คุมตัวหมอเดียร์พร้อมพวก 3 คนไปฝากขัง พร้อมค้านประกันตัว

กทม. 20 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวหมอเดียร์และพวกรวม 3 คน ไปฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้าน รอง.ผบ.ตร.แถลงยืนยันผลตรวจยาลดความอ้วนสูตรของหมอเดียร์ ผสมสารไซบูทรามีน ทำแม่ลูกอ่อนเสียชีวิต





ความคืบหน้า หลังตำรวจจับกุม “หมอเดียร์” อดีตเภสัชฯ เจ้าของสูตรยาลดอ้วนมรณะที่ทำให้สาวแม่ลูกอ่อนที่สั่งซื้อยามากินเสียชีวิต วันนี้ตำรวจคุมตัวหมอเดียร์และพวกรวม 3 คน  ไปฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงยืนยันผลตรวจชี้ชัดยาลดความอ้วนสูตรของหมอเดียร์ ผสมสารไซบูทรามีน ทำให้สาวแม่ลูกอ่อน ที่ จ.อ่างทอง เสียชีวิต และยังมีสารอันตรายอื่นๆ อีกหลายตัว พร้อมเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มแก่ผู้ต้องหาในสัปดาห์หน้า


วันนี้ พนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรนามน จ.กาฬสินธุ์ ได้ควบคุมตัว นางสาวจิณณะ นิชคุณมั่น หรือ หมอเดียร์  นายธนกร เลิศสงคราม หรือดาฟ น้องชายหมอเดียร์ และนายกฤชกร บุตรวิเศษ หรือ ต่อ แฟนหมอเดียร์ ไปขออำนาจศาล จังหวัดกาฬสินธุ์ ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยทั้งหมดถูกแจ้งดำเนินคดี รวม 5 ข้อหาหนัก คือ

1.ร่วมกันผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.ร่วมกันตั้งโรงงานและประกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

3.ร่วมกันก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

4.ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต

5.ร่วมกันผลิต มีไว้ในความครอบครองเพื่อขายและขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 1 (ไซบูทรามีน ) โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมกับคัดค้านการประตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเข้าไปยุ่งเหยิงเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่างๆ  ที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนขยายผล  ขณะที่ สอบปากคำเบื้องต้น ทั้ง 3 ยังให้การภาคเสธ

ผลชันสูตรสาวแม่ลูกอ่อน พบไซบูทรามีน ทำหัวใจล้มเหลว

ด้านพลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตัวแทนจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. แถลงผลตรวจพิสูจน์สารประกอบยาลดน้ำหนัก ที่พบในร่างกายของสาวแม่ลูกอ่อนในจังหวัดอ่างทอง ที่สั่งซื้อยาลดความอ้วนออนไลน์มากินได้เพียง 12 วัน ก่อนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า สถาบันนิติเวชวิทยา ได้ทำการตรวจตัวอย่างอาหารในกระเพาะอาหารพบสารฟลูออกซิทีน ซึ่งเป็นยาระงับประสาท และในถุงน้ำดี พบสารไซบูทรามีน ซึ่งทั้งหมดส่งผลข้างเคียงให้ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และทำให้หัวใจเต้นผิดปกติเป็นเหตุเสียชีวิต

ส่วนการตรวจสอบสารประกอบของกลาง ที่ยึดได้จากโรงงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ และบ้านเช่าในจังหวัดปทุมธานี พบว่า ยาทั้ง 7 ชนิดที่ส่งขายให้กับผู้สั่งซื้อทางช่องทางออนไลน์ พบสารไซบูทรามีน เป็นส่วนผสม ส่วนใหญ่มีช่องทางนำเข้ามาจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และยังพบสารอันตรายอื่นที่เป็นส่วนประกอบในยา อาทิ ฟลูออกซิทีน  ที่ใช้ระงับประสาท สารไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ ซึ่งเป็นยาจำพวกขับปัสสาวะ เป็นต้น

พลตำรวจเอก  วิระชัย กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องทางคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยแยกออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่ทำให้สาวแม่ลูกอ่อนเสียชีวิต กลุ่มนี้มีผู้ถูกดำเนินคดีไม่ต่ำ 7 คน, กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมให้กับลูกค้ากว่า 5,000 คน มีผู้จะถูกดำเนินคดี 5-6 คนและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งโรงงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้เข้าข่ายจะถูกดำเนินคดีไม่ต่ำ 5 คน โดยผู้ต้องหาบางคนจะถูกดำเนินคดีเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่บางคนจะถูกดำเนินคดีทุกกลุ่ม

ส่วนการเยียวยาครอบครัวผู้เสียหาย ตำรวจจะเสนอไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ครอบครัวผู้เสียหายเข้ารับเงินเยียวยา เป็นค่าได้รับผลกระทบในคดีอาญา, ค่าประกอบการฌาปนกิจศพ และค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร รวมแล้วไม่เกิน 200,000 บาท

ด้านสามีผู้เสียชีวิต บอกว่า ครอบครัวรู้สึกสบายใจที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายพร้อมฝากถึงผู้ที่คิดจะใช้ยาลดน้ำหนัก ไม่ควรหาซื้อยามากินเอง เพราะเสี่ยงเกิดอันตราย และอยากให้กรณีของภรรยาตนเป็นอุทาหรณ์

สำหรับขบวนการนำเข้าผลิตไซบูทรามีน ส่งโรงงานเถื่อนผลิตยาลดความอ้วน หรือ อาการเสริม ลดความอ้วนมรณะ มีเส้นทางดังนี้ คือ ผู้สั่งได้นำเข้าไซบูทรามีน เข้ามา ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งให้กับผู้ขายส่ง ซึ่งจะนำ ไซบูทรามีนส่งต่อไป ยังโรงงานผลิตอาหารเสริม ลดความอ้วน ในจังหวัดกาฬสินธุ์  ซึ่งเป็นของ นางวสภัสสร สุลำนาจ แม่หมอเดียร์ ก่อนส่งไปจำหน่ายที่คลินิกที่ จังหวัดปทุมธานี ของหมอเดียร์ โดยที่ สาวแม่ลูกอ่อน ที่จังหวัดอ่างทอง สั่งซื้อยาลดน้ำหนักหรืออาหารเสริม ลดความอ้วน ไม่รู้ว่ามีส่วนผสมของไซบูทรามีน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

คดีนี้สืบเนื่องจาก จากกรณีที่สาวแม่ลูกอ่อน มีการสั่งยาลดความอ้วนทางเฟซบุ๊คมากิน จนเสียชีวิต ต่อมา เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และสาธารณสุขได้เข้าตรวจค้นบริษัท ดีดี คอสเมด จำกัด เลขที่ 65 หมู่ที่ 7 ต .สงเปือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตั้งเป็นโรงงานผลิตอาหารเสริมจำพวกยาลลดความอ้วน โดยผลการตรวจค้นพบเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต 15 เครื่อง ผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วนและสารไซบูตามีน นอกจากนี้ยังทำการตรรวจค้นบ้านเลขที่ 204/1 ม.8 ต.สงเปือย อ.นามน และะอาคารไม่มีเลขที่ ม.5 พบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยาลดความอ้วน ยาแผนปัจจุบันปลอมเก็บอยู่จำนวนมากรวม 187 รายการ จึงได้จับกุมตัวนางวสภัสสร สุลำนาจ หรือ แม่หมอเดียร์ ซึ่งรับว่าเป็นเจ้าของโรงงาน และเป็นแม่หมอเดียร์ พร้อมแจ้งข้อหาผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนญาต ผลิตและจำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตและขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต

สอบปากคำ นางวสภัสสร ให้กาารรับสารภาพว่า โรงงานดังกลล่าวมีนางสาวจิณณะ หรือเดียร์ นิชคุณมั่น ลูกสาว นายธนากร หรือดาฟ เลิศสงคราม ลูกชาย ร่วมเป็นหุ้นส่วน และมีนายกฤชกร หรือต่อ บุตรวิเศษ สามีของตน ร่วมดำเนินการไซบูตามีนของกางติดต่อสั่งซื้อจากนายธวัชชัย ผาสุขศรี โดยจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่พบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีของนางวสภัสสร ไปยังบัญชีนายธนากร 117 ครั้ง เป็นเงิน 7,165,000 บาท  มีการโอนเงินจากบัญชีนายธนากรไปยังบัญชีของนางวสภัสสร 30 ครั้ง เป็นเงิน 1,170,000 บาท มีการโอนเงินากบัญชี ของนางสาวจิณณะ ไปยังบัญชีของนางวสภัสสร จำนนวน 79 ครั้ง เป็นเงิน 6,196,117 บาท มีการโอนเงินจากบัญชีนางวสภัสสรไปยังบัญชีนายธวัชชัยจำนวน 79 ครั้ง เป็นเงิน 3,142,395 บาท มีการโอนเงินจากบัญชีนายธวัชชัยไปยังบัญชีของนายอภิชาติ สืบศรี จำนวน 8 ครั้งเป็นเงิน 938,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลและจับกุมตัวได้ดังกล่าว .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย