นครปฐม 12 ก.ค.-แม่โพสต์เตือน พาลูกวัย 8 เดือน ป่วยตาแดง ไปโรงพยาบาล หมอจ่ายยาหยอด แต่ใช้แล้วเลือดออกตา พาไปคลินิกบอกไม่ใช่ยาสำหรับเด็ก กัดเยื้อหุ้มตาเสี่ยงตาบอด
ตามที่ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ นัท โพสต์ข้อความ พร้อมกับภาพประกอบ “เตือนพ่อแม่ ลูกเราเป็นตาแดงเลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลในตัวเมือง ไปรอบแรกวันอาทิตย์ที่ 7 หมอถามอาการและให้ยาหยอดมา 1 อัน เป็นกล่องสีน้ำเงิน เราก็หยอดได้ประมาณ 2–3 วัน แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นเยอะขึ้น และเลือดออกตาเลยพาไปหาหมออีกครั้งเมื่อวันอังคารที่ 9 ตอนบ่าย ที่ชั้น 3 หมอตาเขาก็ดูตาถามอาการ แต่ไม่ได้ส่องกล้องนะ ทั้งๆที่ลูกเรามีเลือดออกตาแต่ตอนนั้นออกไม่เยอะมากเขาให้ยาหยอดตามมา 1 อัน เป็นกล่องสีขาวลายสีฟ้าขาวเราก็เอาอันนั้นมาหยอดเพราะเขาบอกว่าให้เปลี่ยนมาหยอดยาตัวนี้ เราหยอดไปได้ประมาณ 1-2 วัน ตาลูกเราเริ่มมีเลือดออกไหลมาตลอดพร้อมกับน้ำสีเหลืองๆมีกลิ่นเหม็นคาวมากตาลูกเราเริ่มบวมช้ำเลือดออกตา เรารู้สึกว่าทำไมมันเป็นกว่าเดิมไม่หายสักที เราเลยพาลูกเราไปหาคลินิกหมอตาแถว ซ.8 เราเอายาที่ได้มาจากรพ.ให้เขาดู หมอบอกว่ายาตัวนี้เป็นยาฆ่าเชื้อที่ทำให้แสบและกัดเยื่อหุ้มตามันไม่มีประโยชน์และไม่ใช่ยาที่เด็กใช้ได้ สาเหตุที่ทำให้เลือดออกตาเพราะว่ายาตัวที่รพ.ให้มามันไปกัดเยื่อหุ้มตาทำให้ตาบวมช้ำและเลือดออกตา หมอบอกเคราะห์ดีที่ตาลูกเราไม่มีเเผลไม่อย่างนั้นอาจทำให้ตาบอดได้เลย ตอนนี้ขออย่างเดียวขอให้ลูกเราดีขึ้นและปลอดภัยด้วยเถอะ”
วันนี้ ผู้สื่อข่าวไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นพบแม่ของน้อง ที่บ้านพักใน อ.เมือง จ.นครปฐม เล่าให้ฟังว่า ข้อความที่โพสต์ไป เป็นเหตุเกิดกับตัวเอง ลูกสาวป่วยตาแดงจึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้สิทธิ์บัตรทอง หมอแค่ดูๆ และก็สั่งยามาให้ เป็นยาหยอดฆ่าเชื้อ กล่องสีเขียว กลับมาหยอดตามหมอสั่ง เวลาผ่านไป 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น วันที่ 3 จึงพาลูกสาวไปหาหมอที่เดิม หมอก็สั่งยาใหม่ให้เป็นกล่องสีขาว ข้างกล่องเขียนว่ายาหยอดจมูก ตนเห็นก็ทักท้วงไปกับห้องจ่ายยา เจ้าหน้าที่อ้างว่าพิมพ์ผิด ตนจึงไม่สนใจ กลับบ้านและใช้ยาตามหมอสั่ง อาการก็ไม่ดีขึ้น กลับแย่ลงกว่าเก่า มีน้ำเหลืองๆ ออกมาข้างตา และมีกลิ่นคาว เห็นผิดปกติจึงตัดสินใจพาลูกสาวไปหาหมอที่คลินิก หมอแจ้งว่ายาที่นำมาให้ดูค่อนข้างแรง ไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ ทางคลินิกจึงสั่งยาให้ใหม่ และอาการของลูกสาวก็ดีขึ้นตามลำดับ น.ส.อนุวรรณ กล่าวต่อว่าอยากจะบอกทางโรงพยาบาลว่า การสั่งยาให้กับผู้ป่วย ต้องพิจารณาให้รอบครอบมากกว่านี้ หากลูกสาวตาบอด ใครจะรับผิดชอบ.-สำนักข่าวไทย