พรรคเพื่อไทย 23 ก.ค.-โฆษกเพื่อไทย แจงการประชุมร่วม 7 พรรคฝ่ายค้าน วางตัวบุคคลอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาล ยันฝ่ายค้านมีสิทธิอภิปรายนโยบายและคุณสมบัตินายกฯ-รมต. ไม่หวั่นมีการตั้งองครักษ์พิทักษณ์นายกฯ จี้รัฐตั้งวอล์รูมแก้ปัญหาภัยแล้งเร่งด่วน อย่าให้ความสำคัญเรื่องการเมืองจนลืมแก้ปัญหาปากท้องประชาชน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่าง 7 พรรคฝ่ายค้านเกี่ยวกับการแถลงนโยบายรัฐบาล โดยนายอนุสรณ์ กล่าวว่า เท่าที่ได้ศึกษาร่างนโยบายรัฐบาล พบเหมือนเป็นโบรชัวร์เลือกตั้ง ที่นำนโยบายแต่ละพรรคมาใส่ไว้โดยไม่ผ่านการกลั่นกรอง ทำให้นโยบายดูสับสน สะเปะสะปะ บางเรื่องมีความขัดแย้งกัน พรรคเพื่อไทยจึงมองเวทีแถลงนโยบายเป็นการตรวจสอบสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชน และรัฐบาลนี้มีรัฐมนตรีทั้งหมด 36 คน อย่างน้อย 9 คนเป็นหน้าเดิม จึงแสดงความเป็นห่วงว่าจะบริหารงานได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา 5 ปีก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ จึงยืนยันว่าฝ่ายค้านมีสิทธิที่จะอภิปรายนโยบายและคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี แม้จะมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีก็ตาม
“กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปลงพื้นที่วังน้ำเขียวร่วมงานสัมนากับพรรคพลังประชารัฐ ตรงนี้ท่านจะตอบว่านั่งรถส่วนตัวไป หรือไปอย่างไรก็ช่าง แต่คำถามที่ต้องการถามคือท่านไปทำไม ท่านไปในฐานะอะไร เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเท่าที่ตรวจดู ท่านยังไม่สมัครสมาชิก แล้วไปบอกให้รักกัน เข้าข่ายองค์ประกอบครอบงำพรรคหรือไม่” นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า การจัดสัมนาในรีสอร์ทที่มีปัญหารุกป่า ใช้สถานที่ที่มีปัญหาในทางคดีความ มีความเหมาะสมและสมควรหรือไม่ เนื่องจากกระทบขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่และขัดกับนโยบายอนุรักษณ์สิ่งเเวดล้อม ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีข้อมูลว่าใครเป็นคนประสานงานเลือกโรงแรมนี้ เหตุใดจึงสนับสนุนธุรกิจของโรงแรมนี้ และมีความเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชารัฐอย่างไร
นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พรรคขอเสนอให้รัฐบาลตั้งวอลล์รูมแก้ปัญหาภัยแล้งแบบเร่งด่วน ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติให้ชัดเจน ชดเชย เยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน อย่าให้ความสำคัญเรื่องการเมืองจนลืมแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน นี่คือภาพรวมของการอภิปรายของฝ่ายค้าน ซึ่งทุกเรื่องที่กล่าวมา พรรคเพื่อไทยจะนำไปใช้อภิปรายในการแถลงนโยบายรัฐบาล
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า ขณะนี้การวางตัวบุคคลอภิปรายเสร็จสิ้นแล้วกว่าร้อยละ 80 โดยกลุ่มที่ต้องตรวจสอบตัวบุคคล มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย , นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย , นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย , นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. เป็นต้น ส่วนด้านเศรษฐกิจ ผู้อภิปราย นำโดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคเศรษฐกิจใหม่ เรื่องการประจายอำนาจท้องถิ่น ผู้อภิปราย อาทิ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม ขณะที่นโยบายปฏิรูปประเทศนั้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ จะเป็นผู้นำอภิปราย ซึ่งเนื้อหาในการอภิปราย จะเป็นประโยชน์และมีความเข้มข้น จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ฟังการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านจนครบเสร็จสิ้นทุกคน เนื่องจากมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะฟังเพียงแค่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพียงคนเดียวเท่านั้น จากนั้นจะออกไปปฏิบัติภารกิจที่นอกสภาฯ.-สำนักข่าวไทย
