ทำเนียบฯ 16 ก.ย.-นายกฯ มอบรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ขอช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดูแลสังคม ยืนยันให้ความสำคัญน้ำท่วมภาคอีสาน เตรียมพิจารณามาตรการเยียวยาเพิ่มเติม หากมาตรการเดิมไม่เพียงพอ เบื่อบางคนวิจารณ์รัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2562 (The Prime Minister’s Industry Award 2019) ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจัดขึ้นเป็นปีที่ 27 โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ และผู้ประกอบการธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม ร่วมงาน ภายในงานมีการจัดนิทรรศการแสดงศักยภาพและความสำเร็จในการบริหารจัดการองค์กรและธุรกิจของผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2562 จำนวน 68 รางวัล
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับสถานประกอบการที่ได้รับรางวัล ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดในการประกอบธุรกิจ เนื่องจากแสดงให้เห็นว่า เป็นสถานประกอบการที่มีคุณภาพ มีความสร้างสรรค์ ดูแลสิ่งแวดล้อมและดูแลแรงงาน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้สถานประกอบการอื่น ๆ ขณะที่รัฐบาลยืนยัน จะส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดกลางจนถึงขนาดเล็กให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาพัฒนาธุรกิจให้เป็นสากล เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ควบคู่กับการดูแลสังคม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ผู้ประกอบการ ที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างมากมาย และมุ่งเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีความจำเป็นต่อประเทศ มุ่งสู่การผลิตเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ในอนาคต ต้องการให้พัฒนาด้านต่าง ๆไปพร้อมกัน ถ้าอะไรที่เริ่มไปแล้ว ก็ต้องรอให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการช่วยกัน ที่จะมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ขออย่ามุ่งเน้นแต่ลงทุนต่ำ และกำไรมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บ้านเมืองกำลังมีปัญหาหลายด้าน ทุกคนคงทราบดี โดยเฉพาะทางสื่อโซเชียลฯ ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายมากพอสมควรในการบริหารราชการแผ่นดิน ในการที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง และการเดินหน้าประเทศ อย่างไรก็ตามตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ว่าจะสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญอีกประการ คือสถานการณ์อุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตนไม่เคยนิ่งนอนใจ และติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด เอาใจใส่และสั่งการต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมการรับมือ แต่เนื่องจากผลกระทบจากพายุ ทำให้มีปริมาณฝนตกมากเกินที่จะรับได้ เพราะในระบบการระบายน้ำจะรองรับได้อยู่ที่ ไม่เกิน 200-300 มิลลิเมตร แต่ภายในเวลา 4-5 วัน มีปริมาณฝนตกถึง 500 มิลลิเมตร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำ คือการให้ประชาชนดำรงชีวิตอยู่ในสถานการณ์อุทกภัย ด้วยการจัดอาหาร ที่พัก ซึ่งถือเป็นช่วงที่ต้องอดทน ดูแลสุขภาพอนามัย และหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนของการเยียวยา ที่มีมาตรการอยู่แล้ว และมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น งบฯ ฉุกเฉิน และงบฯ ที่จะอนุมัติตามไปในภายหลังเพื่อการเยียวยา ที่ครอบคลุมทั้งความสูญเสียและความเสียหายของที่อยู่อาศัย รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งหากมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบยาวนาน รัฐบาลต้องพิจารณาว่าการเยียวยาตามหลักเกณฑ์ที่มีอยู่ เพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่เพียงพอต้องหารือใน ครม. อีกครั้ง
“ขออย่าทำให้ทุกอย่างเกิดความสับสน และทำให้เกิดความไม่เข้าใจรัฐบาลมากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม การเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้นั้น เพราะต้องไปติดตามความคืบหน้าของโครงการแก้ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ที่รัฐบาลอนุมัติงบฯ ลงไปแล้ว สืบเนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนัก จะขยับลงไปในภาคใต้หลังจากนี้ ซึ่งการลงพื้นที่ได้กำชับทุกหน่วยงานบริหารจัดการ ไม่ให้อุทกภัยสร้างผลกระทบกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของนายกฯ ขณะที่รัฐมนตรีและส.ส. ก็ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอีกทางหนึ่ง รัฐบาลจะต้องดูแลประชาชนทุกคนทุกครอบครัว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ตนจำเป็นต้องพูดคุยในวันนี้ เพราะต้องการสร้างการรับรู้ใหม่ ๆ เพราะหากเป็นเหมือนเดิม ก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่ได้โมโหใคร และพยายามทำความเข้าใจถึงคนที่ออกมาวิจารณ์เรื่องเหล่านี้ แต่ก็หาคำตอบไม่ได้ เพราะหากเป็นตนคงไม่ทำเช่นนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำข่าวของสื่อมวลชนที่บางครั้งจะถามประชาชนว่าลำบากหรือไม่ หรือถามว่าปริมาณน้ำจะลดลงเมื่อไหร่ และมีความเครียดหรือไม่ ตนมองว่ามีคำถามที่ดีกว่านี้หรือไม่ เช่น ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง รู้ว่าลำบาก ขอให้อดทน รัฐบาลกำลังดูแลอยู่ ซึ่งสื่อฯไม่เคยช่วยในลักษณะเช่นนี้เลย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเชิญชวนภาคเอกชนร่วมบริจาคช่วยผู้ประสบอุทกภัย ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะเปิดศูนย์รับบริจาคในวันนี้ เพื่อแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยไม่เกี่ยวกับงบฯของรัฐบาล หรือเป็นเพราะรัฐบาลไม่มีเงิน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เข้าใจถึงการที่บางคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ทั้งที่ก็เคยเป็นรัฐบาลมาก่อน และที่ออกมาเรียกร้องนั้น นายกรัฐมนตรีคนก่อนก็ไม่ได้รับฟังมากนัก ซึ่งตนก็อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน และเป็นผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ก็เห็นชอบตามที่ตนเสนอ แต่วันนี้บุคคลดังกล่าวก็ยังออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย.-สำนักข่าวไทย