พรรคเพื่อไทย 13 ส.ค.-คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อไทย ดันเสนอญัตติเปิดอภิปราย ตาม ม.152 หากนายกฯ ไม่ตอบกระทู้สภาฯ ปมถวายสัตย์ หวั่นส่งผลกระทบการทำงานของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ส.ค.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายชัยเกษม นิติสิริ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายโภคิน พลกุล นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายวัฒนา เมืองสุข นายสามารถ แก้วมีชัย และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุมกรณีคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาล กรณีการแถลงโยบายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยไม่ชี้แจงจำนวนเงิน และที่มาของรายได้ กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่สมบูรณ์ การเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และรายงานการดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่ประชุมให้ความสำคัญกับการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งดำเนินการร่วมกันระหว่าง 7 พรรคฝ่ายค้าน
คุณหญิงสุดารัตน์ แถลงภายหลังการประชุม ว่า การติดตามการแก้ไขปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนฐานราก เช่น เกษตรกร ซึ่งจะใช้แนวทางของสภาผู้แทนราษฎรแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน บวกกับการใช้ยุทธศาสตร์สัญจร ทั้งนี้ มองว่าต้องนำเม็ดเงินออกไปสู่ประชาชนโดยเร็ว ไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวนเม็ดเงินนั้นน้อยเกินไป จึงขอเสนอให้ชดเชยเป็นขั้นบันได และขอให้รัฐบาลใช้เงินงบประมาณแก้ไขปัญหาโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะต้องใช้กระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า มีความเป็นห่วงเรื่องการทำงานของรัฐบาลที่อาจไม่สมบูรณ์ เพราะการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วน จึงขอให้นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองทำไม่ถูกต้องครบถ้วน ทั้งการถวายสัตย์ฯ และการแถลงนโยบาย หากเริ่มต้นมาก็ขัดรัฐธรรมนูญแล้ว การดำเนินการต่อ ๆ ไปของรัฐบาลก็คงไม่สมบูรณ์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหยุมหยิม แต่เป็นเรื่องขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะทำอะไรที่ขัดกับรัฐธรรมนูญไม่ได้
“เราปล่อยให้รัฐบาลทำงานมาเดือนกว่าแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคำตอบใด ๆ เราไม่ได้ประสงค์จะสร้างความยุ่งยากลำบากให้กับรัฐบาล หรือประชาชนเลย แต่ไม่อยากปล่อยให้มีสิ่งที่ผิดต่อไปอีก เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนดำเนินต่อไปได้ ไม่ใช่ในอนาคตมีใครมาฟ้องก็ต้องยกเลิกไป แบบนี้กระทบกับประชาชน โดยพรรคเพื่อไทยจะเสนอพรรคร่วมฝ่ายค้านให้เปิดอภิปรายตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ด้านนายโภคิน กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายวันมานี้เริ่มมีความชัดเจน วันนี้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ตกผลึกถึงความสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะส่งผลถึงปัญหาปากท้องของประชาชน เราพยายามให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ขึ้นมาดำเนินการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับภายใน 240 วัน แล้วนำไปทำประชามติ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมดจะไปดูว่าจะรณรงค์กันอย่างไร โดยจะขอความร่วมมือจากนักวิชาการ และภาคสังคมจากทั่วประเทศมาร่วมมือกัน อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยัง ส.ว.ทุกคนให้เห็นถึงความสำคัญตรงนี้ และร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย
นายโภคิน กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เมื่อไม่ถูกต้อง จึงเป็นหน้าที่ของผู้ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องไปแก้ไข เพื่อให้ถูกต้อง ซึ่งพยายามตั้งกระทู้สดถามเรื่องนี้ และเพื่อให้เกิดความชัดเจนในรัฐธรรมนูญมีมาตรา 152 ให้ ส.ส. เข้าชื่อ 1 ใน 10 เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ต้องลงมติ เพื่อซักถามว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้กันอย่างไร.-สำนักข่าวไทย