จำคุก”ชาญชัย”คดีหมิ่น”คิงเพาเวอร์”

กทม. 27 มิ.ย.-คุก 8 ปี “ชาญชัย” หมิ่นประมาทกลุ่ม บ.คิงเพาเวอร์ ศาลเมตตาเห็นว่าทำเพื่อผลประโยชน์ชาติ รอลงอาญา 2 ปี 


ศาลอาญา ถ.รัชดาฯอ่านคำพิพากษาคดี บริษัท คิงเพาเวอร์ จำกัดกับพวก ซึ่งเป็นบริษัทในเครือรวม  4 ราย ยื่นฟ้องนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เป็นจำเลยใจความผิดฐาน หมิ่นประมาท ใส่ความให้ได้รับความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 กรณีวันที่ 8 มิ.ย. 59 นายชายชัย ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญศึกษา เสนอแนะมาตราและกลไกการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) แถลงข่าวที่รัฐสภา ระบุว่าบริษัท คิงส์เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ เซ็นสัญญาสัมปทานในสนามบินสุวรรณภูมิโดยมิชอบ ทำให้รัฐสูญรายได้หลายหมื่นล้านบาท นายชาญชัย ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว 


วันนี้มาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา ขณะที่ฝ่ายโจทก์มีทนายความผู้รับมอบอำนาจเดินทางมา 

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว  มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า การที่จำเลยได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานอนุ กมธ.วิสามัญศึกษาฯ นั้น จำเลยมีสิทธิ์จัดแถลงข่าวหรือไม่ เห็นว่า แนวทางการให้ กมธ.ปฏิบัติตามข้อบังคับ สปท. ข้อ 81 วรรคท้าย ห้ามให้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หากมีเหตุจำเป็นให้ประธานฯ หรือโฆษกฯ เป็นผู้จัดการแถลงข่าว การที่จำเลยอ้างว่ามีเหตุจำเป็นและมีการเสนอเรื่องให้ประธานฯ ทราบแล้วนั้น เป็นเพียงการบอกว่าจะไปแถลงข่าว ไม่ใช่การอนุญาตให้มีการแถลงข่าว และแม้จำเลยอ้างว่า ได้รับการแต่งตั้งให้ไปตรวจสอบการทุจริต ดังนั้นการที่จำเลยแถลงข่าวก็เป็นในทำนองวินิจฉัยความผิดเสียเอง

ที่จำเลยอ้างว่าการกระทำของโจทก์ทำให้รัฐได้รับความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท ก็เป็นการคาดคะเนของจำเลย การแถลงข่าวของจำเลยกรณีดังกล่าว 8 ครั้ง โดยมีข้อความลักษณะยืนยันให้ร้ายบริษัทโจทก์ทั้งสี่  จึงเป็นการทำให้โจทก์ทั้งสี่ ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นแล้ว และเมื่อยังปรากฏว่าข้อความที่แถลงนั้นถูกเผยแพร่ไปยังสื่อมวลชน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามมาตรา 328 ด้วย  พิพากษาลงโทษจำเลย ตามมาตรา 328 ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา อันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ให้จำคุก 8 กระทงๆ ละ 1 ปี เป็นจำคุกทั้งสิ้น  8 ปี อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยมีเจตนาเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ  สมควรให้โอกาสกลับตัว และจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาลงหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ มติชน ข่าวสด เดอะเนชั่น สยามรัฐ และคมชัดลึก 


นายชาญชัย กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษา ว่า คดีนี้ศาลพิพากษาจำคุกแต่ให้รอลงอาญาไว้ ซึ่งตนเคารพศาล แต่ก็มีความเห็นต่าง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้กับศาลแพ่งเคยวินิจฉัยให้ยกฟ้องในมูลเหตุเดียวกัน ตนจึงขออนุญาตใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง