ตม.แถลงจับคดีสำคัญทั้งยาเสพติด ฉ้อโกง ค้าประเวณีข้ามชาติ

กรุงเทพฯ 6 ก.ย.- ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับคดีสำคัญหลายคดี ทั้ง ลักทรัพย์  ฉ้อโกง  ยาเสพติด และแม่เล้าที่หลอกลวงสาวไทยไปค้าประเวณีที่อิตาลี 


พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง  ผบช.สตม. แถลงผลจับกุมหลายคดี สำคัญ  ของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

คดีแรก จับกุม 3 ผู้ต้องหา แก๊งมองโกเลีย แฝงตัว เป็น ผู้โดยสาร เข้ามาล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยว และสถานีรถไฟฟ้า โดยจับกุมได้ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม พบของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง บัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส บัตรโดยสารเครื่องบิน และกระเป๋าสะพายจำนวน 13 รายการ คดีนี้เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ผู้เสียหายเป็นหญิงไทย ได้เข้าแจ้งความว่าขณะเดินขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศกเพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานีบีทีเอสสยาม ระหว่างเดินเข้าช่องทางเพื่อไปยังชานชลามีหญิงชาวต่างชาติผิวขาวรูปร่างท้วมลักษณะคล้ายชาวจีน เดินเข้ามาชนด้านหลังโดยมือของหญิงสาวมีผ้าปิดอยู่ที่มือทั้งสองข้าง และมีผู้ชายอีกหนึ่งคนลักษณะคล้ายชาวจีน เดินอยู่บริเวณด้านข้างของหญิงคนดังกล่าว ซึ่งเห็นว่าทั้ง2 คนมีท่าทีพิรุธจึงเอากระเป๋าสะพายด้านหลังมาเปิดดู พบว่าโทรศัพท์มือถือหายไปจึงแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด พบกลุ่มคนต้องสงสัย 3 คน  ยังเดินวนเวียน ที่ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม จึงเชิญตัวมาสอบปากคำและจากการค้นตัวพบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ โดยมีผู้ต้องหาหลบหนีไปได้1 คน  แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น 


คดีที่ 2 จับกุมนาย ซุง  อิน อายุ 61 ปีชาวเกาหลีใต้ ในข้อหาฉ้อโกง หลัง หลบหนีคดีจากประเทศเกาหลีใต้มาอยู่ที่ไทยเป็นเวลากว่า 10 ปี  โดยจับกุมได้ที่ห้องพักในซอยเสรี 9 เขตสวนหลวง คดีนี้ ตม.ได้รับการประสานงานจากสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ให้ช่วยจับกุมเนื่องจากในช่วงเดือน ตุลาคมปี 52-10 กุมภาพันธ์ ปี53 มีพฤติการณ์เปิดบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดแรลลี่ ทริป และขับรถเที่ยวผ่านเส้นทางในหลายประเทศเช่นจีน รัสเซีย มองโกเลีย หลังจากนั้นได้หลอกผู้เสียหายชาวเกาหลีใต้ร่วมลงทุนในบริษัทโดยอ้างบริษัทจะสร้างผลประโยชน์ให้กับผู้เสียหายจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อและได้ลงทุนซื้อหุ้นบริษัทรวมความเสียหายประมาณ 144,000,000 วอน หรือประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งทาง สตม. ได้ทำการเพิกถอนวีซ่า และประสานประเทศเกาหลีใต้ เพื่อส่งตัวกลับไปดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้ ยัง จับกุม  นายซึง ซุล หัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติด ชาวเกาหลีใต้ ผู้ต้องหาตามหมายจับตำรวจสากล ในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดและจำหน่ายยาเสพติด หลังหลบหนีคดีมาซ่อนตัวอยู่ที่โรงแรมในซอยเอกมัย 26 เขตวัฒนา  สอบสวนยอมรับทำหน้าที่จัดหายาเสพติดในประเทศไทยและส่งให้กับเพื่อนร่วมแก๊งชาวเกาหลีใต้ จากนั้นเพื่อนร่วมแก๊งจะทำการซุกซ่อนยาเสพติดตามเสื้อผ้า ชุดชั้นใน และลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปในประเทศเกาหลีใต้ ไปจำหน่ายผ่านแอพพลิเคชั่น Telegram ซึ่งจะขายในราคาสูงกว่าที่ประเทศไทยหลายเท่าตัว

ส่วนคดีสุดท้าย ตำรวจ ตม.สุรินทร์ จับกุมนางกุหลาบ หรือ รำพึง  ตามหมายจับศาลอาญา ในฐานเป็นธุระจัดหาเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหาล่อลวง หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าหญิง โดยหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อปี 2552  ซึ่งขณะนั้นถูกจับกุมได้ขณะเดินทางผ่านเข้ามายังประเทศไทยที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกลับเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อนำหนังสือเดินทางมาตรวจสอบ ผ่านทางเครื่องไบโอแมทริกซ์  ปรากฏว่าผเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญา  สำหรับ นางกุหลาบ ก่อเหตุ หลอกลวงหญิงชาวไทย3 คน ให้ไปทำงานค้าประเวณี  ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี  โดยหลอกว่าจะให้ไปทำงานเป็นแม่บ้าน และทำงานเป็นพนักงานขายอาหาร โดยจับกุมได้ขณะเดินทางผ่านเข้ามายังประเทศไทยที่สุดผ่านแดนถาวรช่องจอมอำเภอกลับเชิง จังหวัดสุรินทร์


พล.ต.ท. สมพงษ์ บอกว่า ระบบไบโอเมตริกซ์ที่ใช้งานมาได้ในช่วง 2-3 เดือนมานี้ สามารถใช้งานได้ดี พบผู้ต้องหาหลายรายพยายามใช้พาสปอร์ตปลอมเดินทางเข้าออกประเทศ มีการจับกุมได้มากถึง 200-300 รายแล้ว  เช่นที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งจะมีชาวต่างชาติมาติดต่อที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทุกวัน ก็พบว่าในแต่ละเดือนจะมีการจับกุมผู้ที่นำพาสปอร์ตปลอมเฉลี่ยเดือนละ 4-5 ราย ที่นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย