กรุงเทพฯ 29 มิ.ย.- บก.น.7 ประสานอรินทราช 26 บุกรวบ “ตั้ม รูปหล่อ” โจรปล้นรถขนเงินหนีคดีนาน 4 ปี โดยใช้เงินที่ปล้นไปเที่ยวญี่ปุ่นก่อนกลับมากบดานในพักย่านบางกอกน้อย
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7 และ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. กรณีสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยอรินราช 26 ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7 และ สน.บางขุนนนท์ เข้าจับกุมนายศาสตรา สุขสม หรือ “ตั้ม รูปหล่อ” อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.455/2558 ลงวันที่ 6 ก.ค.58 ข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนยิงฯ , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมตัวได้ในบ้านเลขที่ 269/59 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 19 มิ.ย.58 นายศาสตรา ผู้ต้องหารายนี้ ได้ร่วมกันกับพวกที่ถูกจับกุมแล้ว 3 คน ก่อเหตุปล้นพนักงานรถขนเงินของ บจก.โพรเกรสกันภัย ซึ่งกำลังขนถ่ายเงินจากธนาคารกสิกรไทย ภายในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาถนนพระราม 1 ท้องที่ สน.ปทุมวัน ได้เงินสดไปทั้งสิ้นจำนวน 8.4 ล้านบาท โดยระหว่างหลบหนีกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงเปิดทางข่มขู่พนักงานรถขนเงินด้วย 2 นัด ต่อมาเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.ได้สืบสวนแกะรอยตามล่าจับกุมตัวคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุไว้ได้ 3 คน ประกอบด้วย นายทวีวงศ์ หรือตูน หอมเนียน อายุ 31 ปี นายมารุต หรือเบส แก่นคำหล่อ อายุ 29 ปี และนางอารยา ผลารักษ์ อายุ 31 ปี ยังเหลือ นายศาสตรา ผู้ต้องหารายสุดท้ายที่ยังหลบหนีโดยการข่าวในขณะนั้นทราบว่า เมื่อได้รับเงินส่วนแบ่งไปแล้ว นายศาสตรา ได้หลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไทยไปท่องเที่ยวอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
ต่อมาเมื่อช่วงเย็น วันที่ 28 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7 และ ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนนนท์ สืบทราบว่า หลังเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น นายศาสตรา ได้แฝงตัวเข้ามากบดานในพื้นที่อย่างเงียบๆ ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง จึงนำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ ค.114/2562 ลงวันที่ 28 มิ.ย.62 เข้าขอตรวจค้น แต่ นายศาสตรา ไหวตัวทัน ไม่ยอมมอบตัวกับตำรวจ ทั้งยังมีพฤติการณ์ขังตัวเองอยู่แต่ในบ้านพร้อมกับอาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก จนเหตุการณ์เริ่มตึงเครียดทางชุดจับกุมจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 เข้าทำการล้อมบ้านเอาไว้ และประสานมารดา รวมถึงอดีตแฟนสาว เดินทางเข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อม นานหลายชั่วโมง ใช้เวลาปลอบประโลมกันทั้งคืนจนเกือบรุ่งเช้า กว่า นายศาสตรา จะยอมวางอาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 4 นัด ให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวแต่โดยดี
ผลการสอบสวน นายศาสตรา ในเบื้องต้นนั้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันมีหลักฐานสามารถดำเนินคดีกับ นายศาสตรา ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ต้องหาแก๊งที่เคยก่อเหตุปล้นรถขนเงินและถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ต่างซัดทอด ว่า นายศาสตรา เป็นผู้วางแผนก่อนลงมือ และก่อนหลบหนียังเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงเปิดทาง จำนวน 2 นัดด้วยตนเอง นอกจากนั้นเมื่อสืบค้นข้อมูลหมายจับค้างเก่า นายศาสตรา ยังเคยต้องคดีร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ในท้องที่ สน.บุปผาราม สืบเนื่องจากนายศาสตรา หน้าตาดี ช่วงนั้นจึงมีหญิงสาวมาติดพันหลายคน กระทั่งเจ้าตัวไปจีบสาวในเฟซบุ๊กทำให้สามีหญิงรายหนึ่งไม่พอใจนัดเคลียร์กันที่ปากซอยประชาธิปก 2 ตอนสี่ทุ่ม ของวันที่ 10 เม.ย.54 นายศาสตรา ได้ใช้ปืนยิงคู่อริทำให้ชายคนหนึ่งอาชีพขี่รถ จยย.วินรับจ้างอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดนลูกหลงถูกยิงโดนที่อัณฑะอวัยวะเพศใช้การไม่ได้ จนถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.56 แล้วร่วมกันกับพวกก่อเหตุปล้นรถขนเงินในอีก 1 ปีถัดมา
เบื้องต้นชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนลูกซอง 4 นัด ทำการแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ ก่อนประสานพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน มารับตัวไปดำเนินคดีปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนยิงฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อไป.-สำนักข่าวไทย