เชียงราย 31 ก.ค.-เปิดปมเหตุอุ้มประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน จ.เชียงราย เรียกค่าไถ่มาจากติดหนี้ซื้อ-ขายน้ำตาล 7 ล้านบาท ทางการลาวเตรียมส่งตัวกลับไทยพรุ่งนี้
กรณีนักธุรกิจไทยถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ 5 ล้านบาท ที่ สปป ลาว และหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย ล่าสุดยังไม่มีคำยืนยันว่า สปป ลาว จะให้เดินทางกลับไทยเมื่อใด เพราะต้องสอบสวนขยายผลถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุ เพื่อเตรียมติดตามตัวมาดำเนินคดี ขณะที่ทางการไทยได้อายัดบัญชีผู้รับโอนเงินเรียกค่าไถ่ เพื่อขยายผลเช่นเดียวกัน
ข้อมูลล่าสุดในคดีดังกล่าวมีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่นายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน จ.เชียงราย กำลังทำเอกสารเดินข้ามฝั่งไป สปป ลาว เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ภาพในกล้องวงจรปิดไม่พบบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการจับนายสิงห์แก้วเป็นตัวประกัน
หากลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เวลา 12.20 น.เศษของวันที่ 28 ก.ค. พบว่านายสิงห์แก้วข้ามไปลาวที่จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก อ.เชียงแสน จากนั้นเวลา 13.00 น. นายสวาท และนางสมจิตร ชาวลาว รวมถึงนายจุ๋ม ชาวจีน ได้มารับนายสิงห์แก้วที่จุดผ่านแดน ด่าน ตม.สากล สามเหลี่ยมทองคำ เพื่อไปพบนักธุรกิจที่ฟาร์มหมูแห่งหนึ่งในบ้านร่มเย็น
ระหว่างทางเวลา 15.00 น. มาถึงป่าช้าบ้านดอนสวรรค์ มีกลุ่มบุคคลนำรถยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียนมาจอดขวาง และใช้ปืนบังคับให้นายสิงห์แก้วขึ้นรถไป ต่อมาเวลา 15.32 น. น.ส.รสริน บุตรสาวของนายสิงห์แก้ว ได้รับข้อมูลทางโทรศัพท์เป็นคลิปวิดีโอที่นายสิงห์แก้วถูกปืนจ่อหัวและมีแผลที่ขา พร้อมบังคับให้โอนเงินเข้าบัญชีคนที่ชื่อ “อนันต์ฉาย” และเวลา 18.00 น. ตม.เชียงแสน ได้ข้อมูลดังกล่าว และประสาน สปป ลาว ให้ติดตามตัว
จากนั้นเวลา 18.30 น. ตำรวจเมืองต้นผึ้งนำกำลังติดตาม แต่ไม่พบตัว กระทั่งเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวต่อเนื่อง และนายสวาท กับนางจุ๋ม เพื่อนชาวลาว ได้มาให้ปากคำกับตำรวจเมืองต้นผึ้ง ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ หลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 29-30 ก.ค. มีการติดตามตัวนายสิงห์แก้วต่อเนื่องทุกทาง จนเวลา 11.20 น. วันที่ 30 ก.ค. เจ้าหน้าที่ได้พบตัวนายสิงห์แก้วในอาการอิดโรย
ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เดินทางไปตรวจสอบจุดผ่านพรมแดนสบรวกไทย-ลาว หมู่ที่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ซึ่งเป็นจุดที่นายสิงห์แก้วข้ามไปยัง สปป ลาว พร้อมระบุว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายอยู่ระหว่างประสานไปยังแขวงบ่อแก้ว เพื่อประสานนำตัวนายสิงห์แก้วกลับมาไทย เพื่อปฐมพยาบาลตามคำร้องของญาติ แต่ สปป ลาว อยู่ระหว่างประชุมเพื่อสรุปสำนวนคดี และยังไม่ทราบสาเหตุการเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ ขณะนี้นายสิงห์แก้วยังคงอยู่ที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ตรงข้าม อ.เชียงของ และยังไม่มีกำหนดปล่อยตัวมาไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานงานในส่วนของช่องทางการทูตเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับชุดสืบสวนของตำรวจได้เร่งติดตามเจ้าของบัญชีชาวไทยที่รับโอนเงิน และได้อายัดบัญชี จากนั้นได้ออกหมายเรียกมาให้ข้อมูล โดยชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตามประกบตัวแล้ว
นี่คือภาพล่าสุดของนายสิงห์แก้ว ที่พำนักอยู่ที่กองบัญชาการแขวงบ่อแก้ว โดยปลอดภัยดี สุขภาพจิตดี เจ้าแขวงบ่อแก้วได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมอำนวยความสะดวกหลายๆ ด้าน เบื้องต้นจะมีการส่งมอบตัวกลับไทยในเวลา 14.30 น. วันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) ที่ด่าน ตม.แขวงบ่อแก้ว สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 (เชียงของ-บ่อแก้ว) และจากการสอบปากคำนายสิงห์แก้ว พบว่ามูลเหตุจูงใจของคนร้ายในการลักพาตัวในครั้งนี้น่าจะมาจากติดหนี้เรื่องการซื้อ-ขายน้ำตาล ประมาณ 7 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย