เดินหน้าปรับโฉมร้านโชห่วยดั้งเดิม

นนทบุรี 19 ส.ค. – รมว.พาณิชย์เร่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าปรับโฉมร้านโชห่วยดั้งเดิมให้เป็น smart โชห่วย หวังสร้างความเข้มแข็ง พร้อมชงแนวทางประกันรายได้ปาล์มและข้าว



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังร่วมงานครบรอบ 99 ปี วันสถาปนากระทรวงพาณิชย์ ว่า ก้าวต่อไปของการทำงานข้าราชการกระทรวงพาณิชย์จะเป็นไปตามกรอบนโยบาย 10 นโยบายหลัก โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน คือ ดูแลปัญหาปากท้องของประชาชนที่จะควบคู่ไปกับการพัฒนาร้านค้าโชห่วยดั้งเดิมของคนไทยให้มีความเข้มแข็งต่อสู้ปรับเปลี่ยนให้ทันยุคสมัยของโลก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เห็นความสำคัญและเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือร้านค้าโชห่วยไทยอย่างมาก


อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการและมอบหมายให้นายวุฒิไกร ลีวีระพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไปศึกษาและจัดทำรูปแบบที่จะปรับปรุงร้านโชห่วยดั้งเดิมให้เป็น smart โชห่วยให้บริการเทียบเท่าห้างต่าง ๆ โดยขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะไปสำรวจร้านโชห่วยทั่วประเทศยังเปิดให้บริการมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน และกำหนดรูปแบบหรือต้นแบบของ smart โชห่วยที่จะมีการปรับรูปโฉมใหม่มีหน้าตาอย่างไรและดีกว่าร้านโชห่วยขณะนี้อย่างไร ซึ่งตัวเลขร้านโชห่วยดั้งเดิมมีอยู่แล้วคงจะไม่ลำบากในการสำรวจตรวจสอบ ดังนั้น เมื่อจัดทำต้นแบบ smart โชห่วยเรียบร้อยจะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปแนวทางการปรับร้านโชห่วยดั้งเดิมให้เป็นร้าน smart โชห่วย และคาดว่าไม่นานเกินรอจะมีความชัดเจนเรื่องนี้ โดยเฉพาะเป้าหมายการปรับเปลี่ยนเป็น smart โชห่วยก่อนหมดปีนี้และเป้าหมายปีหน้าจะมีอย่างน้อยกี่แห่ง แต่เรื่องนี้ถือว่าต้องเร่งดำเนินการ

นอกจากนี้ การช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวนาและชาวสวนปาล์มน้ำมันนั้น ในช่วงบ่ายจะมีการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เพื่อสรุปมาตรการประกันราคาปาล์มน้ำมัน 4 บาทต่อกิโลกรัมให้ที่ประชุมได้พิจารณา คาดว่าเมื่อมีมติชัดเจนก็จะได้ตัวเลขช่วยเหลือชาวสวนปาล์มว่าโครงการประกันรายได้นี้จะใช้เงินงบประมาณมากน้อยแค่ไหนและจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พรุ่งนี้ (20 ส.ค.) หรือสัปดาห์หน้า ส่วนประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าวนั้น คณะกรรมการ 3 ฝ่ายได้ข้อสรุปร่วมกันเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว หรือ นบข ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 21 สิงหาคมนี้ แต่หากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจวันดังกล่าวก็จะเลื่อนประชุมเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้เร่งพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้ต่อไป  ดังนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่าโครงการประกันรายได้ข้าวจะใช้งบประมาณเท่าใด แต่เชื่อว่าเมื่อผ่านการพิจารณาในที่ประชุม นบข. มาแล้วจะทราบตัวเลขที่ชัดเจนมากขึ้น


นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ผู้ประกอบการร้านโชวห่วยและร้านค้าส่งในจังหวัดนครราชสีมา ว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ลงพื้นที่พบปะและตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการร้านโชห่วยและร้านค้าส่ง ซึ่งส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงผู้ประกอบการกลุ่มนี้อย่างมาก จึงต้องการลงมารับฟังปัญหา-อุปสรรค-ข้อเสนอแนะของร้านค้าด้วยตนเอง และพร้อมที่จะนำความเห็นนั้นมาดำเนินการช่วยเหลือให้เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผลักดันให้เป็นวาระหลักที่ต้องเร่งดำเนินการให้การสนับสนุนส่งเสริม เพิ่มพูนทักษะความรู้ด้านการจัดการร้านค้า และให้การช่วยเหลือด้านอื่น ๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนการใช้เงินในระดับภูมิภาค ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง สามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมืองกับสังคมท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ โชห่วยร้านแรกที่ตรวจเยี่ยม คือ ร้านพูนทรัพย์มินิมาร์ท ต.หมื่นไวย อ.เมือง ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกต้นแบบในหมู่บ้านที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นร้านสมาร์ทโชวห่วยแห่งแรกใน ต.หมื่นไวย เป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่จำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งจากการพูดคุยพบว่าปัญหาส่วนใหญ่ของร้านโชห่วย คือ ไม่มีระบบการบริหารจัดการร้านค้าที่ดี การจัดร้านไม่เป็นระเบียบทำให้ลูกค้าหาสินค้าลำบาก ไม่มีระบบการตรวจเช็คสตอกสินค้า ทำให้บางครั้งสินค้าที่ซื้อมาจำหน่ายมีมากเกินความจำเป็นหรือสินค้าหมดอายุ และที่สำคัญ คือ ไม่สามารถจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าในร้านได้ ฯลฯ หลังจากได้รับการพัฒนาให้เป็นร้านสมาร์ทโชห่วยที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการร้านค้า ทำให้ยอดขายในร้านเพิ่มขึ้นต่อเดือนประมาณร้อยละ 10-15 ลูกค้าหาสินค้าง่ายมากขึ้น บริหารสตอกสินค้าเป็นระเบียบมากขึ้น อีกทั้งร่วมมือกับซัพพลายเออร์รายใหญ่จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เช่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อสินค้าครบ 99 บาท แถมกระเป๋า ฯลฯ เป็นต้น ทำให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในร้านเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมร้านวงศ์มังกรซุปเปอร์สโตร์ ต.ในเมือง อ.เมือง ซึ่งเป็นร้านค้าส่งสินค้าอุปโภค-บริโภคขนาดใหญ่ เป็นกิจการของคนไทย 100% และเป็นร้านค้าส่งที่ได้รับการพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ มีเครือข่ายที่เป็นร้านค้าปลีกและร้านโชห่วย ประมาณ 500 ร้านค้าทั้งในและนอกอำเภอเมือง จากการพูดคุยพบว่า ปัญหาส่วนใหญ่จะคล้าย ๆ กับร้านโชห่วย คือ ไม่มีระบบการบริหารจัดการร้านค้าที่ดี ไม่มีระบบการบริหารสตอกสินค้า และปัญหาด้านเงินทุนสำหรับสั่งซื้อสินค้าเข้าร้าน ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันทางร้านนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการร้านค้า และมีระบบโลจิสติกส์เดลิเวอรี่ที่พร้อมจะนำสินค้าไปส่งให้ร้านค้าปลีกรายย่อย โดยเจ้าของร้านไม่ต้องเดินทางมาที่ร้าน พร้อมทั้งเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ร้านโชห่วยที่เป็นเครือข่าย ทำให้มีลูกค้าที่เป็นร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเป็นร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าให้แก่คนในท้องถิ่นด้วย ทำให้เข้าใจร้านค้าปลีกและร้านโชห่วยในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากพูดคุยและตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการร้านโชห่วยและร้านค้าส่งได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งสรุปปัญหา-อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่ได้รับ พร้อมหามาตรการสนับสนุนส่งเสริมร้านค้าปลีก-ค้าส่งเสนอตนมาโดยเร็ว ให้เน้นความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมชัดเจน เกิดภาคีเครือข่ายธุรกิจ และสามารถผลักดันให้ธุรกิจโชห่วยก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงในรูปแบบ “จับมือพันธมิตร ติดปีกโชห่วยไทย” พร้อมให้เร่งดำเนินการผลักดันร้านโชห่วยเป็นสมาร์ทโชห่วย โดยมั่นใจว่าภายในปี 2563 จะสามารถดำเนินการครบ 10,000 แห่ง อย่างแน่นอน ซึ่งจะให้ทำให้ร้านโชห่วยมีความแข็งแกร่ง และอยู่คู่สังคมไทยไปอีกนาน  

ทั้งนี้ ระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฯ ได้สังเกตพฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้านโชห่วยยิ่งมีความมั่นใจว่า ร้านโชห่วยยังไงก็ต้องอยู่คู่กับสังคมไทย เนื่องจากไม่เพียงจะเป็นร้านค้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านสำหรับขายสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นเท่านั้น แต่ร้านโชห่วยยังเป็นสถานที่พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของคนในหมู่บ้าน และที่สำคัญ คือ เป็นแหล่งเอื้ออาทรที่เพื่อนบ้านใกล้เคียงสามารถมาเอาสินค้าในร้านไปใช้สอยได้ก่อน…พรุ่งนี้ค่อยมาจ่ายเงิน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์และวัฒนธรรมการเอื้ออาทรของคนในชุมชนที่ร้านสะดวกซื้อไม่สามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ.สั่งสอบกัมพูชานำ 22 วรรณกรรมไทย สอดไส้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก

15 ก.ค. – ปลัดวัฒนธรรม สั่งตรวจสอบแล้ว หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์อ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโกโดยประเทศอื่นๆ นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนบางแห่ง โดยอ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโก โดยประเทศอื่นๆ นั้น กระทรวงได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เนื่องจากกระบวนการพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรองข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ กระทรวงวัฒนธรรม ขอยืนยันว่าหากได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนแล้วจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป เขมรเคลมฉก 22 วรรณกรรมไทยสอดไส้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกแล้วก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “JanJao K. Sisprakaew” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่เขมรนำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย รายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ถูกแต่งขึ้นโดยชาวไทย แต่ถูกเขมรนำไปขึ้นทะเบียนต่อ Unesco ในหัวข้อ “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ Cultural heritage of Cambodia” วรรณกรรมไทยเหล่านี้ถูกเขมรเคลมเป็นของตนเองเพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodiaโดยเขมรอ้างว่ารายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522-2545 จากละครเรื่อง […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]