กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – เอกชนหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน แนะรัฐเพิ่มมาตรการให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมาหักลดหย่อนภาษี พร้อมกันนี้กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จับมือ 11 โรงพยาบาลเปิดโครงการแต้มต่อชีวิต
นางสาวณญาณี เผือกขำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด เปิดเผยถึงกรณีครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน วงเงินประมาณ 316,000 ล้านบาท ว่า เป็นเรื่องดีที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะต้องยอมรับว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวน้อยลง ซึ่งจุดเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ความมั่นใจของผู้บริโภค เพราะหากผู้บริโภคมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมก็จะชะลอการจับจ่ายใช้สอย แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ผู้บริโภคจะคิดก่อนใช้และลดการจับจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย
อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ควรมีความซับซ้อนหรือมีเงื่อนไขมากจนเกินไป ควรเน้นให้มีการใช้จ่ายได้ง่าย เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เสนอว่ารัฐบาลควรมีมาตรการลักษณะช้อปช่วยชาติ แต่เน้นไปที่การดูแลสุขภาพ การรักษาพยาบาลของประชาชน โดยให้สามารถนำค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพมาหักลดหย่อนภาษี หรืออาจเรียกว่า ช้อปเพื่อชีวิต เหมือนกับการซื้ออุปกรณ์กีฬา หนังสือ ท่องเที่ยว นำมาลดหย่อนภาษีได้
นางสาวณญาณี กล่าวว่า ปี 2561 ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายในหมวดค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 388,954 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.9 ของรายได้มวลรวมประชาชาติ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากและคาดว่าผู้บริโภคใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลผ่านบัตรในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ โดยเป็นยอดชำระเต็มจำนวนสูงถึง 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 16 และยอดผ่อนชำระค่ารักษาพยาบาล 2,100 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 25 ภายในสิ้นปีนี้ ดังนั้น จึงได้ตัดสินใจเริ่มโครงการแต้มต่อชีวิต โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลรัฐ 11 แห่งทั่วประเทศเสนอทางเลือกในการแบ่งจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นด้วยการผ่อนชำระ 0% เป็นเวลานาน 3 เดือน ผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ สามารถร่วมโครงการ จนถึง 31 ธันวาคม 2562
รวมทั้งจัดกิจกรรมแลกคะแนนสะสมบัตรเครดิตในเครือฯ หรือบริจาคเงินผ่านบัตรเครดิตเพื่อช่วยเหลือผู้ได้โอกาสและซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยทางกรุงศรีคอนซูมเมอร์จะสมทบทุนเพิ่มให้อีก 10 บาทสำหรับทุก 1,000 คะแนนที่สมาชิกบริจาค โดยเตรียมงบสนับสนุนไว้กว่า 10 ล้านบาท สามารถร่วมกิจกรรมได้จนถึง 15 พฤศจิกายน 2562
สำหรับโรงพยาบาลรัฐที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โรงพยาบาลศรีธัญญา โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช .-สำนักข่าวไทย