คมนาคมสั่งทางหลวง-ทางหลวงชนบทดูแลเส้นทางสัญจร

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – กระทรวงคมนาคมระบุผลกระทบจากพายุโพดุล ล่าสุดถนนของกรมทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ 36 สายทาง สัญจรผ่านไม่ได้ 15 สายทาง มีสภาพถนนขาด 6 แห่ง สั่งกรมทางหลวง-ทางหลวงชนบทติดตามดูแลเส้นทางสัญจร ติดป้ายเตือน แนะเส้นทางเลี่ยง


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยที่กระทบถนนเส้นทางต่าง ๆ ขณะนี้ ว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.)  ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากระบบ FMS ประจำวันที่ 1 กันยายน 2562  เวลา 07.00 น. สถานะปัจจุบัน ทช. ประสบอุทกภัย  12 จังหวัด ได้รับผลกระทบ 36 สายทาง จำนวน 43 แห่ง สัญจรผ่านได้  21 สายทาง จำนวน 24 แห่ง สัญจรผ่านไม่ได้  15 สายทาง จำนวน 19 แห่ง เป็น น้ำท่วมสูง 13 แห่ง  และถนนขาด 6 แห่ง ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 17 – 31 สิงหาคม  ทช.ประสบอุทกภัย  16  จังหวัด  ได้รับผลกระทบ  47  สายทาง  เข้าสู่ภาวะปกติ 11 สายทาง คงเหลือที่ได้รับผลกระทบ  36 สายทาง


นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานของคมนาคมประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ ในการเข้าแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะหน่วยกำลังทหารในพื้นที่ประสบภัย และในวันนี้กรมทางหลวง (ทล.) โดยศูนย์สะพานขอนแก่น (น้ำพอง ) จะเข้าไปทอดสะพานแบรี่ บน ทล. 2034 กม. 59+148  (สะพานห้วยถ่ม ) เนื่องจากเกิดการทรุดตัวของตอม่อ ปัจจุบันปิดการจราจร ในช่วงดังกล่าวอยู่

ทั้งนี้ กรมทางหลวงรายงานว่าเมื่เวลา 18.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2562 น้ำท่วมทางหลวง  13 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ แพร่ พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เชียงใหม่ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม  มุกดาหาร อำนาจเจริญ และนครราสีมา  48 แห่ง ผ่านได้ 32 แห่ง ผ่านไม่ได้ 16 แห่ง จำนวน 40 สายทาง พร้อมเร่งทอดสะพาน เบลี่ย์ (สะพานโครงเหล็กชั่วคราว) เพื่อซ่อมแซมเส้นทางที่ได้รับความเสียหายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและมุกดาหาร 


จังหวัดเพชรบูรณ์  7 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2196 ทุ่งสมอ  – แคมป์สน อ.เขาค้อ ช่วงกม.ที่ 46 – 48  ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 2325 เขาค้อ – หนองแม่นา อ.เขาค้อ ช่วง กม.ที่ 16 ระดับน้ำสูง 200 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 2278 หัวนา – กกโอ อ.หล่มสัก ช่วงกม.ที่ 0 – 1  ระดับน้ำสูง 30 ซม. ทางหลวงหมายเลข 2007 นายม – ถ้ำน้ำบัง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ช่วงกม.ที่ 1 – 2  ระดับน้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 113 ชนแดน – ดงขุย อ.ชนแดน ช่วงกม.ที่ 42 – 46  ระดับน้ำสูง 10 – 40ซม. ทางหลวงหมายเลข 225 ศรีมงคล – น้ำอ้อ อ.บึงสามพัน ช่วงกม.ที่ 115 – 116  ระดับน้ำสูง 5 – 20 ซม. และทางหลวงหมายเลข 1069 ตลิ่งชัน – ดงขุย อ.ชนแดน ช่วงกม.ที่ 51 – 52  ระดับน้ำสูง 30 ซม.

จังหวัดแพร่ 3 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 101 หนองห้า – สวนป่า อ.ร้องกวาง ช่วงกม.ที่ 281  ระดับน้ำสูง 40 ซม. ทางหลวงหมายเลข 103 ร้องกวาง – แม่ยางฮ่อ อ.ร้องกวาง ช่วงกม.ที่ 3 – 4  ระดับน้ำสูง 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ และทางหลวงหมายเลข 1214 น้ำอ่าง – วังผาชัน อ.ทองแสนขัน ช่วงกม.ที่ 44 – 45 ระดับน้ำสูง  25 – 30 ซม. การจราจรผ่านได้ไม่สะดวก จังหวัดพิจิตร 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 11 เขาทราย – สากเหล็ก อ.ทับคล้อ ช่วงกม.ที่ 135 -136 ระดับน้ำสูง 30 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้  จังหวัดอุตรดิตถ์ 2 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 1214 น้ำอ่าง – วังผาชัน อ.น้ำปาด ช่วงกม.ที่ 47 ระดับน้ำสูง 5 – 15 ซม. และทางหลวงหมายเลข 117 วังผาชัน – น้ำปาด อ.น้ำปาด ช่วงกม.ที่ 302 ระดับน้ำสูง 5 – 15 ซม.      

จังหวัดพิษณุโลก 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 1295 กกไม้แดง – เนินมะปาง อ.เนินมะปราง ช่วงกม.ที่ 21 – 22  ระดับน้ำสูง 10 – 15 ซม. ทางหลวงหมายเลข 1115 น้อยซุ้มขี้เหล็ก – บ.มุง อ.เนินมะปราง ช่วงกม.ที่ 19 – 21 และกม.ที่ 23  ระดับน้ำสูง 10 – 30 ซม. ทางหลวงหมายเลข  1344 น้อยซุ้มขี้เหล็ก – คลองตาลัค อ.เนินมะปราง ช่วงกม.ที่ 3 – 4  ระดับน้ำสูง 10 – 20 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2013 น้ำเทิน – บ่อโพธิ์ อ.นครไทย ช่วงกม.ที่ 25  ระดับน้ำสูง 5 ซม.

จังหวัดเชียงใหม่ 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 108 สะพานแม่กลาง – บ้านบ่อแก้ว อ.จอมทองช่วงกม.ที่ 98  ระดับน้ำสูง  50 ซม. จังหวัดขอนแก่น 5 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2 พล – บ้านไผ่ อ.พล ช่วงกม.ที่ 293 -294 ระดับน้ำสูง 40 – 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 23 บ้านไผ่ – ไพศาล ช่วงกม.ที่ 1 – 4 ระดับน้ำสูง 100 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 2301 หินตั้ง – หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง ช่วงกม.ที่ 4 น้ำกัดเซาะคอสะพาน การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 229 บ้านไผ่ – มัญจาคีรี อ.บ้านไผ่ ช่วงกม.ที่ 0 – 1 ระดับน้ำสูง 60 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ และทางหลวงหมายเลข 2297 บ้านลาน – เปือยน้อย อ.เปือยน้อย ช่วงกม.ที่ 1 น้ำกัดเซาะทางขาดการจราจรไม่สามารถผ่านได้

จังหวัดกาฬสินธุ์ 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 12 ห้วยสีดา – ปากทางเขื่อนลำปาว อ.ยางตลาด ช่วงกม.ที่ 606 – 607 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 12 หนองผ้าอ้อม – สี่แยกสมเด็จ อ.สมเด็จ ช่วงกม.ที่ 665 ระดับน้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 213 ห้วยปลาหลด – สี่แยกยางตลาด ช่วงกม.ที่ 22 – 23 ระดับน้ำสูง 10 ซม. และทางหลวงหมายเลข 227 กาฬสินธุ์ – แยกดงแหลม อ.เมืองกาฬสินธุ์ ช่วงกม.ที่ 4 – 5 ระดับน้ำสูง 15 ซม.

จังหวัดร้อยเอ็ด 11 แห่ง ทางหลวงหมายเลข  23 ร้อยเอ็ด – เสลภูมิ อ.ธวัชบุรี ช่วงกม.ที่ 113 – 115 ระดับน้ำสูง 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 214 ลำชี – ร้อยเอ็ด อ.เมืองร้อยเอ็ด ช่วงกม.ที่ 45 – 46 ระดับ   น้ำสูง 45 ซม. ทางหลวงหมายเข 214 ร้อยเอ็ด – จตุรพักตรพิมาน อ.จตุรพักตรพิมาน ช่วงกม.ที่ 62 – 63 ระดับ   น้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 214 จตุรพักตรพิมาน – ห้วยพลับพลา อ.จตุรพักตรพิมาน ช่วงกม.ที่ 74 – 75 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 214 จตุรพักตรพิมาน – ห้วยพลับพลา อ.จตุรพักตรพิมาน ช่วงกม.ที่ 80 – 81 ระดับน้ำสูง 10 – 15 ซม. ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 4 – 5 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 15  ระดับน้ำสูง 55 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 16 ระดับน้ำสูง 40 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 25 – 26 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 2043 ร้อยเอ็ด – ยางเฌอ อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 4 – 5 ระดับน้ำสูง 10 – 20 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2044 ร้อยเอ็ด – หนองดง อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 0 – 1 ระดับน้ำสูง 40 ซม.

จังหวัดมหาสารคาม 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2367 มหาสารคาม – บ้านม่วง อ.เมืองมหาสารคาม ช่วงกม.ที่ 2 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 213 หนองขอน – ห้วยปลาหลด อ.เมืองมหาสารคาม ช่วงกม.ที่ 20 ระดับน้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 219 บรบือ – ยางสีสุราช อ.บรบือ ช่วงกม.ที่ 16 – 17  ระดับน้ำสูง 20 ซม. ช่วงกม.ที่ 19 – 20  ระดับน้ำสูง 20 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2322 โสกขุ่น – โกสุมพิสัย อ.กุดรัง ช่วงกม.ที่ 4 – 5  ระดับน้ำสูง 5 ซม.

จังหวัดมุกดาหาร 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2034 นาสีนวน – บุ่งเขียว อ.เขมราฐ ช่วงกม.ที่ 59 ตอม่อสะพานทรุดตัวการจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 2370 นิคมคำสร้อย – หนองสูง อ.นิคมคำสร้อย ช่วงกม.ที่2 ระดับน้ำสูง 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้  ทางหลวงหมายเลข 2116 ห้วยคล้อ – เลิงนกทา อ.เลิงนกทา ช่วงกม.ที่ 138 – 139 ระดับน้ำสูง 60 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2287 ดงหลวง – สานแว้ อ.ดงหลวง ช่วงกม.ที่ 18,22,26  ระดับน้ำสูง 40 – 100 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้

จังหวัดอำนาจเจริญ 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 212 ห้วยสะแบก – อำนาจเจริญ ช่วงกม.ที่ 510 ระดับน้ำสูง 60 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้ (ซ้ายทาง) จังหวัดนครราชสีมา 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 202 แก้งสนามนาง – ดอนตะหนิน อ.บัวใหญ่ ช่วงกม.ที่ 45 ระดับน้ำสูง 7- 10 ซม.

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง บริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงในพื้นที่ และ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี ลั่นไม่ถอยกำลังทหาร

กองทัพบก 4 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวังถก GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้หากสองประเทศยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกันก็จบง่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็คาดหวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หาข้อตกลงร่วมกันให้ดีที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลสถานการณ์ชายแดน หลังวันที่ 7 สิงหาคม จะมีความตึงเครียดนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้นำทั้งสองประเทศ จะเจอกันตรงจุดไหน หากยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ก็จบง่าย ซึ่งตอนนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา” สำหรับการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพทั้งสองประเทศได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ที่สองรัฐบาลได้พูดคุยกันไว้เพื่อความสงบสุขบริเวณชายแดน ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องโดรนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการติดตามกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นสายลับ และไส้ศึก […]

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]

EOD ทำลายวัตถุระเบิด ใกล้ปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ 4 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้จรวด BM 21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกและฝังอยู่ในพื้นถนนกันทรลักษ์อีกจุด ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่วันที่ 24 ก.ค. เช่นเดียวกัน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บวัตถุระเบิดหรือ EOD จากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ แล้วตกลงไปฝังอยู่ในถนน กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ เป็นจรวด BM 21 ที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. บ้านผือ ระเบิดจุดนี้ อยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ประเมาณ 500 เมตร และห่างจากจุดที่มีการเก็บกู้ จรวดบีเอ็ม 21 บนถนนกันทรลักษ์ลูกแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม […]