กรุงเทพฯ 2 ก.ค.-โฆษกกระทรวงกลาโหม เผย รมว.กลาโหม กำชับฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ประสานกับ ป.ป.ส.และส่วนราชการดูแลข้าราชการไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเด็ดขาด สั่งเกาะติดสารเคมีและเส้นทางการเงินเครือข่าย ขยายผลทุบแหล่งผลิตยาเสพติดกลางเมือง
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ประสานกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) และส่วนราชการต่าง ๆ ดูแลข้าราชการไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเด็ดขาด และให้ยังคงเข้มปฏิบัติการเชิงรุกสกัดกั้นตามชายแดนและกวาดล้างใหญ่ยาเสพติดออกจากชุมชนเมืองทั่วประเทศต่อเนื่องกันไปควบคู่กับสถาปนาเสริมความเข้มแข็งทุกชุมชน ร่วมทำหน้าที่เครือข่ายเฝ้าระวังและป้องกันปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน
“พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการเพิ่มเติมให้ขยายผลทำลายแหล่งผลิตและเครือข่ายข้ามชาติที่แฝงตัวเข้าไทยในรูปนักท่องเที่ยว หรือประกอบธุรกิจบังหน้า โดยมีคนไทยสนับสนุน ทั้งนี้ให้เพ่งเล็งตรวจสอบและติดตามความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินของเครือข่ายทั้งหมด รวมทั้งการนำเข้าหรือเคลื่อนย้ายสารเคมีที่สามารถนำไปขยายผลใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด” พล.ท.คงชีพ กล่าว
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวม รอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- มิ.ย.62) ปัญหาอาชญากรรมลูกโซ่และการใช้ความรุนแรงจากภัยยาเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ ยังคงมีปรากฏในสังคม มีการทยอยลำเลียงยาเสพติดเข้าไทยผ่านชายแดนประเทศเพื่อนบ้านต่อเนื่อง การปฏิบัติการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่สามารถสกัดกั้นและจับกุมผู้เกี่ยวข้องดำเนินคดีแล้ว จำนวน 172,185 ราย เป็นผู้ผลิต 3,742 คน ยึดยาเสพติด เป็นยาบ้ากว่า 205 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 5,400 กิโลกรัม เฮโรอีน 35 กิโลกรัม กัญชาแห้ง ประมาณ 7,000 กิโลกรัม รวมทั้งพืชกระท่อม ฝิ่น และโคเคน อีกจำนวนมาก โดยยาไอซ์ส่วนใหญ่ถูกลำเลียงลงใต้และส่งออกต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย