ทำเนียบ 11 ก.ย.-วิษณุ ยัน รัฐบาลออก พ.ร.ก.ชะลอการบังคับใช้พ.ร.บ.สถาบันครอบครัว เพราะยังมีความไม่พร้อม ซึ่งต้องทำโดยการออกเป็นพระราชกำหนดเพื่อยืดการบังคับใช้กฎหมายเก่าออกไปก่อน จนกว่าจะออกพระราชกฤษฎีกาออกมา
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีการออกพ.ร.ก.ยับยั้งพ.ร.บ.สถาบันครอบครัว ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาว่าสามารถออกพ.ร.ก.ได้หรือไม่ว่า ตนอยู่ในรัฐบาล และรัฐบาลเป็นผู้ออกพ.ร.ก. รัฐบาลจึงเชื่อว่าสามารถทำได้ เมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน หรือเป็นเรื่องรักษาความสงบปลอดภัยสาธารณะ หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องแล้วแจ้งมา รัฐบาลก็ต้องชี้แจงไป รัฐบาลทราบว่าการออก พ.ร.ก.มีหลักเกณฑ์ และหากเข้าหลักเกณฑ์ก็ต้องออกพ.ร.ก.ออกมา
ส่วนที่หลายฝ่ายมองต่างออกไปนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนมองว่าอาจเป็นเพราะไม่เข้าใจในหลักเกณฑ์ แต่ยอมรับว่าหลักเกณฑ์นั้นยากที่จะอธิบายโดยเฉพาะผ่านสื่อมวลชน หากจะอธิบายต้องเปิดกฎหมายประกอบ ซึ่งแต่เดิมมีกฎหมายเก่าปี 2550 ที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าการกระทำความรุนแรงในครอบครัวสามารถยอมความได้ ซึ่งอัยการจะเป็นผู้ส่งฟ้อง ส่วนกฎหมายใหม่ที่มาเมื่อปี 2562 ที่บัญญัติไว้ว่าการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ไม่สามารถยอมความได้ และจะส่งให้กรมครอบครัวเป็นผู้ฟ้องร้อง และกฎหมายใหม่ประกาศผ่านราชกิจจานุเบกษาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จึงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 กันยายนนี้
นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อใกล้ถึงวันบังคับใช้นั้นมีความไม่พร้อมและความไม่เข้าใจ รวมไปถึงมีการคัดค้านกฎหมายใหม่เกิดขึ้น จึงเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนการบังคับใช้ออกไป ซึ่งไม่สามารถออกเป็นพ.ร.บ.ได้ เนื่องจากการบังคับใช้ใกล้จะถึง จึงจำเป็นต้องการออกพ.ร.ก. เพื่อยืดการบังคับใช้กฎหมายเก่าออกไปก่อน จนกว่าจะออกพระราชกฤษฎีกาออกมา
“อาจมีการตั้งเป็นกรมใหม่จากกรมครอบครัว เพราะกรมครอบครัวควรมีหน้าที่ส่งเสริมความรักในครอบครัว แทนที่การฟ้องร้องในครอบครัว ซึ่งที่สุดจะนำไปสู่การหย่าร้าง”นายวิษณุ กล่าว
ต่อข้อถามว่า ฝ่ายค้านคัดค้านการออกพ.ร.ก.ดังกล่าว นายวิษณุ กล่าวว่า การออกพ.ร.ก.ถือเป็นทางออก ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัย หากศาลวินิจฉัยว่ามีเหตุผล เรื่องดังกล่าวก็จบ และจะเข้าสู่การโหวตในที่ประชุมสภาต่อไป ยืนยันว่ากฎหมายปี 2550 ยังคงเดินหน้าบังคับใช้ต่อไป ไม่มีอะไรเสียเวลา และหากมีการใช้ความรุนแรงในครอบครัวยังคงมีความผิดเช่นเดิม และยังคงสามารถยอมความได้ ความพร้อมไม่พร้อมในการบังคับใช้พ.ร.บ.ฉบับปี 2562 ไม่ใช่ความผิดพลาด แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่สามารถออกพ.ร.ก.ได้ ก็ถือว่ารัฐบาลทำไม่ถูก เช่นเดียวกันกับสมัย พล.อ.เปรม ติณลสูลานนท์ พ.ร.ก.ไม่ผ่าน ก็นำไปสู่การยุบสภาและลาออก ซึ่งยอมรับว่าเรื่องเล็กอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
ส่วนจะทันการปิดสมัยประชุมสภาหรือไม่นั้น นายวิษณุ เปิดเผยว่า ไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากกฎหมายปี 2550 ยังคงถูกบังคับใช้ต่อไป และจะไม่มีใครเดือดร้อนอะไรแน่นอน .- สำนักข่าวไทย