โปรตุเกส 10 ก.ย. – เอกชนแข่งดุยื่นประมูล 2 โครงการพลังงานทดแทน กฟผ.งบรวม 4 พันล้านบาท คาดโซลาร์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธรจะได้ราคาต่ำ หลังระบบกักเก็บพลังงานราคาต่ำกว่าแผนเกินครึ่ง
นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เปิดเผยในระหว่างศึกษาดูงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่เขื่อน Alto Rabagão ต้นแบบโซลาร์เซลล์ลอยน้ำในเขื่อน (Hydro-Floating Solar Hybrid System) แห่งแรกของโลก ที่นำเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ กำลังการผลิต 220 กิโลวัตต์ มาใช้กับการผลิตไฟฟ้าของเขื่อน โดยใช้ทรัพยากรร่วมกับ ได้แก่ หม้อแปลง สายส่ง และสถานีไฟฟ้าแรงสูง เป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สอดรับกับแผนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาวของประเทศหรือ PDP2018 ที่ กฟผ.ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในพื้นที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำตามเขื่อนต่าง ๆ รวม 2,725 เมกะวัตต์ นำร่องโครงการแรกที่เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี กำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2563
นายเริงชัย กล่าวว่า โครงการเขื่ิอนสิรินธรเป็นโครงการพลังงานหมุนเวียนแบบไฮบริดใหญ่ที่สุดในโลกเป็นระบบ Hydro-Floating Solar Hybrid ระบบนี้ช่วยลดการระเหยของน้ำเสริมความมั่นคงเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการน้ำ เสริมความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในระบบช่วงกลางคืน เพื่อชลดการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของแผงโซล่าเซลล์ เนื่องจากมีอุณหภูมิต่ำที่ผิวน้ำ ทั้งนี้ มีผู้ร่วมประมูล 22 ราย จึงคาดว่าการเสนอราคาจะต่ำกว่าราคาที่ กฟผ.จัดสรรงบฯ ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับทราบผลประมูลเดือนตุลาคมนี้
ขณะที่การคัดเลือกเอกชนผู้ชนะโครงดารประมูลการพัฒนาแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System : BESS) ที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ กำลังผลิตไฟฟ้า 16 เมกะวัตต์ และสถานีไฟฟ้าแรงสูงชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี กำลังผลิตไฟฟ้า 21 เมกะวัตต์ จะประกาศรายชื่อผู้ชนะเร็ว ๆ นี้้้่ มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2563 ล่าช้ากว่าแผน 1 ปีครึ่ง เนื่่องจากมีผู้เข้าร่วมประมูล 3 ราย ใน 11 ราย มีการยื่นคัดค้านผลประมูลจึงต้องชี้แจง ตามขั้นตอน โดยผู้ชนะประมูล คือ กลุุ่มร่วมทุนจากอินเดียและญี่ปุ่น เสนอใช้แบตเตอรี่จากเกาหลีใต้ เสนอราคาต่ำกว่าราคาคาดการณ์ตั้งงบประมาณถึงประมาณร้อยละ 50 จากราคาตั้งงบฯ ไว้ที่่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งการติดตั้งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ระบบส่งไฟฟ้าสามารถรองรับการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย