี .-สำนักข่าวไทย