ศาลฎีกา 30 ก.ค.- ทนายทักษิณ ชี้ “วิษณุ” ให้การศาลเพิ่มความสมบูรณ์ในหลายส่วน พร้อมรอฟังคำพิพากษา ไม่ขอวิจารณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้น ด้าน “ชาญชัย” มองคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่าง คดีประวัติศาสตร์ ซึ่ง “วิษณุ” เบิกความเสร็จแล้ว ทั้งหมดจะเป็นดุลพินิจของศาล นัดฟังคำสั่ง 9 ก.ย.นี้
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวนว่า ในวันนี้เป็นการไต่สวนที่ทำให้มีความสมบูรณ์ในหลายส่วนมากขึ้น จากการไต่สวนช่วงแรกที่เป็นหน่วยงานราชการและแพทยสภา ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องที่ตัวแทนจากแพทยสภาไม่ใช่ผู้ที่ทำการรักษาตัวนายทักษิณโดยตรง ดุลยพินิจต่างๆ จึงเป็นไปตามข้อบังคับของแพทย์อยู่แล้ว ซึ่งในวันนี้การที่ศาลออกหมายเรียก นายวิษณุ เครืองาม เข้ามาไต่สวน จึงได้ความชัดเจนถึงกระบวนการเตรียมการหลังจากการกลับมาจากต่างประเทศของนายทักษิณ เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้นายวิษณุ ก็ยังยืนยัน ว่าไม่มีการเตรียมการที่จะส่งตัวนายทักษิณ ออกไปรักษาภายนอกอยู่แล้ว แต่การที่ส่งตัวออกไป เป็นเรื่องกระทันหันจึงต้องส่งตัวออกไปรักษายังโรงพยาภายนอก แม้นายทักษิณ จะเลือกรักษายังโรงพยาบาลเอกชน แต่ก็ไม่สามารถทำได้
เมื่อถามว่าการไต่สวนพยานของจำเลยมีทั้งหมดกี่ปาก นายวิญญัติ กล่าวว่า ในตอนแรกตนและทีมทนายความได้เตรียมพยานไว้ทั้งหมดหลายปาก แต่ก็คัดจนเหลือ 3 ปาก ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นพยานที่ศาลต้องออกหมายเรียกแล้ว คือ อดีตแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน จึงเหลือพยานแค่ 1 ปากคือนายวิษณุ ที่เข้ามาเบิกความในวันนี้
เมื่อถามว่าการนำนายวิษณุ เข้ามาเบิกความในวันนี้จะทำให้คดีมีผลดีขึ้นหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มีความเห็น เพราะไม่อยากไปก้าวล่วงดุลยพินิจของศาล
เมื่อถามวาการออกหมายเรียกผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเข้ามาฟังคำสั่งวันที่ 9 ก.ย. มีนัยอะไรสำคัญหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ไม่มีนัยสำคัญอะไรแน่นอน เพราะเป็นเรื่องกระบวนการไต่สวนบังคับโทษอยู่แล้ว คือกรมราชทัณฑ์ ซึ่งผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ศาลจึงออกหมายเรียกเพื่อให้เข้ามาฟังคำสั่งศาล
เมื่อถามว่าคดีนี้จะมีปรากฏการณ์อะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่า การไต่สวนการบังคับโทษแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มาก่อน ถือว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนในสังคมจะต้องจับตามองการฟังคำสั่ง และตนมองว่าต้องมาดูกันอีกครั้ง และตนและทีมทนายความก็ได้ยื่นหลักฐานความจริงไปต่อศาลทั้งหมดแล้ว

ด้านนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย มีเรื่องที่ศาลสนใจ คือเรื่องกฎหมายว่ากรมราชทัณฑ์ดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม พยานจำเลยเบิกความประเด็นที่มีการปรึกษาหารือในการรับตัวนายทักษิณกลับมารับโทษที่เมืองไทย กับปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าถ้าหากนายทักษิณ มีอาการป่วยจะต้องดูแลอย่างไร ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่านายทักษิณ เป็นจำเลยในคดีทุจริต แต่กลับดูแลแบบนักโทษพิเศษเหมือนเป็นบุคคลสำคัญได้อย่างไร ที่ผ่านมาศาลได้ให้โอกาสให้ทุกฝ่ายชี้แจงข้อเท็จจริง คดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างคดีประวัติศาสตร์ ซึ่งนายวิษณุ เบิกความเสร็จแล้ว ทั้งหมดจะเป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งนัดฟังคำสั่ง 9 ก.ย.นี้
หลังจากนั้นตนจะตรวจสอบประเด็นที่ได้ร้องต่อศาลไว้ 1.ป่วยจริงหรือไม่ 2.มีใครเกี่ยวข้องบ้าง 3.คำให้การทั้งหมดมีข้อเท็จจริงอย่างไร
นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม กล่าวว่า น้ำหนักของคดีนี้อยู่ที่การให้การของแพทยสภา ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกลาง และอีกกลุ่มคือแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ที่รุกรี้รุกรน ไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ เพราะแพทย์ที่ดูแลเรื่องสมองแต่มาดูคนใครหัวใจขาดเลือด
นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ กล่าวว่าจากการไต่สวนทำให้ทราบว่าก่อนที่นายทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยได้มีการเตรียมการไว้เป็นขบวนการ ซึ่งนายวิษณุ รับทราบมาตลอด.-สำนักข่าวไทย