“สนธิรัตน์” เร่งเจรจาพรรคร่วม เน้นนโยบายหลักมากกว่าโควตากระทรวง

พลังประชารัฐ 10 มิ.ย.- “สนธิรัตน์” เผย พปชร.ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ต้องเร่งผลักดันเศรษฐกิจปากท้อง จำเป็นต้องมีกระทรวงหลักด้านเศรษฐกิจ เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย  เร่งเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาล ระบุ เน้นนโยบายหลักของแต่ละพรรค มากกว่าแบ่งโควตาตามกระทรวง


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานในการจัดทำนโยบายรัฐบาล เปิดเผยว่า พันธกิจสำคัญของพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาล คือ การนำนโยบายสำคัญๆ เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การดูแลราคาสินค้าเกษตร ด้วยการชดเชยเงินช่วยเหลือต่อไร่ การเพิ่มมูลค่าที่ดิน และ ส.ป.ก.4.0 ตามที่พรรคได้สัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง รวมถึง การสร้างสังคมให้เกิดความสามัคคีปรองดอง เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน 

“ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จำเป็นต้องพิจารณาเพื่อเร่งดำเนินการในเรื่องสำคัญ คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องปากท้อง และรายได้ประชาชน การลดความเหลื่อมล้ำ และการสร้างอนาคตและฐานรายได้ใหม่ให้กับประเทศ เพื่อสนองตอบกับความไว้วางใจและคะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนมอบให้กับพรรคมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง” นายสนธิรัตน์ กล่าว


นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า  ด้วยเหตุนี้ การจะบริหารงานเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่สำคัญของพรรค จำเป็นต้องมีกลไกของรัฐในกระทรวงหลักทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายเกิดความคล่องตัว ประสานสอดคล้อง ในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ระบบเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ช่วงการชะลอตัว และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องพึ่งพาความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อความสำเร็จของการทำงานของรัฐบาล โดยการผลักดันนโยบายที่พี่น้องประชาชนเรียกร้อง ให้เป็นรูปธรรม โดยเร็ว  

“ในฐานะพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการทำงานอย่างเป็นเอกภาพ และประสานสอดคล้องของกระทรวงหลักด้านเศรษฐกิจ โดยจะเจรจาหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เพื่อหาแนวทางร่วมกันให้เป็นรัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง บริหารงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องการแบ่งกระทรวง พรรคพลังประชารัฐจะเน้นในเรื่องนโยบายหลักของทุกพรรคเป็นสำคัญ มากกว่าการจัดแบ่งโควตาตามกระทรวง เพื่อให้เกิดการบริหารงานที่ตรงกับนโยบาย และแนวทางรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” นายสนธิรัตน์ กล่าว และคาดว่า จะดำเนินการเจรจาร่วมกันกับทุกพรรคร่วมให้ได้องค์ประกอบที่ลงตัว เป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่ายโดยเร็ว เพื่อให้เกิดรัฐบาลประชาธิปไตย ที่มั่นคงตามที่ประชาชนรอคอย ให้เข้ามาแก้ไขปัญหา และ ขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป  ..- สำนักข่าวไทย      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังฮามาสปล่อยตัว

“พิพัฒน์” เผย 5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังได้รับการปล่อยตัว มอบปลัดแรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์กองทุนฯ ต่างประเทศ และประกันสังคม

นายกฯ ยินดีหลังได้รับยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว

“นายกฯ แพทองธาร” ยินดีหลังได้รับการยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว สั่ง รมต.ต่างประเทศ เดินทางไปรับตัวกลับสู่อ้อมกอดประเทศไทย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับการช่วยเหลือ หวังคนไทยที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ฮามาสปล่อย 5 ตัวประกันคนไทยแล้ว

อิสราเอลยืนยัน 5 ตัวประกันคนไทย อยู่กับสภากาชาดสากลแล้ว กำลังเดินทางข้ามแดนเข้าอิสราเอล หลังถูกกลุ่มฮามาสจับกุมไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก คนละ 1 เเสนบาทคดีร่วมกันทำร้ายโดยใช้อาวุธ ออกคำสั่งห้ามเข้าใกล้ผู้เสียหาย นัดรายงานตัว 24 เม.ย.นี้