สธ.จัดระบบดูแลสุขภาพผู้ต้องขัง หลังได้รับอภัยโทษ

สธ.15 ธ.ค.-สธ.จัดระบบดูแลสุขภาพผู้ต้องขังหลังได้รับอภัยโทษ โดยร่วม กับกรมราชทัณฑ์ตรวจสุขภาพเน้นคัดกรองโรคติดต่อ โรคที่ต้องรักษาต่อเนื่อง ‘วัณโรค-โรคเอดส์-สุขภาพจิต” พร้อมตรวจสอบสิทธิรักษาเพื่อได้รับการดูแลรักษาต่อเนื่อง ไม่อันตรายต่อตนเอง-ผู้ใกล้ชิด 


 

 


นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าในการจัด ระบบการดูแลรักษาพยาบาลผู้ต้องขังในเรือนจำ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงยุติธรรมมาโดยตลอด รวมทั้งได้พัฒนาแนวทางการจัดระบบบริการสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำ ให้เป็นไปตามสิทธิของผู้ต้องขังและสิทธิในการได้รับการบริการสาธารณสุขจากรัฐ  ซึ่ง สธ.ดูแล ในการจัดระบบให้บริการสาธารณสุขทั้งระบบ

 

ทั้งนี้ระบบการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขังในเรือนจำได้รับสนับสนุนงบฯ จาก 2 แหล่ง คืองบรักษาพยาบาลจากกรมราชทัณฑ์ดูแลผู้ต้องขังทั่วประเทศ321,347 คน (ข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 1 ก.ค.2559) และงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่จัดสรรให้โรงพยาบาล ในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามรายหัวผู้ต้องขังที่มีเลข 13 หลัก


 

โดย สธ.มอบให้ รพ.ในพื้นที่ที่มีเรือนจำตั้งอยู่ใน 44 จังหวัดประสานการจัด ระบบบริการในเรือนจำร่วมกับกรมราชทัณฑ์ให้บริการตรวจรักษา พยาบาลการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ การฟื้นฟูสุขภาพ บริการทันตกรรม จัดระบบการให้คำปรึกษา การส่งต่อ การดูแลสุขภาพจิต ระบบอาสาสมัคร หรือผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พยาบาลในเรือนจำ รวมทั้งประเมินคุณภาพสถานพยาบาลตามมาตรฐานความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังและหาก รพ.ที่ต้องรับการส่งตัวผู้ต้องขังจากเรือนจำ จะพิจารณาจัดห้องพักพิเศษไว้สำหรับผู้ต้องขังและสถานที่สำหรับนอนเฝ้าของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เหมาะสมกับการควบคุมผู้ต้องขังไม่ให้หลบหนี

 

สำหรับกรณีจะมีการอภัยโทษและปล่อยตัวนักโทษในเดือนธ.ค.59 และต้นปี 60 นั้น สธ.กำชับให้ รพ.ในพื้นที่ประสานเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ดำเนินการตรวจสุขภาพและคัดกรองโรคผู้ต้องขังที่จะได้รับการอภัยโทษก่อนที่จะได้ รับการปล่อยตัว เน้นคัดกรองโรคติดต่อและโรคที่ต้องรักษาต่อเนื่อง อาทิ วัณโรค โรคเอดส์ สุขภาพจิต เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาต่อเนื่อง ไม่เป็นอันตรายต่อตนเองและผู้ใกล้ชิด พร้อมตรวจสอบสิทธิด้านการรักษา การส่งตัวรักษาต่อเนื่องใน รพ.ตามภูมิลำเนาและสิทธิการรักษา ทั้งนี้ ให้ยึดหลักสิทธิมนุษยชน ที่ต้องได้รับการคุ้มครองไม่ให้ถูกตีตราจากสังคม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

ตร.ส่งสัญญาณจับตายโจรมาเลย์ชิงทอง

ตำรวจประชุมเร่งรัดคดีชายชาวมาเลเซียชิงทอง 184 บาท กลางเมืองหาดใหญ่ ย้ำใช้หลักยุทธวิธีไม่ประมาท เพราะคนร้ายมีปืน ส่งสัญญาณอย่าคิดต่อสู้ ตำรวจพร้อมป้องกันตัว

ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต.ปล่อยฮั้วเลือก สว.

ศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต. ปล่อยฮั้วเลือก สว. เหตุไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ กกต.ทำตามกฎหมาย หากเสียหายใช้สิทธิทางศาลอื่นได้

กู้ภัยโต้กระแสข่าวอาคารยุบตัวไม่เป็นความจริง

กู้ภัยโต้กระแสข่าวอาคารยุบตัวไม่เป็นความจริง เจ้าหน้าที่เน้นใช้เครื่องจักรสลับทีมกู้ภัย คาด 2 วัน พบผู้สูญหายมากขึ้น