คุมตัวหมอเดียร์พร้อมพวก 3 คนไปฝากขัง พร้อมค้านประกันตัว

กทม. 20 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวหมอเดียร์และพวกรวม 3 คน ไปฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้าน รอง.ผบ.ตร.แถลงยืนยันผลตรวจยาลดความอ้วนสูตรของหมอเดียร์ ผสมสารไซบูทรามีน ทำแม่ลูกอ่อนเสียชีวิต





ความคืบหน้า หลังตำรวจจับกุม “หมอเดียร์” อดีตเภสัชฯ เจ้าของสูตรยาลดอ้วนมรณะที่ทำให้สาวแม่ลูกอ่อนที่สั่งซื้อยามากินเสียชีวิต วันนี้ตำรวจคุมตัวหมอเดียร์และพวกรวม 3 คน  ไปฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงยืนยันผลตรวจชี้ชัดยาลดความอ้วนสูตรของหมอเดียร์ ผสมสารไซบูทรามีน ทำให้สาวแม่ลูกอ่อน ที่ จ.อ่างทอง เสียชีวิต และยังมีสารอันตรายอื่นๆ อีกหลายตัว พร้อมเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มแก่ผู้ต้องหาในสัปดาห์หน้า


วันนี้ พนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรนามน จ.กาฬสินธุ์ ได้ควบคุมตัว นางสาวจิณณะ นิชคุณมั่น หรือ หมอเดียร์  นายธนกร เลิศสงคราม หรือดาฟ น้องชายหมอเดียร์ และนายกฤชกร บุตรวิเศษ หรือ ต่อ แฟนหมอเดียร์ ไปขออำนาจศาล จังหวัดกาฬสินธุ์ ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยทั้งหมดถูกแจ้งดำเนินคดี รวม 5 ข้อหาหนัก คือ

1.ร่วมกันผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.ร่วมกันตั้งโรงงานและประกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

3.ร่วมกันก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

4.ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต

5.ร่วมกันผลิต มีไว้ในความครอบครองเพื่อขายและขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 1 (ไซบูทรามีน ) โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมกับคัดค้านการประตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเข้าไปยุ่งเหยิงเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่างๆ  ที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนขยายผล  ขณะที่ สอบปากคำเบื้องต้น ทั้ง 3 ยังให้การภาคเสธ

ผลชันสูตรสาวแม่ลูกอ่อน พบไซบูทรามีน ทำหัวใจล้มเหลว

ด้านพลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตัวแทนจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. แถลงผลตรวจพิสูจน์สารประกอบยาลดน้ำหนัก ที่พบในร่างกายของสาวแม่ลูกอ่อนในจังหวัดอ่างทอง ที่สั่งซื้อยาลดความอ้วนออนไลน์มากินได้เพียง 12 วัน ก่อนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า สถาบันนิติเวชวิทยา ได้ทำการตรวจตัวอย่างอาหารในกระเพาะอาหารพบสารฟลูออกซิทีน ซึ่งเป็นยาระงับประสาท และในถุงน้ำดี พบสารไซบูทรามีน ซึ่งทั้งหมดส่งผลข้างเคียงให้ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และทำให้หัวใจเต้นผิดปกติเป็นเหตุเสียชีวิต

ส่วนการตรวจสอบสารประกอบของกลาง ที่ยึดได้จากโรงงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ และบ้านเช่าในจังหวัดปทุมธานี พบว่า ยาทั้ง 7 ชนิดที่ส่งขายให้กับผู้สั่งซื้อทางช่องทางออนไลน์ พบสารไซบูทรามีน เป็นส่วนผสม ส่วนใหญ่มีช่องทางนำเข้ามาจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และยังพบสารอันตรายอื่นที่เป็นส่วนประกอบในยา อาทิ ฟลูออกซิทีน  ที่ใช้ระงับประสาท สารไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ ซึ่งเป็นยาจำพวกขับปัสสาวะ เป็นต้น

พลตำรวจเอก  วิระชัย กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องทางคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยแยกออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่ทำให้สาวแม่ลูกอ่อนเสียชีวิต กลุ่มนี้มีผู้ถูกดำเนินคดีไม่ต่ำ 7 คน, กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมให้กับลูกค้ากว่า 5,000 คน มีผู้จะถูกดำเนินคดี 5-6 คนและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งโรงงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้เข้าข่ายจะถูกดำเนินคดีไม่ต่ำ 5 คน โดยผู้ต้องหาบางคนจะถูกดำเนินคดีเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่บางคนจะถูกดำเนินคดีทุกกลุ่ม

ส่วนการเยียวยาครอบครัวผู้เสียหาย ตำรวจจะเสนอไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ครอบครัวผู้เสียหายเข้ารับเงินเยียวยา เป็นค่าได้รับผลกระทบในคดีอาญา, ค่าประกอบการฌาปนกิจศพ และค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร รวมแล้วไม่เกิน 200,000 บาท

ด้านสามีผู้เสียชีวิต บอกว่า ครอบครัวรู้สึกสบายใจที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายพร้อมฝากถึงผู้ที่คิดจะใช้ยาลดน้ำหนัก ไม่ควรหาซื้อยามากินเอง เพราะเสี่ยงเกิดอันตราย และอยากให้กรณีของภรรยาตนเป็นอุทาหรณ์

สำหรับขบวนการนำเข้าผลิตไซบูทรามีน ส่งโรงงานเถื่อนผลิตยาลดความอ้วน หรือ อาการเสริม ลดความอ้วนมรณะ มีเส้นทางดังนี้ คือ ผู้สั่งได้นำเข้าไซบูทรามีน เข้ามา ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งให้กับผู้ขายส่ง ซึ่งจะนำ ไซบูทรามีนส่งต่อไป ยังโรงงานผลิตอาหารเสริม ลดความอ้วน ในจังหวัดกาฬสินธุ์  ซึ่งเป็นของ นางวสภัสสร สุลำนาจ แม่หมอเดียร์ ก่อนส่งไปจำหน่ายที่คลินิกที่ จังหวัดปทุมธานี ของหมอเดียร์ โดยที่ สาวแม่ลูกอ่อน ที่จังหวัดอ่างทอง สั่งซื้อยาลดน้ำหนักหรืออาหารเสริม ลดความอ้วน ไม่รู้ว่ามีส่วนผสมของไซบูทรามีน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

คดีนี้สืบเนื่องจาก จากกรณีที่สาวแม่ลูกอ่อน มีการสั่งยาลดความอ้วนทางเฟซบุ๊คมากิน จนเสียชีวิต ต่อมา เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และสาธารณสุขได้เข้าตรวจค้นบริษัท ดีดี คอสเมด จำกัด เลขที่ 65 หมู่ที่ 7 ต .สงเปือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตั้งเป็นโรงงานผลิตอาหารเสริมจำพวกยาลลดความอ้วน โดยผลการตรวจค้นพบเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต 15 เครื่อง ผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วนและสารไซบูตามีน นอกจากนี้ยังทำการตรรวจค้นบ้านเลขที่ 204/1 ม.8 ต.สงเปือย อ.นามน และะอาคารไม่มีเลขที่ ม.5 พบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยาลดความอ้วน ยาแผนปัจจุบันปลอมเก็บอยู่จำนวนมากรวม 187 รายการ จึงได้จับกุมตัวนางวสภัสสร สุลำนาจ หรือ แม่หมอเดียร์ ซึ่งรับว่าเป็นเจ้าของโรงงาน และเป็นแม่หมอเดียร์ พร้อมแจ้งข้อหาผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนญาต ผลิตและจำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตและขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต

สอบปากคำ นางวสภัสสร ให้กาารรับสารภาพว่า โรงงานดังกลล่าวมีนางสาวจิณณะ หรือเดียร์ นิชคุณมั่น ลูกสาว นายธนากร หรือดาฟ เลิศสงคราม ลูกชาย ร่วมเป็นหุ้นส่วน และมีนายกฤชกร หรือต่อ บุตรวิเศษ สามีของตน ร่วมดำเนินการไซบูตามีนของกางติดต่อสั่งซื้อจากนายธวัชชัย ผาสุขศรี โดยจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่พบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีของนางวสภัสสร ไปยังบัญชีนายธนากร 117 ครั้ง เป็นเงิน 7,165,000 บาท  มีการโอนเงินจากบัญชีนายธนากรไปยังบัญชีของนางวสภัสสร 30 ครั้ง เป็นเงิน 1,170,000 บาท มีการโอนเงินากบัญชี ของนางสาวจิณณะ ไปยังบัญชีของนางวสภัสสร จำนนวน 79 ครั้ง เป็นเงิน 6,196,117 บาท มีการโอนเงินจากบัญชีนางวสภัสสรไปยังบัญชีนายธวัชชัยจำนวน 79 ครั้ง เป็นเงิน 3,142,395 บาท มีการโอนเงินจากบัญชีนายธวัชชัยไปยังบัญชีของนายอภิชาติ สืบศรี จำนวน 8 ครั้งเป็นเงิน 938,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลและจับกุมตัวได้ดังกล่าว .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]