ทำเนียบรัฐบาล 12 มี.ค.-รมว.พม. ระบุหลังเวิร์คช็อปใหญ่เตรียมสรุปปกขาวเสนอครม.เพื่อแปลงเป็นการปฏิบัติช่วยปชช.ต่อไป เผยปัญหาส่วนใหญ่ปากท้อง ทำเครียดใช้ความรุนแรงในครอบครัว
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยความคืบหน้าการทำงานของกระทรวง พม.ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 มี.ค.ทางกระทรวงพม.ทำเวิร์คช็อปเกี่ยวกับปัญหาโครงสร้างประชากร ซึ่งนต้องขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ให้ความสำคัญกับปัญหานี้เป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งรัฐมนตรีทุกกระทรวง เพราะกระทรวงพม.ได้รับความร่วมมือ โดยมีตัวแทนจากทุกกระทรวงมาร่วมทำเวิร์คช็อปดังกล่าว รวมทั้งได้รับเกียรติจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ ที่เกี่ยวข้องกับที่พักอาศัย อาสาสมัครภายใต้โครงการกรอบ UN ธนาคารโลก และองค์การอนามัย เป็นต้น
“ที่ประชุมได้พูดคุยเสนอแนะแนวทางเกี่ยวกับปัญหาโครงสร้างประชากรที่เป็นระเบิดเวลาที่กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจากการประชุมทางองค์กรระหว่างประเทศได้เสนอแนวทางและแนวคิดรวมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันหลายเรื่อง ทั้งเสนอให้ความสําคัญกับอาสาสมัครในการทำงานทางระดับประเทศและชุมชน หรือแม้แต่ออนไลน์ ซึ่งหลายประเทศดำเนินการไปแล้ว รวมทั้งการพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ทำให้มีมาตรฐาน สามารถรองรับเด็กให้มีอายุต่ำลงมาเพื่อแบ่งเบาภาระให้คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุ นอกจากจะเป็นวิกฤติของประเทศแล้ว ยังเป็นหน้าที่ที่ทุกภาคส่วนจะต้องเสริมศักยภาพผู้สูงอายุให้มีพลัง และให้มีกิจกรรมทำอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งการเชื่อมโยงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และให้ประชากรทางผู้สูงอายุและเด็กเล็กนั้นปรับตัว ทั้งนี้ จากการทำเวิร์คช็อป ภายในปลายเดือนนี้ หรือต้นเดือนเมษายน ทางกระทรวงพม. จะทำรายงานสมุดปกขาวเสนอให้ความเห็นชอบโดยคณะรัฐมนตรี เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วเราจะนำไปเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการสหประชาชาติว่าด้วยประชากรโลก เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยนั้นมีแนวทางที่จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งเมื่อรายงานปกขาวแล้ว ครม.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป กระทรวงพม.จะแปลออกมาเป็นแผนปฏิบัติการต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ กล่าวถึงการรายงานผลดำเนินการของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชนหรือ (ศรส.) 1300 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ให้บริการประชาชน 13,817 กรณี ปัญหาที่พบมากที่สุด คือ เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ รองลงมาเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาพฤติกรรมในครอบครัว คนร่ร่อนและขอทาน หลายกรณีได้ให้การช่วยเหลือ คุ้มครอง สวัสดิภาพของประชาชน ไปทั้งหมด 2,495 คน ให้คำปรึกษาผ่านฮอตไลน์ 1300 ไป 4,514 กรณี โดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับสิทธิสวัสดิการและกฎหมาย รองลงมาเป็นการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับรายได้ ความเป็นอยู่ ความสัมพันธ์ในครอบครัว ส่วนเรื่องทั่วไป จะสอบถามเกี่ยวกับการขอรับเงินอุดหนุนต่าง ๆ ทั้งเด็กเล็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ รวมถึงการขอเข้ารับบริการในสถานสงเคราะห์ และการขอขึ้นทะเบียนคนพิการ
“สำหรับสถิติความรุนแรงในครอบครัว และนอกครอบครัวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีทั้งหมด 218 กรณี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม ที่มี 202 กรณี หรือ 7.92 เปอร์เซ็นต์ ผู้ประสบปัญหาส่วนใหญ่เป็นเด็กถึง 122 คน จากเดือนมกราคมมีเพียง 113 คนเท่านั้น เห็นได้ชัดว่ามีเด็กที่เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นเกือบ 8 เปอร์เซ็นต์ จากเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ โดยที่รองลงมาเกี่ยวกับผู้สูงอายุ กลุ่มคนเปราะบางที่กระทรวงพม.ให้ความคุ้มครอง และดำเนินการอย่างด่วน ภายใต้ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ชลบุรีและนนทบุรี เป็นปัญหาความรุนแรง สาเหตุจากความยากจน ไม่มีงานทำ ขาดรายได้ จึงทำให้เครียด การพนัน ติดสุรา ใช้ยาเสพติดรุนแรงมากขึ้น ทำให้แสดงออกด้วยพฤติกรรมรุนแรง เกิดปัญหาความรุนแรงในครอบครัว การใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย ขู่บังคับ” นายวราวุธ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงพม.ได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนมาโดยตลอด ได้ข้อสรุปด้วยความเป็นอยู่ที่มีรายได้ลดน้อยลง และค่าครองชีพสูงขึ้น ปัญหาปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งมาผลกระทบและความสัมพันธ์ในครอบครัว ระบบคนในครอบครัว.-317.-สำนักข่าวไทย