fbpx

เปิดตัวโครงการ “ปักหมุดจุดเผือก” แจ้งข้อมูลพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกคุกคามทางเพศ

โรงแรมเอทัส 14 ก.ย.-  เปิดตัวโครงการ “ปักหมุดจุดเผือก”ชวนประชาชนออกสำรวจค้นหาจุดเสี่ยงถูกคุกคามทางเพศในเมืองใหญ่ และร่วมกันสร้างเมืองปลอดภัยผ่าน Chat bot #ทีมเผือก ในแอพพลิเคชั่นไลน์ 


เครือข่ายเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิง ประกอบไปด้วย องค์การ แอ็คชั่นเอด ประเทศไทย (Action Aid) ,แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ, มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ,เครือข่ายสลัมสี่ภาค, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), Shma SoEn , Urban Creature และ Big Trees ร่วมกับเครือข่ายสถาปนิก นักผังเมือง เครือข่ายคนเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) เปิดตัวโครงการ “ปักหมุดจุดเผือก” เพื่อชวนประชาชนร่วมกันออกสำรวจค้นหาจุดเสี่ยงต่อการถูกคุกคามทางเพศในเมืองใหญ่ และร่วมกันสร้างเมืองปลอดภัยผ่าน Chat bot #ทีมเผือก ในแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการปักหมุดจุดเผือกค้นหาจุดเสี่ยงในพื้นที่จริงบนทางจักรยานลอยฟ้าสวนลุม-สวนเบญจกิตติ  (สะพานเขียว) ร่วมกับชาวบ้านจากชุมชนซอยพระเจน ผู้อาศัยและใช้พื้นที่บริเวณทางจักรยาน ซึ่งพบปัญหาทั้งไฟฟ้าส่องสว่างไม่เพียงพอ กลุ่มคนต่างด้าวจับกลุ่มดื่มแอลกอฮอล์บนสะพาน และถูกคุกคามทางสายตา ซึ่งจะมีการรวบรวมข้อมูลเสนอต่อผู้ว่ากรุงเทพมหานคร อธิการบดีมหาวิทยาลัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาการคุกคามทางเพศอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป


 

ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ  กล่าวว่าการจัดกิจกรรม ‘First Pin ปักหมุด จุดเผือก’ เพื่อรณรงค์ขจัดปัญหาการคุกคามทางเพศในพื้นที่สาธารณะซึ่งภาคีเครือข่ายเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิงได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเกือบ 2 ปีแล้วภายใต้ชื่อโครงการ “ทีมเผือก”  โดยมีประชาชนสนใจเข้าร่วมเป็น“ทีมเผือก” ผ่านกลุ่มเฟชบุ๊ก กว่า 800 คน และสามารถช่วยกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในการกระตุ้นให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาการคุกคามทางเพศบนระบบขนส่งสาธารณะได้  ที่ผ่านมา ปัญหาการคุกคามทางเพศไม่ได้เกิดขึ้นบนระบบขนส่งสาธารณะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ระหว่างการเดินทางผ่านท้องถนนและตรอกซอกซอยในชีวิตประจำวันของผู้หญิงโดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงาน ก็เสี่ยงต่อการถูกคุกคามทางเพศที่เรียกว่า street harassment มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะสร้างความไม่ปลอดภัยในการดำเนินชีวิต ยังปิดโอกาสการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพของผู้หญิงในหลากหลายมิติด้วย  หากต้องใช้ชีวิตแต่ละวันอยู่กับความเสี่ยง ความรู้สึกหวาดระแวง ไม่ปลอดภัย หรือหากเคยถูกคุกคามทางเพศ ก็มีแนวโน้มที่จะจำกัดตัวเอง เช่น หลีกเลี่ยงสถานที่ที่เรารู้สึกไม่ปลอดภัย พยายามไม่กลับบ้านค่ำ เลี่ยงไม่ออกไปทำธุระตอนกลางคืน เลี่ยงไม่เดินทางคนเดียว ทำให้เสียโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากพื้นที่สาธารณะอย่างเต็มที่  และบางทีคนที่จำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น คนที่ต้องออกจากบ้านไปทำมาหากินตั้งแต่เช้ามืด หรือเลิกงานดึก หรือบ้านอยู่ซอยลึก ก็ต้องทนอยู่แบบหวาดระแวง เครียด กังวล กลายเป็นว่าเขาเสียโอกาสที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีไปด้วย


สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงส่วนใหญ่พบว่ามีลักษณะ 1.เป็นซอยตัน ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือก 2.เป็นทางผ่านไปในจุดที่อับหรือเปลี่ยว 3.มีสิ่งบดบังสายตาซึ่งมีโอกาสเป็นจุดซุ่มซ่อนตัวของคนร้าย 4. เป็นพื้นที่ปิดคนที่สัญจรไปมาหรือชุมชนรอบข้างมองไม่เห็น 5. ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง หรือ แสงสว่างไม่เพียงพอ 6. ไม่มีป้ายบอกชื่อสถานที่หรือป้ายบอกทางทำให้คนนอกพื้นที่ไม่สามารถระบุจุดหรือตำแหน่งที่ตัวเองอยู่ได้ชัดเจน 7. อยู่ห่างไกลจากจุดบริการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัย ไม่มีคนเดินทางสัญจรไปมา 8.ไม่มียามรักษาความปลอดภัยในจุดที่สมควร และ ไม่มีแหล่งขอความช่วยเหลือที่เข้าถึงได้ง่าย

ด้าน น.ส.รุ่งทิพย์ อิ่มรุ่งเรือง ผู้จัดการโครงการและนโยบาย องค์การแอ็คชั่นเอด ประเทศไทย กล่าวว่า องค์การแอ็คชั่นเอดได้จัดทำงานวิจัยพบว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงทั่วโลกเคยเจอเหตุการณ์ความรุนแรงจากการคุกคามทางเพศบนท้องถนนของเมืองใหญ่ โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาแค่การเปลี่ยนระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทางก็มีความเสี่ยงต่อการถูกคุกคามทางเพศมากขึ้นแล้ว ประเทศไทยมีผู้หญิง 86 เปอร์เซ็นต์ที่เคยถูกคุกคามทางเพศบนท้องถนนเช่นกัน ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยมีสถิติที่น่าสนใจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่สอดคล้องกับงานวิจัยชิ้นนี้ ที่ระบุว่ากรุงเทพมหานครมีจุดเสี่ยงมากถึง 217 จุดที่ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ในประเทศไทย เวลาแจ้งเหตุแล้วจะถูกถามหาหลักฐานก่อน แต่ในต่างประเทศ พอแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาช่วยเหลือในทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานอะไรในเวลานั้น 

 

นายวสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยอาวุโสระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะกลุ่มวิจัยการสื่อสารและเครือข่ายศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)  กล่าวว่า โครงการ First Pin ปักหมุด จุดเผือกนี้ จะเป็นประโยชน์กับสังคม นำไปสู่การแก้ไขปัญหาแบบ 4.0 ได้ โดย NECTEC มีเทคโนโลยีที่จะสามารถช่วยในส่วนของแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่ประชาชนสามารถแจ้งเหตุผ่านแชทบอทผ่านไลน์ได้ เวลาเจอปัญหา พบพื้นที่เสี่ยง ก็สามารถแจ้งเข้ามาได้เลย ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์จะประมวล และเก็บรวมรวมสภาพปัญหาต่างๆเข้ามาในระบบ โดยทุกคนสามารถใช้ได้ โดยแอดเฟรนด์ผ่านคิวอาร์โค้ด หรือ @Traffy Fondue  หากเห็นความไม่ปลอดภัยของพื้นที่ไหนที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์คุกคามทางเพศ ขอให้ถ่ายรูปติดแอชแท็กทีมเผือกแล้วแจ้งเหตุปักหมุดมาในโปรแกรมของเราได้ทันที

 

สำหรับวิธีการแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์chatbotทีมเผือก  แอดเฟรนด์ผ่านคิวอาร์โค้ด หรือ @Traffy Fondue ซึ่งเมื่อแอดเฟรนด์แล้ว และเข้าไปในหน้าแชทข้อความระบุจะขึ้นขั้นตอนการแจ้งปัญหา ดังนี้  1. ติดแฮชแท็กทีมเผือกพร้อมทั้งพิมพ์ข้อความปัญหา 2. ส่งภาพปัญหา เมื่อระบบขอรูปภาพ 3. ส่งตำแหน่ง (Share Location) เมื่อระบบขอพิกัด  4. ระบบจะส่งข้อความแจ้งความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ มีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และตกหนักบางแห่ง

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร