ทางรอดในวิกฤติสื่อทีวี เนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์

กทม. 27 ก.ค.-ในเวทีเสวนาชี้การเปลี่ยนแปลงของสื่อยุคดิจิทัลส่งผลธุรกิจทีวีเผชิญวิกฤติ จากเม็ดเงินโฆษณาลดแต่กลุ่มสื่อเพิ่ม ขณะที่คนรุ่นใหม่นิยมช่องทางใหม่ ๆ ต้องปรับตัวนำเสนอเนื้อหาผ่านหลายช่องทาง ส่วนสิ่งที่จะทำให้คนหันกลับมาดูทีวี คือเนื้อหา ‘content is king’ และต้องเป็นเนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์  


สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และ Thai Livestrem ร่วมจัดงาน Startup Thailand x Videnovation 2019 ภายใต้ธีม music art & recreation tecnology(MARtech) ซึ่งเป็นการจัดงาน Video Forum ครั้งที่ 2 เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงานครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปีที่แล้ว 


ภายในงานรวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตงานด้านวิดีโอ ,นวัตกรรมเทคโนโลยี Video Mareting  ธุรกิจต่าง ๆ ที่ใช้วิดีโอเป็นตัวขับเคลื่อน รวมทั้ง startup และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องในยุคดิจิทัล

นอกจากการแสดงนิทรรศการและการแสดงเทคโนโลยี ในงานยังมีการจัดเสวนา ในหัวข้อ Fireside Chat with Media Transformation ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของนิเวศสื่อยุคดิจิทัล  โดยมีนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมเสวนา โดยกล่าวในตอนหนึ่ง ว่า ขณะนี้ อสมท รวมถึงเพื่อนพี่น้องสื่อทุกช่องกำลังเผชิญวิกฤติอย่างมาก โดยเฉพาะเม็ดเงินจากโฆษณา ที่เป็นรายได้หลักตอนนี้จำนวนเงินลดลง แต่กลุ่มสื่อกลับเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และกำลังได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ 


นายเขมทัตต์ กล่าวต่อไปว่า ในอดีต อสมท เคยมีรายได้หลายพันล้านบาท เพราะมีเงินจากหลายช่องทาง แต่ปัจจุบันการแข่งขันสูง ปัจจัยภายนอกหลายอย่างทำให้สื่อหลักดั้งเดิมอย่างทีวี จำเป็นต่องมีการปรับตัวอย่างมาก เนื่องช่องทางออกอากาศ(platform) ใหม่ ๆ มีมากขึ้น สิ่งสำคัญที่จะทำให้คนดูหันมาสนใจดูทีวี ร้อยละ 80 คือเนื้อหา ตามที่ภาษาอังกฤษบอก content is king ซึ่งในเนื้อหาจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ที่จะขาดไม่ได้ เพราะแม้เทคโนโลยีจะพัฒนาไปขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ไม่สามารถทำหรือคิดได้เทียบเท่าคน คือเรื่องความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ถ้าคนไม่หยุดสร้างสรรค์ คิดสิ่งใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ ธุรกิจทีวีไม่มีคำว่าไปต่อไม่ได้ 

นายเขมทัตต์ กล่าวอีกว่า นอกจากความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำให้อยู่รอดได้ในสงครามธุรกิจทีวีแล้ว จะต้องคำนึงถึงช่องทางในการออกอากาศด้วย ไม่ใช่แค่ทีวีอย่างเดียว 1 เนื้อหาต้องนำเสนอออกได้หลายช่องทาง จะต้องมีบุคลากรที่จะสามารถนำเนื้อหาเดียวกัน ออกไปปรับให้เข้ากับแพลทฟอร์มอื่นๆเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย และอีกเรื่องที่สำคัญในการแข่งขันเวลานี้ คือเรื่อง ฐานข้อมูล(data) จะต้องมีการวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ข้อมูล   ที่ลึกกว่า หลากหลายกว่า นำเสนอข้อมูลให้คนดูคนฟังได้อะไรมากกว่าที่เห็น

สำหรับในส่วนของ อสมท เดิมช่วง 5 ปีที่ผ่านมาดึงรายการต่างๆมาผลิตเองทำให้มีรายจ่ายเพิ่ม จากนี้จะดึงพันธมิตรมาร่วมพัฒนาและผลิตรายการร่วมกัน และแบ่งปันผลกำไรร่วมกัน นอกจากนี้จะติดต่อไปยังสำนักข่าวต่างประเทศทั้งจีน ญี่ปุ่น เพื่อบุกตลาดต่างประเทศ นำรายการ ที่ผลิตไปขาย ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าทำ แต่ อสมท จะเริ่มบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อสร้างช่องทาง สร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น รับมือกับสถานการณ์สื่อที่กำลังเปลี่ยนแปลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้