เชียงใหม่ 1 ก.ค.-ชาวบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ ออกมาเรียกร้องให้ย้ายเสาส่งสัญญาณมือถือออกจากชุมชน เพราะเชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้คนในหมู่บ้านป่วยตายด้วยโรคมะเร็ง ขณะที่นักวิชาการชี้แจงว่าเสาส่งสัญญาณมือถือไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
เป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านในหมู่บ้านป่าจี้ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่อาศัยอยู่ใกล้เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และเชื่อว่าสัญญาณแม่เหล็ก หรือคลื่นรังสีที่แผ่ออกมา ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุให้คนในหมู่บ้านป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเกือบ 20 ราย
เกษม ปอกแก้ว อายุ 44 ปี มีบ้านอยู่ห่างจากเสาสัญญาณมือถือเพียง 50 เมตร อาศัอยู่ในชุมชนมาตั้งแต่เกิด บอกว่าเห็นเสาสัญญาณตั้งอยู่เกือบ 20 ปีแล้ว แต่ช่วงหลังมานี้ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนเจ้าของร้านขายของชำรายนี้เพิ่งจะสูญเสียน้องสาววัย 47 ปี ไปด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก เมื่อ 2 เดือนก่อน ทั้งที่คนในครอบครัวไม่เคยมีประวัติเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง มั่นใจว่าสาเหตุน่าจะมาจากเสาส่งสัญญาณมือถือ
เช่นเดียวกับคุณตาวัย 82 ปีคนนี้ ที่กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เรียกร้องให้บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือย้ายเสาส่งสัญญาณออกจากชุมชน เพราะไม่อยากให้ตัวเองต้องมาจบชีวิตลงเหมือนคนในหมู่บ้านอีกกว่า 10 ราย ซึ่งทยอยป่วยตาย ทั้งโรคมะเร็งปอด มะเร็งกระดูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งลำไส้ ในช่วง 4-5 ปีมานี้
ด้านนักวิชาการโทรคมนาคมชี้แจงว่าเสาสัญญาณมือถือไม่ได้ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง หรือมีผลกระทบใดๆ ต่อสุขภาพ กำลังส่งของเสาสัญญาณมือถือยังมีความแรงน้อยกว่าโทรทัศน์หรือวิทยุสื่อสารนับหมื่นเท่า ที่ผ่านมาสำนักงาน กสทช. ได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับประชาชน รวมถึงการทำประชาพิจารณ์ก่อนการตั้งเสาส่งสัญญาณ เพื่อคลายความวิตกกังวลให้คนอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัย
ล่าสุดเทศบาลตำบลแม่เหียะเตรียมเจรจาชี้แจงทำความเข้าใจและหาทางออกร่วมกันระหว่างชาวบ้านในชุมชน กับเจ้าของที่ดินที่ให้เช่าพื้นที่ตั้งเสาส่งสัญญาณ และบริษัทโทรศัพท์มือถือ รวมถึงประสานให้สำนักงาน กสทช. เข้าตรวจวัดความแรงของสัญญาณ พร้อมทั้งเชิญเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ชาวบ้านป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับชาวบ้านที่ยังคงวิตกกังวลโดยไม่ทราบสาเหตุ.-สำนักข่าวไทย