Big Story : ส่งนาฬิกาของ “ลันลาเบล” ตรวจหาเวลาสิ้นใจ

กทม. 22 ก.ย.- คืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ พริตตี้สาวสวย “ลัลลาเบล” วันนี้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ได้ส่งนาฬิกาของ “ลันลาเบล”  ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจหาเวลาสิ้นใจแล้ว พร้อมส่งภาพชายใส่นาฬิกาทอง ลูบหัว “ลันลาเบล” ให้ตำรวจ ปอท. เช็กว่าเป็นใคร  ลั่นคดีนี้มีคนผิดแน่นอน  คาดจะขอศาลออกหมายจับในสัปดาห์หน้า  ขณะที่เจ้าของบ้านจัดปาร์ตี้  แจงนาฬิกาข้อมือสีทองที่ลูบหน้า “ลันลาเบล” เป็นของ “น้ำอุ่น”  


ความคืบหน้าการเสียชีวิตของนางสาวธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล พริตตี้สาว วันนี้ตำรวจ ส.น.บุคคโล ยังเดินหน้า ประชุมเร่งคลี่คลายคดี โดย พลตำรวจตรีสัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ระบุว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบได้ปากคำพยาน ที่เกิดเหตุครบทุกคนแล้ว ส่วนพยานบุคคลอื่นๆ คาดว่าภายในวันนี้จะเสร็จสิ้น ยอมรับว่าหากมีประเด็นใหม่เพิ่มเติมก็จะต้องสอบต่อไป รวมถึงการสอบนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือ น้ำอุ่น ด้วย        


ส่วนเรื่องนาฬิกาสมาร์ทวอชที่ “ลันลาเบล” ใส่ติดตัวจะเป็นอุปกรณ์ที่บ่งบอกถึงการเต้นของหัวใจ  หรือ เวลาที่หยุดหายใจ  สิ้นใจตอนไหน  หรือไม่นั้น  ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ ยืนยันรับรองอุปกรณ์ดังกล่าว ว่ามีความแม่นยำ ชัดเจน 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งนาฬิกาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอยู่ รวมทั้งเร่งติดตามเจ้าของนาฬิกาข้อมือสีทองที่ปรากฏในคลิปว่าเป็นบุคคลอีกหนึ่งคน ที่อาจไม่ใช่นายน้ำอุ่น ซึ่งตำรวจได้ส่งคลิปดังกล่าว ไปให้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ตรวจสอบรายละเอียดอยู่ ส่วนชายที่ปรากฏในลิฟท์ ขณะน้ำอุ่น ลาก “ลัลลาเบล”  เข้าลิฟท์ มีการเรียกสอบแล้ว ซึ่งให้การว่า น้ำอุ่น บอกว่า “ลันลาเบล” เป็นแฟน 

ขณะที่ผลการตรวจร่างกายของ “ลัลลาเบล” ตำรวจ สน.บุคคโล ยืนยันว่า ขณะนี้ผลยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ   จึงยังไม่สามารถ ยืนยันความความชัดเจนของปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ตาย ว่ามีถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์หรือไม่ แต่มีคนผิดต้องรับผิดชอบอย่างแน่นอน และเมื่อทราบผลชันสูตร อย่างเป็นทางการ คาดจะขอศาลออกหมายจับได้เร็วที่สุด   ในสัปดาห์หน้า           


เวลา 15.45  น.  ที่สน.บุคคโล  ตำรวจมีการเรียก เพื่อน ชื่อโทน และฝน ซึ่งเป็นคนที่ไปพบศพ “ลันลาเบล” นอนเสียชีวิตที่โซฟา ในคอนโดของนายน้ำอุ่น ย่านตลาดพลู มาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หลังพบความเชื่อมโยงในประเด็นใหม่ เช่นกรณีของนาฬิกาสมาร์ทวอช ที่ตั้งข้อสังเกตว่า อาจช่วยในการพิสูจน์ช่วงเวลาของการเสียชีวิตได้ 

และยังมีรายงานข่าวว่า ขณะนี้ ประเด็นที่ตำรวจมุ่งสอบสวน คือ การคลี่คลายปมการเสียชีวิตเป็นสำคัญ โดยจะแยกประเด็นการจัดงานปาร์ตี้ที่บ้านย่านบางบัวทองออกไปก่อน หากสุดท้ายแนวทางการสืบสวนพบว่า มีความเชื่อมโยงกัน จึงจะประสานตำรวจในพื้นที่ นำพยานหลักฐานมาประกอบการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง  ส่วนการสอบปากคำพยานในบ้านที่จัดงานปาร์ตี้ซึ่งมีทั้งหมด 8 คน ไม่รวม “ลัลลาเบล” และนายน้ำอุ่น พบว่าทั้งหมดให้การสอดคล้องไปในทำนองเดียวกัน แต่มีลักษณะคล้ายกับได้รับคำแนะนำจากผู้มีความรู้ทางด้านกฎหมายชี้แนะ ขัดกับพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ จึงมองว่ายังไม่เป็นประโยชน์เท่าที่ควร 

 

นอกจากนี้ในที่ประชุม ยังได้รวบรวมคำพิพากษาฎีกาคดีสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในไทยหลายคดี เพื่อนำไปขอคำปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้มีความรู้ทางข้อกฎหมาย สำหรับนำไปพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา และใช้ประกอบในการไปยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับ โดยเฉพาะในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่มีอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิต

ที่บ้านนายชัยพล หรือคิว พรรณา อายุ 29 ปี เจ้าของบ้าน และนายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร อายุ 33 ปี พี่ชาย    ได้โชว์นาฬิกาข้อมือ ให้สื่อมวลชนดู เพื่อยืนยันว่า ไม่ใช่นาฬิกาข้อมือสีทอง ที่ปรากฏในคลิป ใช้มือลูบหน้า “ลัลลาเบล” ไม่ใช้ของพวกตน แต่อ้างว่า เป็นของน้ำอุ่น ที่ตอนแรก น้ำอุ่น ใส่นาฬิกาตัวเรือนโลหะสายสีทอง แต่ตอนหลัง สายนาฬิกาเกิดหลุด ทำให้น้ำอุ่นหยิบนาฬิกาในกระเป๋าอีกเรือนขึ้นมาใส่แทน โดยเป็นตัวเรือนสีดำ  ซึ่งขอยืนยันอีกครั้งว่า เจ้าของมือ และนาฬิกาสีทองลูบไล้ใบหน้าของ ลันลาเบลก็คือ น้ำอุ่น

ส่วนกรณีที่มีพริตตี้สาว “น้องเดียร์” ที่ให้การกับ ตำรวจว่าได้มาร่วมงานในวันเดียวกันหลังจาก “ลันลาเบล” กลับไปแล้ว   และตื่นมาพบว่าถูกข่มขืนนั้น นายนที หรือตี๋ ยืนยันไม่ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะทุกคนที่งานดื่มเหล้า มีสภาพที่ไม่สามารถไปทำอะไรใครได้ หาก “เดียร์” บอกว่าถูกข่มขืนจริงให้ไปแจ้งความ ที่ผ่านมา บ้านตน เปิดสังสรรค์มานานแล้ว ถูกเพื่อนบ้านโจมตีร้องเรียนก็มี แต่ก็ได้มีการ ปรับเปลี่ยนแก้ไข ประเด็นยาเสพติด ไม่มีแน่นอน คนในบ้านทุกคนบริสุทธิ์ใจ ให้ ค้นบ้านหมดทุกที่ตรวจร่างกายแล้วไม่พบสารเสพติด “ลัลลาเบล” เพิ่งมาครั้งแรกเราไม่ทราบว่าเขาดังหรือไม่ วันเกิดเหตุ “ลัลลาเบล” ก็ปกติไม่มีใครมอมเหล้า แต่น้องจะกินแบบช็อตเพียวๆ   

ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย ถึงเหตุผลที่โพสต์เรื่องราวของ “ลันลาเบล” โดยระบุว่า การเสียชีวิตของลัลลาเบล ถือเป็นอีกเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจเพศพาณิชย์ ที่ผู้หญิงมักถูกหาประโยชน์ พร้อมวิเคราะห์กรณี “ลันลาเบล” ที่ได้รับค่าจ้าง 3,000 บาท เรทเงินแค่นี้ลักษณะงานจะเป็นแค่ชงเหล้าในงานปาร์ตี้  แต่เมื่อมีคนอยากได้มากกว่านั้น เช่น ขอมีเพศสัมพันธ์ แต่เจ้าตัวไม่ยอม ก็อาจจะมีการผสมยา ปลุกเซ็กส์ ในเหล้า ซึ่งยาประเภทนี้เหมือนยาขยายหลอดเลือด พอไปขยายหลอดเลือด แล้วดื่มเหล้าผสมเข้าไป ร่างกายบางคนก็อาจรับไม่ไหว ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากค่าจ้างที่ “ลัลลาเบล” ได้รับใน 3,000 บาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะรับงานเอ็นวีไอพี เพราะค่าจ้างของงานแบบนี้อยู่ที่หลักหมื่นบาท และที่ผ่านมาพบเหยื่อที่ถูกกระทำแบบลัลลาเบลมาแล้ว แต่เพียงไม่เป็นข่าว จึงอยากเสนอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยจัดการ เพราะถือว่า เข้าข่ายขบวนการค้ามนุษย์  มีหลายคนมาเกี่ยวข้อง เช่น เอเจนซี่ ผู้ที่ชักชวนเข้าวงการ และผู้ที่ใช้ปาร์ตี้เป็นสถานที่ล่อลวงผู้หญิง

  

นายชูวิทย์ ยังให้ข้อมูลด้วยว่า แม้ในวงจรธุรกิจเพศพาณิชย์ เช่น การรับงานสายเอ็นเตอร์เทน จะมีความเสี่ยงอันตราย   แต่ที่หลายคนอยากเข้าวงการมาทำในแบบนี้ เพราะได้เงินเยอะ ทำงานไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงิน  ขณะเดียวกันการเข้าสู่วงการทำได้ไม่ยาก ปัจจุบันมีเอเจนซี่ โมเดลิ่งที่รับหาพริตตี้สายเอ็นเตอร์เทนเยอะขึ้น โดยจะส่งต่อข้อมูลงานกันทางกรุ๊ปไลน์ระบุ  สเปค เงินค่าตอบแทน ลักษณะงานตั้งแต่ชงเหล้า อัพยา หรือ มีเพศสมพันธ์ ทำให้ธุรกิจในลักษณะนี้ขยายใหญ่ขึ้น และสร้างมูลค่ามีเม็ดเงินหมุนเวียนมากกว่า  ยาเสพติต

   

เจ้าของโมเดลิ่ง ซึ่งเป็นผู้จัดหาทั้งพริตตี้ และเด็กเอ็นเตอร์เทน ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวไทยว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการ    มีทุกรูปแบบตั้งแต่มาคนเดียว หาเพื่อนเที่ยว หรือจะเป็นแบบกลุ่ม ทั้งหน่วยงานเอกชน ราชการ ที่ให้ไปชงเหล้า และสร้างสีสันในงานเลี้ยง โดยผู้ว่าจ้างจะระบุ ถึงสเปคหญิงสาว จากนั้น โมเดลิ่ง ก็จะส่งรูปถ่ายให้เลือก ถ้าเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทน      จะเน้นความเป็นธรรมชาติ ส่วนพริตตี้ สายเอ็นเตอร์เทน ต้องผิวขาว ผมยาว หน้าอกใหญ่ ศัลยกรรมไม่เยอะ ค่าจ้างก็จะเป็นไปตามเรทที่ตกลงกันไว้ เช่น เพื่อนเที่ยว ชงเหล้า สร้างสีสัน จะอยู่ที่เรท หลักพันบาท แต่หากเป็นเด็กเอ็น-วีไอพี  พร้อมมีเพศสัมพันธ์ จะอยู่ที่หลักหมื่นบาท ซึ่งงานในลักษณะแบบนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกมอมยาง่าย  ต้องมีวิธีป้องกันตัว เช่น   แก้วเหล้าของตัวเอง ต้องถือแก้วไว้ตลอดเวลา ไม่รับแก้วเหล้าจากคนอื่นมาดื่ม เพราะไม่รู้เลยว่า ในแก้วที่รับมาจากคนอื่นผสมอะไรอยู่บ้าง รวมถึงต้องรู้จักวางตัว หากเป็นงานชงเหล้า ก็ชงเหล้าอย่างเดียว ไม่ถึงเนื้อถึงตัว ป้องกันการถูกลวนลาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]