ครบ 7 วัน มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวมกว่า 14.5 ล้านคน-เที่ยว

กรุงเทพ 1 ก.พ. – กรมรางเผยศุกร์สิ้นเดือนและเป็นวันสุดท้ายที่ขึ้นรถไฟฟ้าได้ฟรี มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวม 2.42 ล้านคน-เที่ยว สูงที่สุด ทุบสถิติ ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-19 (นิวไฮ) เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันศุกร์ในสามสัปดาห์ของเดือน ม.ค.68 สะสมครบ 7 วัน มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวมกว่า 14.5 ล้านคน-เที่ยว


นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (31 ม.ค.68) ซึ่งเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนมกราคม และเป็นวันสุดท้าย (วันที่เจ็ด) ที่มีมาตรการส่งเสริมให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะสำหรับรถไฟฟ้าทุกสายทางและรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 มกราคม 2568 รวม 7 วัน เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้พบว่ามีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 2,420,999 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid- 19 (นิวไฮ) โดยมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 716,799 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.06 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันศุกร์ในสามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา (ค่าเฉลี่ยฯ 1,704,200 คน-เที่ยว) และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามากกว่าวันพฤหัสบดี (30 มกราคม 2568) จำนวน 89,465 คนเที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.84 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. รถไฟฟ้า Airport Rail Link มีผู้ใช้บริการจำนวน 101,641 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 22,717 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.78) สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ)
  2. รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 61,216 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 19,702 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 47.46) สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ)
  3. รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) มีผู้ใช้บริการจำนวน 712,781 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 194,781 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.06) สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ)
  4. รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 110,632 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 27,963 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.83) สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ)
  5. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) มีผู้ใช้บริการจำนวน 1,188,459 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 332,832 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.90) สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ) และสูงสุดอีกครั้งตั้งแต่เปิดให้บริการมากว่า 25 ปี
  6. รถไฟฟ้าสายสีทอง มีผู้ใช้บริการจำนวน 17,984 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 9,364 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 108.63) (ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีทองมีผู้ใช้บริการสูงสุด จำนวน 48,107 คน-เที่ยว เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2566)
  7. รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 96,432 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 47,684 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 97.82) สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ) และสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ
  8. รถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ มีผู้ใช้บริการจำนวน 131,854 คน-เที่ยว (มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 61,756 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.10) สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ) และสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ

ซึ่งหากเรียงลำดับตามร้อยละที่เพิ่มขึ้น จะพบว่า มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีทองเพิ่มขึ้นร้อยละ 108.63 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันศุกร์สามสัปดาห์ของเดือน รองลงมาคือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู เพิ่มขึ้นร้อยละ 97.82 และร้อยละ 88.10 ตามลำดับ และยังส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามากสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ covid-19 (นิวไฮ) รวม 9 สายทาง ได้แก่ สายสีเหลือง (สายนัคราพิพัฒน์) สายสีชมพู สายสีแดง (สายนครวิถีและสายธานีรัถยา) สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) สายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) สายสีม่วง (สายฉลองรัชธรรม) และ Airport Rail Link


นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ให้บริการรวม 210 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 97,421 คน-เที่ยว ประกอบด้วย ผู้โดยสารขบวนรถเชิงพาณิชย์ 36,944 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 60,477 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยฯ จำนวน 12,852 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.20 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันศุกร์สามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ภาพรวมวันที่ 31 มกราคม 2568 มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 2,518,420 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ) เพิ่มขึ้น 729,651 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.79 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันศุกร์ในสามสัปดาห์ของเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมสะสมครบ 7 วัน ตามมาตรการรถไฟฟ้าฟรี มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 14,506,212 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากช่วงเจ็ดวันเดียวกันของสัปดาห์ที่ผ่านมา 4,116,446 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.62 (วันที่ 18-24 มกราคม 2568 รวม 7 วันก่อนมีมาตรการฯ มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า รวม 10,389,766 คน-เที่ยว) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) มีผู้ใช้บริการจำนวน 7,308,548 คน-เที่ยว (มากกว่าสัปดาห์ก่อนมีมาตรการฯ 2,058,833 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.22)
  2. รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) มีผู้ใช้บริการจำนวน 4,212,284 คน-เที่ยว (มากกว่าสัปดาห์ก่อนมีมาตรการฯ 1,058,345 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.56)
  3. รถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ มีผู้ใช้บริการจำนวน 737,309 คน-เที่ยว (มากกว่าสัปดาห์ก่อนมีมาตรการฯ 329,018 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 80.58)
  4. รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 620,267 คน-เที่ยว (มากกว่าสัปดาห์ก่อนมีมาตรการฯ 130,908 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.75)
  5. รถไฟฟ้า Airport Rail Link มีผู้ใช้บริการจำนวน 612,489 คน-เที่ยว (มากกว่าสัปดาห์ก่อนมีมาตรการฯ 120,212 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.42)
  6. รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 556,384 คน-เที่ยว (มากกว่าสัปดาห์ก่อนมีมาตรการฯ 262,422 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 89.28)
  7. รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 330,448 คน-เที่ยว (มากกว่าสัปดาห์ก่อนมีมาตรการฯ 80,296 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.10)
  8. รถไฟฟ้าสายสีทอง มีผู้ใช้บริการจำนวน 128,483 คน-เที่ยว (มากกว่าสัปดาห์ก่อนมีมาตรการฯ 76,342 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 146.41)

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับช่วงวันที่ 31 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2568 มีงานเกษตรแฟร์ประจำปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเข้าร่วมงานดังกล่าว กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จึงได้ประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าเตรียมความพร้อมการจัดการที่สถานีใกล้เคียงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ปริมาณผู้โดยสารที่สถานีรถไฟฟ้าต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาปรับเพิ่มความถี่ในการให้บริการเพิ่มเติม เพิ่มช่องทางการออกบัตร/เหรียญโดยสารเพิ่มเติม สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ รวมทั้งในกรณีที่สถานีรถไฟฟ้ามีผู้โดยสารหนาแน่น จะมีการจัดลำดับการเข้าใช้บริการของผู้โดยสาร (Group Release) เพื่อควบคุมปริมาณผู้ใช้บริการไม่ให้เกิดความแออัดทั้งในสถานีและในขบวนรถไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ใช้บริการระบบรางได้รับความสะดวก รวดเร็วและมีความปลอดภัยสูงสุด


นายพิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า ภายหลังมีมาตรการรถไฟฟ้าฟรี พบว่า มีประชาชนหันมาใช้บริการระบบรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานเป็นวันสุดท้ายของมาตรการฯ ทำให้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ covid-19 และตั้งแต่เปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าเกือบทุกเส้นทาง (ยกเว้นสายสีทอง) ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนสนใจร่วมเข้าใช้ระบบรถไฟฟ้าที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลแบบสันดาป อันเป็นแนวทางที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ รวมทั้งมีส่วนช่วยให้ฝุ่นละออง PM 2.5 ลดลงอีกด้วย ทั้งนี้ ขร. จะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าว สรุปเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]