สื่อฯ ทยอยรับบัตรประจำตัวสำหรับทำข่าวประชุมสุดยอดอาเซียน

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- ไทยเปิดให้สื่อฯ ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมทำข่าวการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เข้ารับบัตรประจำตัวสื่อฯ เป็นวันที่ 2 มีสื่อฯ ทั้งไทยและต่างประเทศทยอยเข้ารับบัตรต่อเนื่อง พร้อมเตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ และดูแลความปลอดภัยเข้มงวด


ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่ศูนย์สื่อมวลชน สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ เพลินจิต ชั้น F วันนี้ (20 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่ เปิดให้สื่อมวลชนมารับบัตรสื่อมวลชนที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อใช้สำหรับเข้าพื้นที่ของการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ว่า มีสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างชาติ ทยอยเดินทางไปรับบัตรประจำตัวสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถรับบัตรได้ถึงวันที่ 23 มิถุนายน 

เจ้าหน้าที่ยังได้จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทำข่าว ทั้งคอมพิวเตอร์ ปริ้นเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร  wifi ไว้คอยบริการอำนวยความสะดวกภายในศูนย์สื่อมวลชนด้วย นอกจากนี้ สื่อมวลชนสามารถดาวน์โหลดข่าวการประชุม และเอกสารอื่นๆ ทั้งภาพและวิดีโอจากการประชุม ผ่านเว็บไซต์ www.asean2019.co.th 


อย่างไรก็ตาม ในวันที่มีการประชุม สื่อมวลชนที่มีอุปกรณ์บันทึกภาพนิ่งและวิดีโอ จะต้องผ่านการตรวจ ก่อนการทำข่าวทุกกำหนดการ และเจ้าหน้าที่ศูนย์สื่อมวลชนจะเป็นผู้นำพาคณะสื่อมวลชนไปยังสถานที่ประชุมตามกำหนดเวลา โดยขอให้สื่อมวลชนเดินทางมายังจุดรวม ที่ศูนย์สื่อมวลชน  ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนกำหนดการ เพื่อเตรียมความพร้อม และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หากสื่อมวลชนเดินทางไปเองจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสถานที่ประชุมไม่ว่ากรณีใดๆ

สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ  ได้เตรียมความพร้อมต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ช่วงเช้าวันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการผู้แทนถาวรประจำอาเซียน  ก่อนจะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34  โดยมีผู้แทนจากประเทศอาเซียนเข้าร่วมประชุม


สำหรับวันพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.) จะมีการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน และการประชุมเตรียมการเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจ และวันที่ 22 มิถุนายน จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ  รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน การพบปะระหว่างผู้นำอาเซียน กับสมัชชาสภาอาเซียน ผู้นำเยาวชนอาเซียน สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจอาเซียน  กลุ่มสภาหอการค้าและอุตสาหกรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับการประชุมทั้ง 2 วันเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ การรักษาความปลอดภัยบริเวณโรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก สถานที่ประชุม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ผู้ที่จะผ่านเข้าออก จะต้องได้รับอนุญาต และแสดงบัตรประจำตัวทุกครั้ง มีการอำนวยความสะดวกเส้นทางการจราจรให้กับผู้เข้าร่วมประชุม และผู้ที่เดินทางผ่านบริเวณนี้ให้เกิดความสะดวก และไม่เกิดปัญหา     . – สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง