ฮ่องกง 18 ส.ค.- นักวิชาการในฮ่องกงอธิบาย “คลาวด์เบิร์สต์ (cloudburst)” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักในช่วงเวลาสั้นๆ ราวกับฟ้ารั่ว และเพิ่งเกิดขึ้นกับหลายประเทศในเอเชียใต้ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม คร่าชีวิตคนรวมกันมากกว่า 430 คนแล้ว
ศาสตราจารย์กิตติคุณจอห์นนี เฉิน คณะพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยซิตียูนิเวอร์ซิตีออฟฮ่องกง อธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ว่าสาเหตุที่เรียกว่า “คลาวด์เบิร์สต์” หรือ “เมฆระเบิด” เพราะมีฝนจำนวนมากตกลงมาจากเมฆในเวลาสั้นๆ อาจจะราว 10-20 นาที แท้จริงแล้วคลาวด์เบิร์สต์ คือ พายุฝนฟ้าคะนองที่สะสมละอองน้ำไว้เป็นจำนวนมากแล้วกลายเป็นฝน ตกกระหน่ำในช่วงเวลาสั้นๆ คล้ายกับการระเบิด ยิ่งเป็นพื้นที่เทือกเขา คลาวด์เบิร์สต์ยิ่งมีความรุนแรง เนื่องจากอากาศร้อนจะยิ่งลอยตัวสูงขึ้นจากการปะทะกับเทือกเขา ส่งผลให้พายุฝนฟ้าคะนองเกิดได้เร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น เมื่อกลายเป็นฝน จึงตกกระหน่ำรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก
ศ.กิตติคุณเฉิน อธิบายว่า เหตุที่คลาวด์เบิร์สต์ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ปัจจัยแรกเกิดจากฝนตกลงมาเร็วมากจนแม่น้ำลำคลองรองรับไม่ทันจึงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ปัจจัยที่สองเกิดจากหลายพื้นที่มีการตัดไม้ทำลายป่า ดินที่ไม่มีต้นไม้ปกคลุมจึงถูกน้ำฝนชะจนถล่มลงมา


ศ.กิตติคุณเฉิน กล่าวว่า หากมองในระดับโลกแล้ว มีแนวโน้มว่าโลกจะมีฝนตกหนักมากยิ่งเพราะภาวะโลกร้อนจะทำให้ละอองน้ำเข้าไปอยู่ในชั้นบรรยากาศมากยิ่งขึ้น หากมองในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในเขตเมืองและเมืองระดับมหานคร ฝนจะยิ่งตกหนักมาก เนื่องจากอาคารต่างๆ ดูดซับความร้อนจากแสงอาทิตย์ กิจกรรมของมนุษย์มีส่วนทำให้โลกร้อน และการปล่อยมลพิษที่ทำให้เมฆยิ่งจับตัวกันมากยิ่งขึ้น
ศ.กิตติคุณเฉิน เตือนว่า ฝนตกหนักเป็นสิ่งที่พยากรณ์ได้ยากมาก สาเหตุหนึ่งเพราะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแบบสุ่มพื้นที่ ประกอบกับมนุษย์ยังไม่มีความรู้มากเพียงพอเกี่ยวกับกระบวนการทั้งหมดที่ทำให้ฝนตกหนัก สิ่งที่นักอุตุนิยมวิทยาสามารถทำได้ คือ การพยากรณ์ฝนตกหนักในระยะสั้น แต่ในระยะยาวที่เราทราบอยู่แล้วว่ามีโอกาสที่จะเกิดฝนตกหนักมากยิ่งขึ้น จึงควรต้องดำเนินยุทธศาสตร์ในการลดโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมและผลกระทบที่เกี่ยวข้อง.-814.-สำนักข่าวไทย