คมนาคมสั่งทางหลวง-ทางหลวงชนบทดูแลเส้นทางสัญจร

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – กระทรวงคมนาคมระบุผลกระทบจากพายุโพดุล ล่าสุดถนนของกรมทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ 36 สายทาง สัญจรผ่านไม่ได้ 15 สายทาง มีสภาพถนนขาด 6 แห่ง สั่งกรมทางหลวง-ทางหลวงชนบทติดตามดูแลเส้นทางสัญจร ติดป้ายเตือน แนะเส้นทางเลี่ยง


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยที่กระทบถนนเส้นทางต่าง ๆ ขณะนี้ ว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.)  ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากระบบ FMS ประจำวันที่ 1 กันยายน 2562  เวลา 07.00 น. สถานะปัจจุบัน ทช. ประสบอุทกภัย  12 จังหวัด ได้รับผลกระทบ 36 สายทาง จำนวน 43 แห่ง สัญจรผ่านได้  21 สายทาง จำนวน 24 แห่ง สัญจรผ่านไม่ได้  15 สายทาง จำนวน 19 แห่ง เป็น น้ำท่วมสูง 13 แห่ง  และถนนขาด 6 แห่ง ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 17 – 31 สิงหาคม  ทช.ประสบอุทกภัย  16  จังหวัด  ได้รับผลกระทบ  47  สายทาง  เข้าสู่ภาวะปกติ 11 สายทาง คงเหลือที่ได้รับผลกระทบ  36 สายทาง


นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานของคมนาคมประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ ในการเข้าแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะหน่วยกำลังทหารในพื้นที่ประสบภัย และในวันนี้กรมทางหลวง (ทล.) โดยศูนย์สะพานขอนแก่น (น้ำพอง ) จะเข้าไปทอดสะพานแบรี่ บน ทล. 2034 กม. 59+148  (สะพานห้วยถ่ม ) เนื่องจากเกิดการทรุดตัวของตอม่อ ปัจจุบันปิดการจราจร ในช่วงดังกล่าวอยู่

ทั้งนี้ กรมทางหลวงรายงานว่าเมื่เวลา 18.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2562 น้ำท่วมทางหลวง  13 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ แพร่ พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เชียงใหม่ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม  มุกดาหาร อำนาจเจริญ และนครราสีมา  48 แห่ง ผ่านได้ 32 แห่ง ผ่านไม่ได้ 16 แห่ง จำนวน 40 สายทาง พร้อมเร่งทอดสะพาน เบลี่ย์ (สะพานโครงเหล็กชั่วคราว) เพื่อซ่อมแซมเส้นทางที่ได้รับความเสียหายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและมุกดาหาร 


จังหวัดเพชรบูรณ์  7 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2196 ทุ่งสมอ  – แคมป์สน อ.เขาค้อ ช่วงกม.ที่ 46 – 48  ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 2325 เขาค้อ – หนองแม่นา อ.เขาค้อ ช่วง กม.ที่ 16 ระดับน้ำสูง 200 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 2278 หัวนา – กกโอ อ.หล่มสัก ช่วงกม.ที่ 0 – 1  ระดับน้ำสูง 30 ซม. ทางหลวงหมายเลข 2007 นายม – ถ้ำน้ำบัง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ช่วงกม.ที่ 1 – 2  ระดับน้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 113 ชนแดน – ดงขุย อ.ชนแดน ช่วงกม.ที่ 42 – 46  ระดับน้ำสูง 10 – 40ซม. ทางหลวงหมายเลข 225 ศรีมงคล – น้ำอ้อ อ.บึงสามพัน ช่วงกม.ที่ 115 – 116  ระดับน้ำสูง 5 – 20 ซม. และทางหลวงหมายเลข 1069 ตลิ่งชัน – ดงขุย อ.ชนแดน ช่วงกม.ที่ 51 – 52  ระดับน้ำสูง 30 ซม.

จังหวัดแพร่ 3 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 101 หนองห้า – สวนป่า อ.ร้องกวาง ช่วงกม.ที่ 281  ระดับน้ำสูง 40 ซม. ทางหลวงหมายเลข 103 ร้องกวาง – แม่ยางฮ่อ อ.ร้องกวาง ช่วงกม.ที่ 3 – 4  ระดับน้ำสูง 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ และทางหลวงหมายเลข 1214 น้ำอ่าง – วังผาชัน อ.ทองแสนขัน ช่วงกม.ที่ 44 – 45 ระดับน้ำสูง  25 – 30 ซม. การจราจรผ่านได้ไม่สะดวก จังหวัดพิจิตร 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 11 เขาทราย – สากเหล็ก อ.ทับคล้อ ช่วงกม.ที่ 135 -136 ระดับน้ำสูง 30 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้  จังหวัดอุตรดิตถ์ 2 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 1214 น้ำอ่าง – วังผาชัน อ.น้ำปาด ช่วงกม.ที่ 47 ระดับน้ำสูง 5 – 15 ซม. และทางหลวงหมายเลข 117 วังผาชัน – น้ำปาด อ.น้ำปาด ช่วงกม.ที่ 302 ระดับน้ำสูง 5 – 15 ซม.      

จังหวัดพิษณุโลก 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 1295 กกไม้แดง – เนินมะปาง อ.เนินมะปราง ช่วงกม.ที่ 21 – 22  ระดับน้ำสูง 10 – 15 ซม. ทางหลวงหมายเลข 1115 น้อยซุ้มขี้เหล็ก – บ.มุง อ.เนินมะปราง ช่วงกม.ที่ 19 – 21 และกม.ที่ 23  ระดับน้ำสูง 10 – 30 ซม. ทางหลวงหมายเลข  1344 น้อยซุ้มขี้เหล็ก – คลองตาลัค อ.เนินมะปราง ช่วงกม.ที่ 3 – 4  ระดับน้ำสูง 10 – 20 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2013 น้ำเทิน – บ่อโพธิ์ อ.นครไทย ช่วงกม.ที่ 25  ระดับน้ำสูง 5 ซม.

จังหวัดเชียงใหม่ 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 108 สะพานแม่กลาง – บ้านบ่อแก้ว อ.จอมทองช่วงกม.ที่ 98  ระดับน้ำสูง  50 ซม. จังหวัดขอนแก่น 5 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2 พล – บ้านไผ่ อ.พล ช่วงกม.ที่ 293 -294 ระดับน้ำสูง 40 – 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 23 บ้านไผ่ – ไพศาล ช่วงกม.ที่ 1 – 4 ระดับน้ำสูง 100 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 2301 หินตั้ง – หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง ช่วงกม.ที่ 4 น้ำกัดเซาะคอสะพาน การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 229 บ้านไผ่ – มัญจาคีรี อ.บ้านไผ่ ช่วงกม.ที่ 0 – 1 ระดับน้ำสูง 60 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ และทางหลวงหมายเลข 2297 บ้านลาน – เปือยน้อย อ.เปือยน้อย ช่วงกม.ที่ 1 น้ำกัดเซาะทางขาดการจราจรไม่สามารถผ่านได้

จังหวัดกาฬสินธุ์ 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 12 ห้วยสีดา – ปากทางเขื่อนลำปาว อ.ยางตลาด ช่วงกม.ที่ 606 – 607 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 12 หนองผ้าอ้อม – สี่แยกสมเด็จ อ.สมเด็จ ช่วงกม.ที่ 665 ระดับน้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 213 ห้วยปลาหลด – สี่แยกยางตลาด ช่วงกม.ที่ 22 – 23 ระดับน้ำสูง 10 ซม. และทางหลวงหมายเลข 227 กาฬสินธุ์ – แยกดงแหลม อ.เมืองกาฬสินธุ์ ช่วงกม.ที่ 4 – 5 ระดับน้ำสูง 15 ซม.

จังหวัดร้อยเอ็ด 11 แห่ง ทางหลวงหมายเลข  23 ร้อยเอ็ด – เสลภูมิ อ.ธวัชบุรี ช่วงกม.ที่ 113 – 115 ระดับน้ำสูง 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 214 ลำชี – ร้อยเอ็ด อ.เมืองร้อยเอ็ด ช่วงกม.ที่ 45 – 46 ระดับ   น้ำสูง 45 ซม. ทางหลวงหมายเข 214 ร้อยเอ็ด – จตุรพักตรพิมาน อ.จตุรพักตรพิมาน ช่วงกม.ที่ 62 – 63 ระดับ   น้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 214 จตุรพักตรพิมาน – ห้วยพลับพลา อ.จตุรพักตรพิมาน ช่วงกม.ที่ 74 – 75 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 214 จตุรพักตรพิมาน – ห้วยพลับพลา อ.จตุรพักตรพิมาน ช่วงกม.ที่ 80 – 81 ระดับน้ำสูง 10 – 15 ซม. ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 4 – 5 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 15  ระดับน้ำสูง 55 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 16 ระดับน้ำสูง 40 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 25 – 26 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 2043 ร้อยเอ็ด – ยางเฌอ อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 4 – 5 ระดับน้ำสูง 10 – 20 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2044 ร้อยเอ็ด – หนองดง อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 0 – 1 ระดับน้ำสูง 40 ซม.

จังหวัดมหาสารคาม 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2367 มหาสารคาม – บ้านม่วง อ.เมืองมหาสารคาม ช่วงกม.ที่ 2 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 213 หนองขอน – ห้วยปลาหลด อ.เมืองมหาสารคาม ช่วงกม.ที่ 20 ระดับน้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 219 บรบือ – ยางสีสุราช อ.บรบือ ช่วงกม.ที่ 16 – 17  ระดับน้ำสูง 20 ซม. ช่วงกม.ที่ 19 – 20  ระดับน้ำสูง 20 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2322 โสกขุ่น – โกสุมพิสัย อ.กุดรัง ช่วงกม.ที่ 4 – 5  ระดับน้ำสูง 5 ซม.

จังหวัดมุกดาหาร 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2034 นาสีนวน – บุ่งเขียว อ.เขมราฐ ช่วงกม.ที่ 59 ตอม่อสะพานทรุดตัวการจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 2370 นิคมคำสร้อย – หนองสูง อ.นิคมคำสร้อย ช่วงกม.ที่2 ระดับน้ำสูง 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้  ทางหลวงหมายเลข 2116 ห้วยคล้อ – เลิงนกทา อ.เลิงนกทา ช่วงกม.ที่ 138 – 139 ระดับน้ำสูง 60 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2287 ดงหลวง – สานแว้ อ.ดงหลวง ช่วงกม.ที่ 18,22,26  ระดับน้ำสูง 40 – 100 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้

จังหวัดอำนาจเจริญ 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 212 ห้วยสะแบก – อำนาจเจริญ ช่วงกม.ที่ 510 ระดับน้ำสูง 60 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้ (ซ้ายทาง) จังหวัดนครราชสีมา 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 202 แก้งสนามนาง – ดอนตะหนิน อ.บัวใหญ่ ช่วงกม.ที่ 45 ระดับน้ำสูง 7- 10 ซม.

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง บริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงในพื้นที่ และ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]