Big Story : ส่งนาฬิกาของ “ลันลาเบล” ตรวจหาเวลาสิ้นใจ

กทม. 22 ก.ย.- คืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ พริตตี้สาวสวย “ลัลลาเบล” วันนี้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ได้ส่งนาฬิกาของ “ลันลาเบล”  ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจหาเวลาสิ้นใจแล้ว พร้อมส่งภาพชายใส่นาฬิกาทอง ลูบหัว “ลันลาเบล” ให้ตำรวจ ปอท. เช็กว่าเป็นใคร  ลั่นคดีนี้มีคนผิดแน่นอน  คาดจะขอศาลออกหมายจับในสัปดาห์หน้า  ขณะที่เจ้าของบ้านจัดปาร์ตี้  แจงนาฬิกาข้อมือสีทองที่ลูบหน้า “ลันลาเบล” เป็นของ “น้ำอุ่น”  


ความคืบหน้าการเสียชีวิตของนางสาวธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล พริตตี้สาว วันนี้ตำรวจ ส.น.บุคคโล ยังเดินหน้า ประชุมเร่งคลี่คลายคดี โดย พลตำรวจตรีสัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ระบุว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบได้ปากคำพยาน ที่เกิดเหตุครบทุกคนแล้ว ส่วนพยานบุคคลอื่นๆ คาดว่าภายในวันนี้จะเสร็จสิ้น ยอมรับว่าหากมีประเด็นใหม่เพิ่มเติมก็จะต้องสอบต่อไป รวมถึงการสอบนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือ น้ำอุ่น ด้วย        


ส่วนเรื่องนาฬิกาสมาร์ทวอชที่ “ลันลาเบล” ใส่ติดตัวจะเป็นอุปกรณ์ที่บ่งบอกถึงการเต้นของหัวใจ  หรือ เวลาที่หยุดหายใจ  สิ้นใจตอนไหน  หรือไม่นั้น  ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ ยืนยันรับรองอุปกรณ์ดังกล่าว ว่ามีความแม่นยำ ชัดเจน 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งนาฬิกาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอยู่ รวมทั้งเร่งติดตามเจ้าของนาฬิกาข้อมือสีทองที่ปรากฏในคลิปว่าเป็นบุคคลอีกหนึ่งคน ที่อาจไม่ใช่นายน้ำอุ่น ซึ่งตำรวจได้ส่งคลิปดังกล่าว ไปให้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ตรวจสอบรายละเอียดอยู่ ส่วนชายที่ปรากฏในลิฟท์ ขณะน้ำอุ่น ลาก “ลัลลาเบล”  เข้าลิฟท์ มีการเรียกสอบแล้ว ซึ่งให้การว่า น้ำอุ่น บอกว่า “ลันลาเบล” เป็นแฟน 

ขณะที่ผลการตรวจร่างกายของ “ลัลลาเบล” ตำรวจ สน.บุคคโล ยืนยันว่า ขณะนี้ผลยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ   จึงยังไม่สามารถ ยืนยันความความชัดเจนของปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ตาย ว่ามีถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์หรือไม่ แต่มีคนผิดต้องรับผิดชอบอย่างแน่นอน และเมื่อทราบผลชันสูตร อย่างเป็นทางการ คาดจะขอศาลออกหมายจับได้เร็วที่สุด   ในสัปดาห์หน้า           


เวลา 15.45  น.  ที่สน.บุคคโล  ตำรวจมีการเรียก เพื่อน ชื่อโทน และฝน ซึ่งเป็นคนที่ไปพบศพ “ลันลาเบล” นอนเสียชีวิตที่โซฟา ในคอนโดของนายน้ำอุ่น ย่านตลาดพลู มาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หลังพบความเชื่อมโยงในประเด็นใหม่ เช่นกรณีของนาฬิกาสมาร์ทวอช ที่ตั้งข้อสังเกตว่า อาจช่วยในการพิสูจน์ช่วงเวลาของการเสียชีวิตได้ 

และยังมีรายงานข่าวว่า ขณะนี้ ประเด็นที่ตำรวจมุ่งสอบสวน คือ การคลี่คลายปมการเสียชีวิตเป็นสำคัญ โดยจะแยกประเด็นการจัดงานปาร์ตี้ที่บ้านย่านบางบัวทองออกไปก่อน หากสุดท้ายแนวทางการสืบสวนพบว่า มีความเชื่อมโยงกัน จึงจะประสานตำรวจในพื้นที่ นำพยานหลักฐานมาประกอบการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง  ส่วนการสอบปากคำพยานในบ้านที่จัดงานปาร์ตี้ซึ่งมีทั้งหมด 8 คน ไม่รวม “ลัลลาเบล” และนายน้ำอุ่น พบว่าทั้งหมดให้การสอดคล้องไปในทำนองเดียวกัน แต่มีลักษณะคล้ายกับได้รับคำแนะนำจากผู้มีความรู้ทางด้านกฎหมายชี้แนะ ขัดกับพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ จึงมองว่ายังไม่เป็นประโยชน์เท่าที่ควร 

 

นอกจากนี้ในที่ประชุม ยังได้รวบรวมคำพิพากษาฎีกาคดีสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในไทยหลายคดี เพื่อนำไปขอคำปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้มีความรู้ทางข้อกฎหมาย สำหรับนำไปพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา และใช้ประกอบในการไปยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับ โดยเฉพาะในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่มีอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิต

ที่บ้านนายชัยพล หรือคิว พรรณา อายุ 29 ปี เจ้าของบ้าน และนายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร อายุ 33 ปี พี่ชาย    ได้โชว์นาฬิกาข้อมือ ให้สื่อมวลชนดู เพื่อยืนยันว่า ไม่ใช่นาฬิกาข้อมือสีทอง ที่ปรากฏในคลิป ใช้มือลูบหน้า “ลัลลาเบล” ไม่ใช้ของพวกตน แต่อ้างว่า เป็นของน้ำอุ่น ที่ตอนแรก น้ำอุ่น ใส่นาฬิกาตัวเรือนโลหะสายสีทอง แต่ตอนหลัง สายนาฬิกาเกิดหลุด ทำให้น้ำอุ่นหยิบนาฬิกาในกระเป๋าอีกเรือนขึ้นมาใส่แทน โดยเป็นตัวเรือนสีดำ  ซึ่งขอยืนยันอีกครั้งว่า เจ้าของมือ และนาฬิกาสีทองลูบไล้ใบหน้าของ ลันลาเบลก็คือ น้ำอุ่น

ส่วนกรณีที่มีพริตตี้สาว “น้องเดียร์” ที่ให้การกับ ตำรวจว่าได้มาร่วมงานในวันเดียวกันหลังจาก “ลันลาเบล” กลับไปแล้ว   และตื่นมาพบว่าถูกข่มขืนนั้น นายนที หรือตี๋ ยืนยันไม่ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะทุกคนที่งานดื่มเหล้า มีสภาพที่ไม่สามารถไปทำอะไรใครได้ หาก “เดียร์” บอกว่าถูกข่มขืนจริงให้ไปแจ้งความ ที่ผ่านมา บ้านตน เปิดสังสรรค์มานานแล้ว ถูกเพื่อนบ้านโจมตีร้องเรียนก็มี แต่ก็ได้มีการ ปรับเปลี่ยนแก้ไข ประเด็นยาเสพติด ไม่มีแน่นอน คนในบ้านทุกคนบริสุทธิ์ใจ ให้ ค้นบ้านหมดทุกที่ตรวจร่างกายแล้วไม่พบสารเสพติด “ลัลลาเบล” เพิ่งมาครั้งแรกเราไม่ทราบว่าเขาดังหรือไม่ วันเกิดเหตุ “ลัลลาเบล” ก็ปกติไม่มีใครมอมเหล้า แต่น้องจะกินแบบช็อตเพียวๆ   

ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย ถึงเหตุผลที่โพสต์เรื่องราวของ “ลันลาเบล” โดยระบุว่า การเสียชีวิตของลัลลาเบล ถือเป็นอีกเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจเพศพาณิชย์ ที่ผู้หญิงมักถูกหาประโยชน์ พร้อมวิเคราะห์กรณี “ลันลาเบล” ที่ได้รับค่าจ้าง 3,000 บาท เรทเงินแค่นี้ลักษณะงานจะเป็นแค่ชงเหล้าในงานปาร์ตี้  แต่เมื่อมีคนอยากได้มากกว่านั้น เช่น ขอมีเพศสัมพันธ์ แต่เจ้าตัวไม่ยอม ก็อาจจะมีการผสมยา ปลุกเซ็กส์ ในเหล้า ซึ่งยาประเภทนี้เหมือนยาขยายหลอดเลือด พอไปขยายหลอดเลือด แล้วดื่มเหล้าผสมเข้าไป ร่างกายบางคนก็อาจรับไม่ไหว ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากค่าจ้างที่ “ลัลลาเบล” ได้รับใน 3,000 บาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะรับงานเอ็นวีไอพี เพราะค่าจ้างของงานแบบนี้อยู่ที่หลักหมื่นบาท และที่ผ่านมาพบเหยื่อที่ถูกกระทำแบบลัลลาเบลมาแล้ว แต่เพียงไม่เป็นข่าว จึงอยากเสนอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยจัดการ เพราะถือว่า เข้าข่ายขบวนการค้ามนุษย์  มีหลายคนมาเกี่ยวข้อง เช่น เอเจนซี่ ผู้ที่ชักชวนเข้าวงการ และผู้ที่ใช้ปาร์ตี้เป็นสถานที่ล่อลวงผู้หญิง

  

นายชูวิทย์ ยังให้ข้อมูลด้วยว่า แม้ในวงจรธุรกิจเพศพาณิชย์ เช่น การรับงานสายเอ็นเตอร์เทน จะมีความเสี่ยงอันตราย   แต่ที่หลายคนอยากเข้าวงการมาทำในแบบนี้ เพราะได้เงินเยอะ ทำงานไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงิน  ขณะเดียวกันการเข้าสู่วงการทำได้ไม่ยาก ปัจจุบันมีเอเจนซี่ โมเดลิ่งที่รับหาพริตตี้สายเอ็นเตอร์เทนเยอะขึ้น โดยจะส่งต่อข้อมูลงานกันทางกรุ๊ปไลน์ระบุ  สเปค เงินค่าตอบแทน ลักษณะงานตั้งแต่ชงเหล้า อัพยา หรือ มีเพศสมพันธ์ ทำให้ธุรกิจในลักษณะนี้ขยายใหญ่ขึ้น และสร้างมูลค่ามีเม็ดเงินหมุนเวียนมากกว่า  ยาเสพติต

   

เจ้าของโมเดลิ่ง ซึ่งเป็นผู้จัดหาทั้งพริตตี้ และเด็กเอ็นเตอร์เทน ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวไทยว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการ    มีทุกรูปแบบตั้งแต่มาคนเดียว หาเพื่อนเที่ยว หรือจะเป็นแบบกลุ่ม ทั้งหน่วยงานเอกชน ราชการ ที่ให้ไปชงเหล้า และสร้างสีสันในงานเลี้ยง โดยผู้ว่าจ้างจะระบุ ถึงสเปคหญิงสาว จากนั้น โมเดลิ่ง ก็จะส่งรูปถ่ายให้เลือก ถ้าเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทน      จะเน้นความเป็นธรรมชาติ ส่วนพริตตี้ สายเอ็นเตอร์เทน ต้องผิวขาว ผมยาว หน้าอกใหญ่ ศัลยกรรมไม่เยอะ ค่าจ้างก็จะเป็นไปตามเรทที่ตกลงกันไว้ เช่น เพื่อนเที่ยว ชงเหล้า สร้างสีสัน จะอยู่ที่เรท หลักพันบาท แต่หากเป็นเด็กเอ็น-วีไอพี  พร้อมมีเพศสัมพันธ์ จะอยู่ที่หลักหมื่นบาท ซึ่งงานในลักษณะแบบนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกมอมยาง่าย  ต้องมีวิธีป้องกันตัว เช่น   แก้วเหล้าของตัวเอง ต้องถือแก้วไว้ตลอดเวลา ไม่รับแก้วเหล้าจากคนอื่นมาดื่ม เพราะไม่รู้เลยว่า ในแก้วที่รับมาจากคนอื่นผสมอะไรอยู่บ้าง รวมถึงต้องรู้จักวางตัว หากเป็นงานชงเหล้า ก็ชงเหล้าอย่างเดียว ไม่ถึงเนื้อถึงตัว ป้องกันการถูกลวนลาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย