เดินหน้าปรับโฉมร้านโชห่วยดั้งเดิม

นนทบุรี 19 ส.ค. – รมว.พาณิชย์เร่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าปรับโฉมร้านโชห่วยดั้งเดิมให้เป็น smart โชห่วย หวังสร้างความเข้มแข็ง พร้อมชงแนวทางประกันรายได้ปาล์มและข้าว



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังร่วมงานครบรอบ 99 ปี วันสถาปนากระทรวงพาณิชย์ ว่า ก้าวต่อไปของการทำงานข้าราชการกระทรวงพาณิชย์จะเป็นไปตามกรอบนโยบาย 10 นโยบายหลัก โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน คือ ดูแลปัญหาปากท้องของประชาชนที่จะควบคู่ไปกับการพัฒนาร้านค้าโชห่วยดั้งเดิมของคนไทยให้มีความเข้มแข็งต่อสู้ปรับเปลี่ยนให้ทันยุคสมัยของโลก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เห็นความสำคัญและเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือร้านค้าโชห่วยไทยอย่างมาก


อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการและมอบหมายให้นายวุฒิไกร ลีวีระพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไปศึกษาและจัดทำรูปแบบที่จะปรับปรุงร้านโชห่วยดั้งเดิมให้เป็น smart โชห่วยให้บริการเทียบเท่าห้างต่าง ๆ โดยขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะไปสำรวจร้านโชห่วยทั่วประเทศยังเปิดให้บริการมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน และกำหนดรูปแบบหรือต้นแบบของ smart โชห่วยที่จะมีการปรับรูปโฉมใหม่มีหน้าตาอย่างไรและดีกว่าร้านโชห่วยขณะนี้อย่างไร ซึ่งตัวเลขร้านโชห่วยดั้งเดิมมีอยู่แล้วคงจะไม่ลำบากในการสำรวจตรวจสอบ ดังนั้น เมื่อจัดทำต้นแบบ smart โชห่วยเรียบร้อยจะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปแนวทางการปรับร้านโชห่วยดั้งเดิมให้เป็นร้าน smart โชห่วย และคาดว่าไม่นานเกินรอจะมีความชัดเจนเรื่องนี้ โดยเฉพาะเป้าหมายการปรับเปลี่ยนเป็น smart โชห่วยก่อนหมดปีนี้และเป้าหมายปีหน้าจะมีอย่างน้อยกี่แห่ง แต่เรื่องนี้ถือว่าต้องเร่งดำเนินการ

นอกจากนี้ การช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวนาและชาวสวนปาล์มน้ำมันนั้น ในช่วงบ่ายจะมีการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เพื่อสรุปมาตรการประกันราคาปาล์มน้ำมัน 4 บาทต่อกิโลกรัมให้ที่ประชุมได้พิจารณา คาดว่าเมื่อมีมติชัดเจนก็จะได้ตัวเลขช่วยเหลือชาวสวนปาล์มว่าโครงการประกันรายได้นี้จะใช้เงินงบประมาณมากน้อยแค่ไหนและจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พรุ่งนี้ (20 ส.ค.) หรือสัปดาห์หน้า ส่วนประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าวนั้น คณะกรรมการ 3 ฝ่ายได้ข้อสรุปร่วมกันเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว หรือ นบข ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 21 สิงหาคมนี้ แต่หากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจวันดังกล่าวก็จะเลื่อนประชุมเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้เร่งพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้ต่อไป  ดังนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่าโครงการประกันรายได้ข้าวจะใช้งบประมาณเท่าใด แต่เชื่อว่าเมื่อผ่านการพิจารณาในที่ประชุม นบข. มาแล้วจะทราบตัวเลขที่ชัดเจนมากขึ้น


นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ผู้ประกอบการร้านโชวห่วยและร้านค้าส่งในจังหวัดนครราชสีมา ว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ลงพื้นที่พบปะและตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการร้านโชห่วยและร้านค้าส่ง ซึ่งส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงผู้ประกอบการกลุ่มนี้อย่างมาก จึงต้องการลงมารับฟังปัญหา-อุปสรรค-ข้อเสนอแนะของร้านค้าด้วยตนเอง และพร้อมที่จะนำความเห็นนั้นมาดำเนินการช่วยเหลือให้เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผลักดันให้เป็นวาระหลักที่ต้องเร่งดำเนินการให้การสนับสนุนส่งเสริม เพิ่มพูนทักษะความรู้ด้านการจัดการร้านค้า และให้การช่วยเหลือด้านอื่น ๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนการใช้เงินในระดับภูมิภาค ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง สามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมืองกับสังคมท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ โชห่วยร้านแรกที่ตรวจเยี่ยม คือ ร้านพูนทรัพย์มินิมาร์ท ต.หมื่นไวย อ.เมือง ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกต้นแบบในหมู่บ้านที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นร้านสมาร์ทโชวห่วยแห่งแรกใน ต.หมื่นไวย เป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่จำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งจากการพูดคุยพบว่าปัญหาส่วนใหญ่ของร้านโชห่วย คือ ไม่มีระบบการบริหารจัดการร้านค้าที่ดี การจัดร้านไม่เป็นระเบียบทำให้ลูกค้าหาสินค้าลำบาก ไม่มีระบบการตรวจเช็คสตอกสินค้า ทำให้บางครั้งสินค้าที่ซื้อมาจำหน่ายมีมากเกินความจำเป็นหรือสินค้าหมดอายุ และที่สำคัญ คือ ไม่สามารถจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าในร้านได้ ฯลฯ หลังจากได้รับการพัฒนาให้เป็นร้านสมาร์ทโชห่วยที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการร้านค้า ทำให้ยอดขายในร้านเพิ่มขึ้นต่อเดือนประมาณร้อยละ 10-15 ลูกค้าหาสินค้าง่ายมากขึ้น บริหารสตอกสินค้าเป็นระเบียบมากขึ้น อีกทั้งร่วมมือกับซัพพลายเออร์รายใหญ่จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เช่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อสินค้าครบ 99 บาท แถมกระเป๋า ฯลฯ เป็นต้น ทำให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในร้านเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมร้านวงศ์มังกรซุปเปอร์สโตร์ ต.ในเมือง อ.เมือง ซึ่งเป็นร้านค้าส่งสินค้าอุปโภค-บริโภคขนาดใหญ่ เป็นกิจการของคนไทย 100% และเป็นร้านค้าส่งที่ได้รับการพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ มีเครือข่ายที่เป็นร้านค้าปลีกและร้านโชห่วย ประมาณ 500 ร้านค้าทั้งในและนอกอำเภอเมือง จากการพูดคุยพบว่า ปัญหาส่วนใหญ่จะคล้าย ๆ กับร้านโชห่วย คือ ไม่มีระบบการบริหารจัดการร้านค้าที่ดี ไม่มีระบบการบริหารสตอกสินค้า และปัญหาด้านเงินทุนสำหรับสั่งซื้อสินค้าเข้าร้าน ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันทางร้านนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการร้านค้า และมีระบบโลจิสติกส์เดลิเวอรี่ที่พร้อมจะนำสินค้าไปส่งให้ร้านค้าปลีกรายย่อย โดยเจ้าของร้านไม่ต้องเดินทางมาที่ร้าน พร้อมทั้งเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ร้านโชห่วยที่เป็นเครือข่าย ทำให้มีลูกค้าที่เป็นร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเป็นร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าให้แก่คนในท้องถิ่นด้วย ทำให้เข้าใจร้านค้าปลีกและร้านโชห่วยในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากพูดคุยและตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการร้านโชห่วยและร้านค้าส่งได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งสรุปปัญหา-อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่ได้รับ พร้อมหามาตรการสนับสนุนส่งเสริมร้านค้าปลีก-ค้าส่งเสนอตนมาโดยเร็ว ให้เน้นความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมชัดเจน เกิดภาคีเครือข่ายธุรกิจ และสามารถผลักดันให้ธุรกิจโชห่วยก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงในรูปแบบ “จับมือพันธมิตร ติดปีกโชห่วยไทย” พร้อมให้เร่งดำเนินการผลักดันร้านโชห่วยเป็นสมาร์ทโชห่วย โดยมั่นใจว่าภายในปี 2563 จะสามารถดำเนินการครบ 10,000 แห่ง อย่างแน่นอน ซึ่งจะให้ทำให้ร้านโชห่วยมีความแข็งแกร่ง และอยู่คู่สังคมไทยไปอีกนาน  

ทั้งนี้ ระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฯ ได้สังเกตพฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้านโชห่วยยิ่งมีความมั่นใจว่า ร้านโชห่วยยังไงก็ต้องอยู่คู่กับสังคมไทย เนื่องจากไม่เพียงจะเป็นร้านค้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านสำหรับขายสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นเท่านั้น แต่ร้านโชห่วยยังเป็นสถานที่พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของคนในหมู่บ้าน และที่สำคัญ คือ เป็นแหล่งเอื้ออาทรที่เพื่อนบ้านใกล้เคียงสามารถมาเอาสินค้าในร้านไปใช้สอยได้ก่อน…พรุ่งนี้ค่อยมาจ่ายเงิน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์และวัฒนธรรมการเอื้ออาทรของคนในชุมชนที่ร้านสะดวกซื้อไม่สามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 […]

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]