กรุงเทพฯ 13 ส.ค.-นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก กล่าวว่า เปิดทำการในวันจันทร์นี้ ตลาดหุ้นไทยคงจะปรับตัวลง เนื่องจากความวิตกกังวลกับเหตุการณ์ระเบิด 7 จังหวัดในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา แต่คาดว่าแรงขายจะไม่รุนแรง เนื่องจากรัฐบาลสามารถดูแลสถานการณ์ได้ดี และยังไม่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นซ้ำอีก จึงคาดว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มโรงแรม เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพัก และ เหตุการณ์ดังกล่าว กระทบต่อความมั่นใจของนักท่องเที่ยว
ประเมินแนวรับของดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,540-1,530 จุด และ หากดัชนีย่อตัวลงมาถือเป็นโอกาสจังหวะของการลงทุน เนื่องจากเชื่อว่ากระแสเงินลงทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทย
ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ประเมินว่าในวันจันทร์นี้ เงินบาทคงจะอ่อนค่าลงเล็กน้อย ผลกระทบจากแรงขายหุ้น
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากเหตุระเบิดใน 7 จังหวัด ซึ่งคาดว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นในระยะสั้น
แต่ปัจจัยหลักมาจากการที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมามาก จนระดับราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิสูงถึง 16.5 เท่า ราคาหุ้นค่อนข้างแพงจึงคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรโดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อหุ้นไทย กว่า 100,000 ล้านบาทตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตามเมื่อดัชนีปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 1,500 จุด เป็นโอกาสของการเข้าลงทุน โดยมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน
โดยแนะนำให้ลงทุนหุ้นในกลุ่มธนาคาร เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำสุดแล้ว กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีสัญญาณการก่อสร้างบ้านในระดับราคากลางถึงระดับบนมากขึ้น รวมทั้งกลุ่มรับเหมาก่อสร้างซึ่งได้ผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐที่จะเพิ่มขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง.-สำนักข่าวไทย