กรุงเทพฯ 2 ก.ย. – รมช.เกษตรฯ นำแนวทางสหกรณ์มาใช้ส่งเสริมอาชีพ คทช. นำร่องสหกรณ์ปฏรูปที่ดินระบำ ปั้นเป็นอุทัยธานีโมเดล เตรียมขยายไปใช้ทั่วประเทศ
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งประสบผลสำเร็จในการดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนตามนโยบายรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ป่าสงวนหวงห้ามของรัฐ (คทช.) โดยนำที่ดินในเขตพื้นที่ 3,239-2-39 ไร่ มาจัดสรรแบ่งให้ชาวบ้าน 486 ราย เข้าอยู่อาศัยและจัดเป็นแปลงเกษตรให้รายละ 4.5 ไร่ จากนั้นส่งเสริมเกษตรกรรวมกลุ่มจดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด ในปี 2558 ซึ่งทาง คทช.จังหวัดอุทัยธานีอนุญาตให้สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด เช่าที่ดินดังกล่าว พร้อมทั้งยกเว้นค่าเช่า 3 ปี เพื่อให้สหกรณ์บริหารจัดการในรูปแบบแปลงรวม ใช้ระบบสหกรณ์เข้ามาแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ภายใต้คณะกรรม คทช. ปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ทำการเกษตรผสมผสาน ทั้งปลูกพืชผัก หม่อนไหม พืชไร่ ทำประมงและเลี้ยงสัตว์ ใช้หลักตลาดนำการเกษตร เกษตรกรบางรายเคยอยู่ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พืชที่ปลูกเสียหาย เพราะมีช้างป่าและสัตว์ต่าง ๆ ลงมากินผลผลิต ต่อมาลงมาอยู่ในพื้นที่ คทช.ลองปลูกบวบบนพื้นที่ 1 ไร่ ใช้เวลา 45 วัน เก็บผลผลิตขายได้ 82,746 บาท ตอนนี้กำลังขยายการผลิตด้วยการทำผักกางมุ้ง และปลูกพืชผักรอบ ๆ บ้าน มีรายได้เลี้ยงครอบครัวต่อเนื่อง อีกรายทดลองปลูกมะระจีนผสมผสานกับพืชผักชนิดอื่น ๆ ในพื้นที่ 2 ไร่ ขุดสระ ใช้น้ำสปริงเกอร์ ใช้สารชีวภาพและปุ๋ยหมักบำรุงดิน ลงทุนเพียง 15,000 บาท ใช้เวลา 45 วัน เก็บขายได้ 90,000 บาท
นางสาวมนัญญา กล่าวว่า ได้เน้นเรื่องส่งเสริมการนำมาตรฐาน GAP มาใช้เป็นแนวทางในการผลิตพืชผักปลอดภัย พร้อมทั้งรณรงค์ให้เกษตรกรลดละการใช้สารเคมีทางการเกษตร และหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของเกษตรกรและผู้บริโภค และยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานตามต้องการของตลาด และในอนาคตหากมีปริมาณผักมากพออาจเชื่อมโยงกับห้างโมเดิร์นเทรด เพื่อกระจายผักปลอดภัยสู่ผู้บริโภคในนาม “ผักปลอดภัยอุทัยธานี” และเรียกพื้นที่นี้ว่าอุทัยธานีโมเดล ซึ่งจะขยายไปทำในพื้นที่ คทช.
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัดเชื่อมโยงเครือข่ายกับสหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด สนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ คทช.ระบำปลูกผัก ตั้งแต่ต้นปี 2562 มีเกษตรกร 25 ราย หันมาทำแปลงผัก ปลูกบวบ แตงล้าน ถั่วฝักยาว แฟง ฟักทอง และกวางตุ้ง ใช้ระยะเวลา 3 เดือน เกษตรกรจะรวบรวมผักทุกชนิดส่งขายที่ตลาดสินค้าเกษตรของสหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ตั้งแต่ปี 2561 วงเงิน 1,983,000 บาท เพื่อเป็นจุดรวบรวมและจำหน่ายผลผลิตจากสมาชิกและเกษตรกรในชุมชนสู่ผู้บริโภคหรือพ่อค้า
ทั้งนี้ สหกรณ์ทำหน้าที่บริหารจัดการพื้นที่และบริหารตลาดให้เกิดความยุติธรรมในการซื้อ-ขาย เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. ภายในตลาดมีเกษตรกรรายย่อย 15 ราย นำผักจากแปลงของตนเองมาวางขาย และยังมีเกษตรกรอีกกว่า 60 ราย รวบรวมผักบรรจุใส่ถุงขนาดใหญ่มาขายส่งให้กับพ่อค้าและผู้บริโภค เบื้องต้นคาดว่าปริมาณผักที่จะจำหน่ายในตลาดแห่งนี้ประมาณ 5 ตัน/วัน ในอนาคตทางสหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด จะส่งเสริมให้สมาชิกทั้งสองสหกรณ์ปลูกผักได้มาตรฐาน GAP ทุกแปลง และจะพัฒนาการบรรจุให้สวยงาม น่าซื้อและคงความสดใหม่ของผักให้อยู่ยาวนาน รวมถึงจะเชื่อมโยงกับห้างโมเดินเทรดเพื่อส่งผักของสมาชิกสหกรณ์ไปจำหน่ายสู่ผู้บริโภค
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด และสหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด เป็นการสร้างเครือข่ายแบบพี่ช่วยน้อง ทั้งด้านการผลิตและการตลาด มีการจัดการระบบที่ดีและสร้างมาตรฐานให้ดี สามารถเพิ่มมูลค่าผลผลิตได้ อีกทั้งยังสร้างแรงจูงใจเกษตรกรในพื้นที่ว่า เมื่อปลูกมีที่ขายแน่นอน เนื่องจากมีตลาดสินค้าเกษตรของสหกรณ์ตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้โดยใช้เวลาผลิตในระยะสั้น หากเกษตรกรปลูกพืชผักหมุนเวียน ก็จะมีรายได้ทุกวัน ทำให้มีเงินใช้จ่ายในครอบครัวและช่วยลดปัญหาเรื่องหนี้สินให้กับเกษตรกรได้อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย