“กนอ.”สร้างอาชีพ 1,223 ราย 10 นิคมฯนำร่องปี 62

กรุงเทพฯ 12 ส.ค. –  “กนอ.”ดันโครงการ“สานฝัน ปั้นอาชีพ” ปี’ 62 ฉลุย!! สร้างธุรกิจขนาดเล็กใหม่ๆรอบนิคมฯ นำร่อง10แห่ง  1,223 ราย ทั้งอาชีพ กลุ่มรปภ. เชฟ คนจัดสวน ช่างยนต์ และอาชีพแม่บ้าน เปิดตัวคึกคักรองรับความต้องการ ด้านแรงงานของภาคอุตสาหกรรม เดินหน้าปี’63 ลุยแผนต่อเนื่องตั้งเป้าเพิ่มอีก1,000 รายเพิ่มอีก 10 นิคมฯทั่วประเทศ คาดก่อให้เกิดรายได้ในชุมชนรอบนิคมฯเพิ่มขึ้นราว 5 ล้านบาทต่อชุมชนต่อปีภายในปี 2565   


นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (กนอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการ“สานฝัน ปั้นอาชีพ”ตามแผนยุทธ์ศาสตร์ CSR เสริมแกร่งชุมชนรอบนิคมฯระยะเวลา 3 ปี (2562-2564) ว่า กนอ.ได้เข้าไปส่งเสริมสร้างองค์ความรู้เพิ่มทักษะด้านอาชีพให้กับกลุ่มวัยแรงงาน กลุ่มวัยแรงงานใกล้เกษียณ และกลุ่มชุมชนผู้สูงอายุ ในพื้นที่นำร่องแล้ว จำนวน 10 นิคมฯ รวมทั้งสิ้น 1,223 ราย จากเดิมทีกำหนดไว้ที่ 1,000 ราย ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมบางปู นิคมอุตสาหกรรมบางชัน นิคมอุตสาหกรรมบางพลี นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ (ชลบุรี)  โดยชุมชนในแต่ละพื้นที่เข้ารับการฝึกอบรม รวมทั้งผู้ที่สามารถเข้ารับการทดสอบและผ่านการประเมินคุณวุฒิวิชาชีพ จะได้รับใบคุณวุฒิวิชาชีพจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เพื่อรับรองให้แก่ชุมชน เป็นเครื่องการันตีในการนำไปประกอบอาชีพและยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินและสถานประกอบการได้มั่นใจในการใช้บริการ ซึ่งถือเป็นแนวทางการดำเนินงานของ กนอ. ในการเข้าไปยกระดับมาตรฐานวิชาชีพให้กับชุมชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่ไปกับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมไทยในอนาคต  


สำหรับอาชีพที่ชุมชนเข้ารับการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพในพื้นที่ นำร่อง 10 นิคมฯ ได้แก่ อาชีพรักษาความปลอดภัย (รปภ.) อาชีพนวดเพื่อสุขภาพ อาชีพผลิตอาหารและเครื่องดื่ม อาชีพวิสาหกิจชุมชนต่อยอดผลิตภัณฑ์ เช่น การแปรรูปผลไม้ การทำสบู่ อาชีพคนจัดสวน ช่างยนต์ และอาชีพแม่บ้าน เป็นต้น ซึ่งโครงการ “สานฝัน ปั้นอาชีพ” มีส่วนสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนโดยรอบนิคมฯให้มีความเข้มแข็งจากการที่ชุมชนได้รับประโยชน์จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการเข้าไปส่งเสริมการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ซึ่ง กนอ.คาดว่าชุมชนจะมีรายได้เพิ่มขึ้นผ่านโครงการสานฝันปั้นอาชีพได้ ประมาณ 5ล้านบาทต่อชุมชนต่อปีภายในปี 2565 และนับเป็นแนวทางในการนำไปสู่การสร้างความสมดุลของการพัฒนาอุตสาหกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกันของสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน

“ในช่วงเริ่มต้นโครงการตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา กนอ.พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายได้เข้าไปส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้รูปแบบการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ทำให้เกิดธุรกิจขนาดเล็กระดับวิสาหกิจชุมชน โดยรอบนิคมฯนำร่อง จำนวน 10 แห่ง รวมถึงอาชีพอุตสาหกรรมบริการเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาชีพรักษาความปลอดภัย อาชีพคนจัดสวน และอาชีพผลิตอาหารและเครื่องดื่มทำให้ชุมชนได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เป็นเครือข่าย เพื่อนำไปต่อยอดขยายธุรกิจ หรือ การประกอบอาชีพในท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับชุมชนและสามารถพึงพาตนเองได้ในอนาคต”นางสาวสมจิณณ์กล่าว  


ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานวิชาชีพให้กับชุมชนและวิสาหกิจชุมชนรอบนิคมฯอย่างต่อเนื่อง กนอ.เตรียมพร้อมในการเข้าไปดำเนินการส่งเสริมโครงการ สานฝัน ปั้นอาชีพ ในปี 2563 เพิ่มอีก 1,000 รายใน 10 นิคมฯ ได้แก่ กลุ่มนิคมฯ มาบตาพุดคอมเพล็กซ์ นิคมฯ แหลมฉบัง นิคมฯ เวลโกรว์ นิคมฯ ทีเอฟดี นิคมฯ เกตเวย์ซิ้ตี้ นิคมฯ ดับบลิวเอชเอ ชลบุรี นิคมฯ อมตะซิตี้(ระยอง) นิคมฯ กลุ่มปิ่นทอง และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อสนับสนุนให้เกิดการจ้างในด้านการบริการให้แก่ภาคอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัว โดยเฉพาะการพัฒนาในอาชีพธุรกิจไฟฟ้า ช่างประปา ช่างยนต์ อิเล็กทรอนิกส์/อุปกรณ์มือถือ ช่างซ่อมเครื่องยนต์เรือเล็ก แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานขับรถ และอาชีพผลิตอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น   

โครงการ สานฝัน ปั้นอาชีพเป็นโครงการที่ กนอ. ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย 16 หน่วยงาน อาทิ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันการศึกษา สถาบันการเงินและกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สมาคมเพื่อนชุมชน และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เป็นต้น เพื่อร่วมกันถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดย กนอ. เป็นหน่วยงานกลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน และ สถาบันการศึกษา ในการเข้าร่วมสนับสนุนโครงการทั้งในด้านฝึกอบรมวิชาชีพ การให้ความรู้ด้านการเงินและการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน โดยมีธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาทางการเงินแก่ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวอีกด้วย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยทั่วไทยมีฝนเพิ่มขึ้น-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 8 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง เตือนภาคตะวันออก-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รับมือฝนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศลาว และประเทศเวียดนาม เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

จุดผ่านแดน

ผบ.กกล.บูรพา แจ้งผู้ว่าฯ สระแก้ว ถือปฏิบัติเคร่งใน 5 จุดผ่านแดน-ผ่อนปรน

7 มิ.ย. – ผบ.กกล.บูรพา แจ้งผู้ว่าฯ สระแก้ว ถือปฏิบัติเคร่งใน 5 จุดผ่านแดน-ผ่อนปรน สั่งห้ามคนไทยไปเล่นการพนัน-ท่องเที่ยว ส่วนใครที่ใช้ Border pass ให้พิจารณาจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน พร้อมห้ามรถบรรทุกสินค้า 6 ล้อขึ้นไปผ่าน ให้ไปใช้จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เท่านั้น เมื่อเวลา 19.10 น. พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา (ผบ.กกล.บูรพา) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เรื่องมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนการค้าในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว พร้อมแนบคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806 / 2568, คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 (เฉพาะ) ที่ 878/68 และแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 เรื่องควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกองทัพบกกำหนดมาตรการให้กองทัพภาคที่ […]

ทบ. แจง 4 ขั้นตอนแนวทางปฏิบัติควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย.-ทบ. แจงแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา ดำเนินการเป็นขั้นตอนตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจาก กรณีที่กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้มีการควบคุมจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ การดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวมิได้เป็นการใช้มาตรการสูงสุดในทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติแบบขั้นตอน โดยพิจารณาจากระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ ขั้นที่ 1 จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่น ๆ โดยเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นักพนัน หรือกลุ่มที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ขั้นที่ 2 ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด–ปิดจุดผ่านแดน พร้อมทั้งกำหนดวัน–เวลาการเข้า–ออกอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของบุคคลและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน ขั้นที่ 3 ปิดจุดผ่านแดนบางจุด (Selective Closure) โดยพิจารณาจากจุดที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีข้อมูลด้านความมั่นคงที่อาจนำไปสู่การรุกล้ำ หรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม ขั้นที่ 4 ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤต หรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด โฆษกกองทัพบกย้ำว่า มาตรการดังกล่าวได้มอบอำนาจให้ กองกำลังบูรพา และ […]

กองทัพอิสราเอลพบร่างตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซา

เยรูซาเล็ม 7 มิ.ย. – นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าววันเสาร์ว่า กองทัพอิสราเอลได้พบร่างของตัวประกันชาวไทยชื่อ นายณัฐพงษ์ ปินตา ที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นายคัตซ์กล่าวว่า ร่างของณัฐพงษ์ อยู่กับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ชื่อว่า กองพลน้อยมูจาฮีดีน และถูกนำกลับมาจากพื้นที่ราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ในขณะที่ครอบครัวของเขาในประเทศไทยได้รับแจ้งแล้ว นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นคนงานภาคเกษตรกรรม ถูกลักพาตัวไปจาก คิบบุตซ์ นีร์ ออซ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ใกล้ชายแดน ซึ่งเป็นจุดดที่หนึ่งในสี่ของประชากรถูกสังหารหรือถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างการโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาสในปี 2023 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นายณัฐพงษ์ ถูกลักพาตัวไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และถูกสังหารโดยผู้ที่จับตัวเขาไป ซึ่งได้ลงมือสังหารและนำร่างของตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันอีกสองคนกลับไปยังฉนวนกาซาด้วย โดยร่างของทั้งสองคนนั้นก็เพิ่งได้กลับคืนมาได้ในสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย