กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า จากผลการศึกษาและวิเคราะห์สถานภาพอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของไทย พบว่า ไทยมีวัตถุดิบทางการเกษตรจำนวนมาก เช่น อ้อย มันสำปะหลัง สามารถรองรับอุตสาหกรรมชีวภาพได้ งานวิจัยเทคโนโลยีวัตถุดิบและกระบวนการผลิตพลาสติกชีวภาพของไทยส่วนมากอยู่ในระดับปฏิบัติการยังไม่รองรับระดับอุตสาหกรรม มีการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพภายในประเทศ โดยผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพที่ผลิตได้ยังมีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์พลาสติกเดิมที่ผลิตจากปิโตรเลียม และแนวโน้มกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ก่อให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพมากขึ้น แต่ไทยยังมีข้อจำกัดบางประการที่จำเป็นจะต้องกำหนดแนวทางหรือมาตรการเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพหรือไบโอพลาสติก ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น และสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของภูมิภาคเอเชียควรมีมาตรการส่งเสริมและสนับสนุน คือ 1.ส่งเสริมการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพภายในประเทศ 2.ส่งเสริมการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีวัสดุ/การคอมพาวดน์พลาสติกชีวภาพในเชิงอุตสาหกรรม 3. ส่งเสริมตลาดภายในประเทศ 4. กำหนดและรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพและ 5. วางแนวทางการบริหารจัดการขยะพลาสติกชีวภาพที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของไทยขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในช่วงก้าวแรกเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันมีการนำเข้าเม็ดพลาสติกชีวภาพประมาณ 500 ตัน เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แล้วส่งออกตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 80 ผลิตเพื่อส่งออกเป็นหลัก โดยมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ประมาณ 42 ราย และเริ่มดำเนินการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากน้ำตาลที่จังหวัดระยองปลายปี 2559 กำลังการผลิตประมาณ 20,000 ตัน ซึ่งถือเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม พลาสติกชีวภาพถือเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่คาดว่าจะเข้ามามีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจของโลกในอนาคต เพราะเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบกับปัจจุบันมีมาตรการทางกฎหมายต่าง ๆ ของต่างประเทศที่สนับสนุนเพิ่มขึ้น อาทิ การห้ามใช้ถุงพลาสติกที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกทั่วไปของฝรั่งเศส การอนุญาตและส่งเสริมให้ใช้ถุงพลาสติกชีวภาพของอิตาลี หรือการสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวของสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าปี 2563 มูลค่าความต้องการพลาสติกชีวภาพทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณร้อยละ 20 โดยภูมิภาคเอเชียเป็นผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพในสัดส่วนประมาณร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตพลาสติกชีวภาพของโลกที่มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ประมาณ 6.73 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย