กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – จากกรณีที่มีเพจหนึ่งในเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความให้จองเด็กทารกจากแม่ที่ท้องไม่พร้อม โดยการให้โอนเงิน พฤติการณ์ลักษณะนี้ นักสังคมสงเคราะห์ ระบุว่า เข้าข่ายค้าเด็ก เพราะมีเงินเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนตัวเด็ก ขณะเดียวกัน เด็กที่ถูกนำไปอุปการะโดยไม่มีกฎหมายรับรอง ยังส่งผลเสียต่อตัวเด็ก เพราะไม่มีระบบติดตามย้อนหลัง
ภาพเด็กทารกเพศหญิงที่อยู่ในห่อผ้า ถูกนำมาโพสต์ผ่านเพจหนึ่งในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ผู้ที่โอนเงินมาจองคิวเด็กไว้ ตั้งแต่ 2 วันที่ผ่านมา จะได้รับเด็กคนนี้ไปเลี้ยงดูแล้ว หลังแม่ตัวจริงเพิ่งคลอดลูก
หรือจะเป็นเด็กทารกเพศชาย อายุ 4 เดือน ซึ่งอยู่ที่หัวหิน ก็ถูกระบุผ่านเพจเฟซบุ๊กนี้ว่า มีผู้นำไปอุปการะแล้วเช่นกัน ในเฟซบุ๊กยังมีการโพสต์เชิญชวนให้ผู้ที่สนใจโอนเงิน เพื่อจองตัวเด็กไว้ก่อน โดยเด็กเหล่านี้ถูกระบุว่า เกิดจากแม่ที่ท้องไม่พร้อม
ทีมข่าวพูดคุยกับหญิงคนหนึ่ง ซึ่งสนใจจะอุปการะเด็กผ่านเพจนี้ เธอบอกว่า เจ้าของเพจให้โอนเงินจองในราคา 500 บาท ผ่านธนาคาร ก่อนจะให้เลือกเพศของเด็กที่อยากรับเลี้ยง และจะติดต่อกลับ
หัวหน้ากลุ่มงานบริการบุตรบุญธรรม สหทัยมูลนิธิ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่หาครอบครัวให้เด็กที่ถูกทอดทิ้ง ให้ข้อมูลว่า การกระทำในลักษณะนี้ ถือว่าเข้าข่ายการค้าเด็กแล้ว เพราะมีการแลกเปลี่ยนระหว่างเงินและตัวเด็ก ขณะเดียวกัน ยังผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ที่ห้ามโฆษณาเพื่อรับเด็ก แล้วมอบให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ญาติ
เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเด็ก การขออนุญาตรับบุตรบุญธรรม จะต้องผ่านศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งมีหน่วยงานมูลนิธิ 4 แห่ง คือ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย มูลนิธิสงเคราะห์เด็กพัทยา บ้านมิตรมวลเด็ก และสหทัยมูลนิธิ ทำหน้าที่ตรวจสอบตั้งแต่คุณสมบัติของผู้ขอรับ โดยจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และมีอายุมากกว่าเด็กที่จะรับเป็นบุตรบุญธรรมไม่น้อยกว่า 15 ปี อีกทั้งต้องมีคุณสมบัติทางสังคม เช่น ครอบครัวอบอุ่น มีทุนทรัพย์ที่จะเลี้ยงดู และมีสภาพแวดล้อมที่ดี หากคุณสมบัติผ่านก็ยังต้องฝึกการเลี้ยงเด็กอีกหลายขั้นตอน จนคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ ถึงจะได้ทดลองเลี้ยง ซึ่งจะมีนักสังคมสงเคราะห์ติดตามการเลี้ยงดูไม่น้อยกว่า 6 เดือน จึงจะสามารถจดทะเบียนเป็นบุตรบุญธรรมได้ โดยระยะเวลาทั้งหมดนาน 1-2 ปี
นักสังคมสงเคราะห์ บอกว่า การซื้อขายเด็กในลักษณะนี้มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งเป็นผู้ที่อยากมีลูกแล้วขอรับบริจาค หรือบางคนก็ทำหน้าที่เป็นนายหน้าจัดหาเด็กให้ผู้ที่ต้องการมีบุตร แต่ในความเป็นจริงแล้ว การรับอุปการะเด็กโดยไม่มีกฎหมายรับรอง เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ และยังส่งผลเสียต่อเด็ก ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการใช้แรงงานเด็ก การค้าอวัยวะ หรือแม้แต่ส่งเสริมให้มีการอุ้มบุญ เนื่องจากไม่มีระบบติดตามเด็กย้อนหลัง. – สำนักข่าวไทย