อย.4 ก.ย.-‘นพ.ธเรศ’ ยังปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ อย.ลงนามบูรณาการความร่วมมือกับ สปสช. ในการใช้ระบบสารสนเทศเกี่ยวกับกัญชา ยาควบคุมอื่น สำหรับสถานพยาบาล หน่วยงานที่ได้รับอนุญาต หลังวานนี้มีคำสั่งโยกย้ายไปนั่งตำแหน่งอธิบดีกรม สบส.มีผล1 ต.ค.นี้
วันนี้ (4 ก.ย.)ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ประชุมวาระพิเศษกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นสักขีพยาน
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (เลขาธิการ อย.) กล่าวว่า ตามที่เปิดโอกาสให้มีการอนุญาตให้จำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (กัญชา)แก่ผู้ป่วย ภายใต้การดูแลของแพทย์ ผู้ได้รับอนุญาต เช่น สถานพยาบาลต่างๆ ต้องจัดทำบัญชีรับ-จ่าย จำแนกตามชนิดของผลิตภัณฑ์พร้อมระบุรายละเอียดของแพทย์ผู้สั่งจ่าย ข้อมูลผู้ป่วยแต่ละราย รวมถึงรายงานการประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยจากการใช้ยาในผู้ป่วยทุกราย โดยต้องจัดทำเป็นรายงานเสนอต่อเลขาธิการฯทราบเป็นรายเดือนและรายปี ในรูปแบบ SAS monitoring program (intensive monitoring)
สำหรับการบูรณาการความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาต่อยอดจากระบบเดิมเป็นระบบสารสนเทศเกี่ยวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์และยาควบคุมอื่น สำหรับสถานพยาบาลหรือหน่วยงานที่ได้รับอนุญาต ซึ่งในปัจจุบันการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ในระบบสุขภาพ ยังมีการแยกการจัดเก็บในแต่ละหน่วยงาน โดยขาดการเชื่อมโยงข้อมูล ส่งผลให้ข้อมูลเกิดความซ้ำซ้อน เช่นข้อมูลประวัติผู้ป่วย ประวัติการรักษาโรค ข้อมูลการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา เป็นต้น
‘การพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าว จะช่วยลดภาระหน่วยบริการในการนำเข้าข้อมูลผ่านระบบเพื่อจัดทำรายงาน ลดภาระหน่วยงานภาครัฐในการจัดเก็บข้อมูล ลดอัตราเสี่ยง ในการเบิกยาซ้ำซ้อนในผู้ป่วยรายเดียว และส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐมีข้อมูลมากพอที่จะประมวลผล วิเคราะห์ความปลอดภัยจากการใช้กัญชาทางการแพทย์ ยาควบคุมอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ’ เลขาธิการ อย.กล่าว
ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสปสช.กล่าวว่า สปสช.มีระบบสารสนเทศเพื่อการจ่ายชดเชยยารายบุคคล เพื่อให้หน่วยบริการสุขภาพบันทึกข้อมูลการสั่งใช้ยาให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาได้อย่างเหมาะสม ซึ่ง อย.เล็งเห็นถึงประโยชน์ข้อมูลจากระบบสารสนเทศดังกล่าว เป็นการอำนวยความสะดวกในการจัดทำบัญชีรับจ่าย และรายงานที่เกี่ยวข้องกับการสั่งจ่ายกัญชาทางการแพทย์และยาควบคุมอื่น ทำให้ระบบข้อมูลสาธารณสุขมีความทันสมัย มีเสถียรภาพ ตอบสนองต่อความต้องการของทุกภาคส่วนอย่างเหมาะสม
‘ปัจจัยความสำเร็จสำคัญเหล่านี้จะช่วยให้ผู้รับอนุญาตฯ นำเข้าข้อมูลผ่านระบบ เพื่อจัดทำรายงานตามกฎหมาย ในรูปแบบ Single Sign On ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐมีข้อมูลมากพอจะประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูลการใช้และความปลอดภัยจากการใช้กัญชาทางการแพทย์และยาควบคุมอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดรับกับนโยบายรัฐบาล (e-government) ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่ยุคดิจิทัล สามารถเชื่อมโยงการใช้ข้อมูลสุขภาพด้านสาธารณสุขเพื่อความเป็นเลิศ’ เลขาธิการ สปสช.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นพ.ธเรศ วันนี้ยังคงมาทำหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการ อย.หลังวานนี้(3ก.ย.) มีคำสั่งด่วนที่สุดเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประภทบริหารระดับสูง ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ นพ.ธเรศ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ กรมสบส. ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.นี้ .-สำนักข่าวไทย