ชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมจากยางพารา คว้ารางวัลผลงานที่น่าลงทุนที่สุด THAILAND TECH SHOW 2019

ผลงาน มอ. กับ อุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมจากยางพารา คว้ารางวัลผลงานที่น่าลงทุนที่สุด จากงาน THAILAND TECH SHOW 2019


กรุงเทพฯ : งานวิจัยนวัตกรรมฝีมือคนไทย ชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมจากยางพารา หรือ Thai Colostomy Bag ซึ่งนำยางพารามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ลดการนำเข้าสินค้าทางการแพทย์ และเพิ่มมูลค่ายางพาราอันเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ ผลงานโดย ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คว้ารางวัลผลงานที่น่าลงทุนที่สุดในกิจกรรม NSTDA Investors’ Day 2019 ในงาน THAILAND TECH SHOW 2019 จัดโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ระหว่างวันที่ 5 – 6 กันยายน 2562 ที่ห้องคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 เซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ฯ

ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ (ฝ่ายจัดการนวัตกรรม) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียม เป็นสินค้าที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ บางยี่ห้อมีผลข้างเคียงกับผู้ป่วย “Thai Colostomy Bag” นับเป็นนวัตกรรมฝีมือคนไทย ที่จะช่วยลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยนำ “ยางพารา” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของไทยมาเป็นวัตถุดิบ โดยจุดเด่นของเทคโนโลยีอยู่ที่การเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ใช้ยางพาราเป็นส่วนประกอบ เปรียบเทียบอาการข้างเคียง เช่น อาการแพ้ ผื่น คัน ฯลฯ กับยี่ห้ออื่นในท้องตลาด พบว่า มีน้อยมาก ผ่านการทดสอบทาง Biocompatibilities (Cytotoxicity, Skin Irritation, Skin sensitization) ซึ่งได้มีการทดลองใช้จริงในผู้ป่วยให้ผลการใช้งานเทียบเท่ากับยี่ห้อในท้องตลาด โดยต้นแบบผลิตภัณฑ์ได้มีการทดสอบทาง Biocompatibilities หรือความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกาย ก่อนการใช้งานจริงในมนุษย์ เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีความเหมาะสมกับสรีระของคนไทย และใช้งานง่าย


“ชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมจากยางพารา สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานกับกลุ่มผู้ป่วยที่มีการขับถ่ายทางหน้าท้อง (ทวารเทียม) รวมถึงใช้ในการเรียนการสอนของนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีทวารเทียม โรงพยาบาลต่าง ๆ และร้านขายยา และเหมาะสมกับกลุ่มนักลงทุนที่เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ โดยขณะนี้ผลงานดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย โดยผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โทร. 074 289 321, 090 970 7099 หรืออีเมล: sitanon.@psu.ac.th”

ทั้งนี้ กิจกรรม NSTDA Investors’ Day 2019 ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์งาน THAILAND TECH SHOW 2019 ซึ่งเป็นรูปแบบ Investment Pitching โดยให้เวลา 7 นาทีสำหรับนักวิจัยในการนำเสนอแต่ละผลงาน และให้ผู้เข้าร่วมงานช่วยกันโหวตผลงานที่น่าลงทุนที่สุด และผลงานที่นำเสนอดีที่สุด โดยในปีนี้มีผลงานเด่นจาก สวทช. 5 ผลงาน และหน่วยงานพันธมิตรอีก 6 ผลงาน ซึ่งนักลงทุนที่สนใจสามารถเข้าเจรจาธุรกิจแบบ One-on-One Matching ได้ โดย 5 ผลงานเด่นจาก สวทช. ได้แก่ 1) สารทำหมันสัตว์เพศผู้แบบไม่ผ่าตัด (V-HAPPY) โดย นาโนเทค สวทช. 2) จิ๊บจิ๊บ (JibJib CUI) โดย เนคเทค สวทช. 3) แพลตฟอร์มการบริหารจัดการเมืองด้วยเทคโนโลยีและข้อมูล (Traffy City Platform) โดย เนคเทค สวทช. 4) นอนวูฟเวนเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร (Magik Growth) โดย เอ็มเทค สวทช. 5) เบต้ากลูแคนโอลิโกแชคาร์ไลด์เพื่อใช้เสริมสุขภาพและความงาม (Betaprime) โดย ไบโอเทค สวทช. และอีก 6 ผลงานจากหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ 6) กล่องโฟมอเนกประสงค์ (Healthy Box) โดย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 7) เครื่องปิ้งเนื้อสัตว์กึ่งอัตโนมัติ (HAS Grill Machine) โดย มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย 8) ชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมจากยางพารา (Thai Colostomy Bags) โดย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 9) โซเดียมซิลิเกตเจลกันน้า (Hydrophobic (Sodium) Silicate Gel) โดย มหาวิทยาลัยสุรนารี 10) เครื่องทำลายเชี้อแบบพลาสเจอร์ไรซ์ผสานระบบอบลมร้อนสาหรับอุปกรณ์การแพทย์ โดย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ 11) อาษาเฟรมเวิร์ค (ARSA Framework) โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผลปรากฏว่า ผลงานที่น่าลงทุนที่สุด ได้แก่ Thai Colostomy Bag ชุดอุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมจากยางพารา โดย ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รับเงินรางวัล 10,000 บาทพร้อมโล่รางวัล ขณะที่ผลงานที่นำเสนอดีที่สุด ได้แก่ อาษาเฟรมเวิร์ค (ARSA Framework) โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย ผศ.ดร.อาษา ตั้งจิตสมคิด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมโล่รางวัล


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]