เชียงราย 15 ส.ค.-โจรควงมีดบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคารกรุงไทยสาขาห้าแยกพ่อขุนเม็งราย ได้เงินไปกว่า 100,000 บาท หนีลอยนวล ตำรวจปิดล้อมเส้นทางหลบหนี เร่งจับกุม
นี่คือภาพขณะคนร้ายเป็นชายสวมกางเกงขายาว เสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำเดินข้ามถนน พหลโยธิน สายเชียงราย–แม่สาย จากฝั่งโรงแรมธันยาอินทร์มายัง ธนาคารกรุงไทยสาขาห้าแยกพ่อขุนเม็งราย เมื่อเวลา 16.29 น. ซึ่งกล้องวงจรปิดหน้าธนาคารบันทึกไว้ได้ ก่อนจะเข้าไปก่อเหตุใช้มีดจี้ชิงเงินพนักงานธนาคารที่เคาร์เตอร์ภายในธนาคารที่ตั้งอยู่ชั้น 2 ได้เงินไปจำหนึ่ง คาดว่ามีมากกว่า 100,000 บาท จากนั้นคนร้ายหนีลงมาทางประตูหลังของธนาคาร ผ่านลานจอดรถของธนาคารและวิ่งข้ามถนนพหลโยธิน กลับไปยังตรงข้ามของธนาคารโดยมีเจ้าหน้าที่ รปภ.ของธนาคารและพลเมืองดี ซึ่งเป็นคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลหน้าธนาคารวิ่งไล่ตามอย่างกระชั้นชิด แต่ตามไม่ทัน
หลังเกิดเหตุร้อยเวรและชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายได้เดินทางมาตรวจจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งจากวงจรปิด และสอบปากคำพนักงานที่โดนจี้ชิงเงินซึ่งเป็นผู้หญิง พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นอาคารของธนาคารชั้น 2 โดยเกิดบริเวณเคาท์เตอร์ให้บริการรับฝากถอนของธนาคาร โดยพบว่าเจ้าหน้าที่แต่ละคนต่างตื่นตกใจในเหตุการณ์ที่เกิดเหตุพร้อมให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ว่าก่อนหน้านี้ได้มีชายจำนวน 1 คน อายุ 25-30 ปี สวมใส่เสื้อผ้าแขนและขายาวสีดำหรือน้ำเงินเข้ม รองเท้าผ้าใบสีขาวและไม่ปิดบังใบหน้า รูปร่างผอมสูงดูคล่องแคล่วได้ถือมีดปลายแหลมเข้าไปอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ จากนั้นทำทีเดินไปมาก่อนจะใช้มีดจี้พนักงานที่ให้บริการตรงเคาน์เตอร์หมายเลข 2 ซึ่งมีพนักงานธนาคารซึ่งเป็นหญิงอยู่ 2 คน แล้วคนร้ายได้ข้ามเข้าไปในช่องของพนักงานแล้วฉกเอาเงินสดจำนวนหนึ่งที่อยู่บริเวณโต๊ะ ก่อนจะวิ่งวกกลับออกมาแล้วหลบหนีออกไปทางประตูด้านหลังของธนาคารอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่จึงสอบถามเส้นทางจากผู้พบเห็นทราบว่าคนร้ายได้วิ่งข้ามถนนพหลโยธินและทะลุเข้าไปทางโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกันก่อนจะปีนข้ามรั้วหายไปในชุมชนรั้วเหล็ก เทศบาลนครเชียงราย ซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจากกล้องวงจาปิดพบภาพของคนร้ายดังกล่าววิ่งไปทางด้านหลังของธนาคารอย่างชัดเจน จึงออกติดตามจับกุมตัวซึ่งขณะนี้กำลังตำรวจชุดสืบสวนได้ออกติดตามภายในชุมชนรั้วเหล็กชุมชนเกาะลอย ชุมชนรั้วเหล็กเหนือ และบริเวณข้างเคียงโดยรอบ เพื่อปิดล้อมเส้นทางหลบหนีและติดตามจับกุมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย