หนุ่มถูก ตร. ใช้ปืนตบหน้าเลือดอาบ เหตุขับปาดกัน

นครราชสีมา 11 มิ.ย.-หนุ่มวัย32 เข้าแจ้งความ ถูกตำรวจใช้ปืนตบหน้าเลือดอาบ เหตุขับรถปาดหน้ากัน ด้าน “พ.ต.อ.สุจินต์” รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย


กรณีนายชัยยุทธ บัวแก้ว อายุ 32 ปี ชาว ต.นางรำ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา แจ้งความกับตำรวจ สภ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับตำรวจยศ ด.ต. สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ข้อหาทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวโพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุถูกตำรวจแต่งกายครึ่งท่อนใช้ปืนตบที่ใบหน้าจนเลือดอาบ ขณะขับขี่รถยนต์บน ถ.มิตรภาพ แยกตลาดแค ถูกตำรวจขับรถแซงปาดหน้ากันไปมา ก่อนจอดรถลงมาพูดคุย แต่ตกลงกันไม่ได้ ถูกตำรวจใช้ปืนตบหน้าบาดเจ็บหน้าเป็นแผลแตกเลือดอาบ


เรื่องนี้ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา เผยว่า เป็นคดีทำร้ายร่างกายกัน มีคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน สังกัดนครบาล ซึ่งมีเรื่องกับผู้เสียหายเหตุจากขับรถยนต์ปาดหน้ากัน ทั้งนี้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา สอบสวนหาพยานหลักฐานอย่างละเอียดและรอบคอบ ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ตอนนี้กำลังประสานเรียกตัวคู่กรณีทั้งคู่มาสอบปากคำและให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์ก่อเหตุ เพื่อดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่เห็นแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง ภ.จว.นครราชสีมา ถึงกรณีนี้ว่า พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว สอบปากคำผู้เสียหาย พยานที่เกี่ยวข้อง ส่งผู้เสียหายให้แพทย์นิติเวชตรวจชันสูตรบาดแผล และอยู่ระหว่างออกหมายเรียก ด.ต.เกรียงไกร ให้มารับทราบข้อกล่าวหา สำหรับการดำเนินการทางวินัยต้นสังกัดของตำรวจนายดังกล่าว จะดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป ไม่มีการช่วยคนผิด ต้องรอให้ต้นสังกัดสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง หากพบมีความผิด จะดำเนินการทั้งอาญาและวินัยเด็ดขาด วอนสังคมแยกแยะ ตำรวจที่ประพฤติไม่ดีและประพฤติดีขยันทำงานเสียสละเพื่อประชาชน อย่างไรก็ตามสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว ซึ่งในการก่อเหตุก็ถือเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติเอง จะไม่มีการช่วยเหลือตำรวจที่เป็นคู่กรณี ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการข้าราชการตำรวจทุกนายไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายเสียเอง พร้อมกำชับให้ผู้บังคับบัญชาหมั่นตรวจสอบ สอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ทั้งนี้ ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติตนนอกแถวจะดำเนินการทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้อยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงองค์กร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว