กกต. 20 ก.ย.-“เรืองไกร” ร้อง กกต. สอบ “ร.อ.ธรรมนัส” ถือหุ้น 3 บริษัทธุรกิจสื่อ ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ส.ส.
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ส.ส.เขต 1 จ.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามเข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า ได้ตรวจสอบการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อ คณะกรรมการป้งกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ของ ร.อ.ธรรมนัส แล้ว พบว่าได้แสดงรายการว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นใน 3 บริษัท คือ บริษัทโกลเบิล ทราเวิล เอเจนซี่ จำกัด บริษัท สิทธิอาโป จำกัด และบริษัท ธรรมนัส พัทยา การ์ด (2009) จำกัด ในช่วงเดือนเมษายน 2562 หลังการสมัครรับเลือกตั้งและการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม และเมื่อตรวจสอบวัตถุประสงค์การจดทะเบียนบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพานิชย์ พบว่าทั้ง 3 บริษัท มีการระบุวัตถุประสงค์การประกอบกิจการบริษัทไว้เหมือนกันในข้อ 11 ว่า ประกอบกิจการบริการจัดเก็บ รวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์ และเผยแพร่สถิติ ข้อมูลในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การตลาด รวมทั้งวิเคราะห์ ประเมินผลในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งข้อความตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญได้รับวินิจฉัยในกรณีที่ ส.ส.ถูกร้องว่าเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.เนื่องจากถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อ
“กรณีของ ร.อ.ธรรมนัส แม้ว่าจะลาออกจากการเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นใน 3 บริษัท ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการเช่นเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณาวินิจฉัยกรณี ส.ส.ถูกร้องว่าถือหุ้นสื่อเข้าข่ายพ้นจากตำแหน่ง แต่ก็เป็นการลาออกหลังการรับสมัคร ส.ส.วันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2562 และหลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) กำหนดลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.ไว้ว่า ห้ามเป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในธุรกิจสื่อ ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัส จึงเข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้งและขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.” นายเรืองไกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย